ทัวร์บูดาเปสต์ เมืองหลวงของฮังการี
ทัวร์ญี่ปุ่น ชมพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูกัง
ทัวร์ญี่ปุ่น ชมพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูกัง
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูกัง หรือเรียกอีกอย่างว่า พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโอซาก้า ไคยูกัง (Aquarium Kaiyukan, Osaka) ชาวญี่ปุ่นเรียกสั้นๆว่า ไคยูกัง สถานที่ที่รวบรวมสัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นและในทวีปเอเชีย ตั้งอยู่ที่เท็มโปซังอาเบอวิลเลจ (Tempozan Harbor Village) อยู่ที่เมืองโอซาก้า ซึ่งเป็นอาคารสุง 8 ชั้น
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูกัง เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 20 กรกฏาคม 1990 ด้านหน้าทางเข้ามีโครงเหล็กดัดเป็รตัวปลาฉลามวาฬตัวใหญ่ มีปลาโลมาล้อมรอบอยู่ ในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูกังแห่งนี้มีจุดที่น่าสนใจอยู่มากมายอย่างเช่น
ถ้ำทะเล
เป็นอุโมงค์ใต้น้ำซึ่งมีระยะทางกว่า 11 เมตรภายในนั้นก็จะมีฝูงปลานานาชนิดจำพวกอาศัยอยู่ในเขตร้อนและใกล้เคียงเช่น ปลากระเบน, ปลาฉลาม และ ปลานกแก้ว ว่ายไปมา สามารถถ่ายรูปได้อย่างสวยงาม
วงแหวนไฟ และ วงแหวนชีวิต
อยู่ชั้นบนสุดของพิพิธภัณฑ์ ขึ้นไปสุดปลายอุโมงค์ของถ้ำทะเล ซึ่งวงแหวนไฟ (Ring of Fire) เหตุเป็นเช่นนี้เพราะว่าบริเวณโดยรอบของมหาสมุทรแปซิฟิกมีการเกิดแผ่นดินไหวรวมถึงภูเขาไฟระเบิดบ่อยๆ และบริเวณที่เกิดระเบิดจากภูเขาไฟนั้นมีสิ่งมีชีวิตอยู่มาก จึงเปรียบเสมือนกับวงแหวนแห่งชีวิต (Ring of Life) มีความคิดที่ว่าแผ่นดินไหวและภูเขาไฟที่พร้อมจะระเบิดได้ทุกเมื่อที่ส่งผลกระทบกับทกสิ่งมีชีวิตที่ต่างก็เอื้อซึ่งกันและกัน
มหาสมุทรแปซิฟิก
โซนตรงนี้จะมีบ่อน้ำกว่า 5,400 ตันที่ระดับความลึก 9 เมตร ซึ่งทำเป็นชั้นๆลดลงมาเรื่อยๆจากชั้นบนสุด ภายในมีปลาน้อยใหญ่อยู่มากมาย เช่นปลาฉลาม ปลาวาฬ อีกฝั่งหนึ่งของเส้นทางจะเป็นบ่อจำลองของสภาพสิ่งแวดล้อม 10 บริเวณที่ตั้งอยู่วงแหวนแห่งไฟที่ล้อมรอบมหาสมุทรแปซิฟิก นอกจากนั้นส่วนหนึ่งของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ยังมีสัจว์หาดูได้ยากให้ชมกันอย่างเช่น นาก สิงโตทะเลแคลิฟอร์เนีย แมวน้ำ โลมาขาว นกเพนกวิน หมึกยักษ์ และปูแมงมุมเป็นต้นฯ รวมๆแล้วมีให้ชมกว่า 600 ชนิด กว่า 30,000 ตัว
Cr. ข้อมูลเที่ยวต่างประเทศ ทัวร์ญี่ปุ่น โอซาก้า
http://www.wonderfulpackage.com/p/Osaka/ทัวร์โอซาก้า-เที่ยวโอซาก้า
บรันเดนบูรก์ประตูเมืองเยอรมัน ทัวร์เยอรมัน
บรันเดนบูรก์ประตูเมืองเยอรมัน ทัวร์เยอรมัน
บรันเดนบูรก์ (Brandenburger Tor) เป็นประตูเมืองที่ถูกสร้างขึ้นในคริสต์วรรษที่ 18 ตอนปลาย ประตูแห่งนี้สร้างขึ้นตามแบบสถาปัตยกรรมฟื้นฟูคลาสสิก (Neoclassical) โดยปัจจุบันถือว่าเป็นสถานที่สำคัญอย่างกรุงเบอร์ลิน ประตูชัยตั้งอยู่ในใจกลางของเบอรืลิน ถนนหลวงอุนเทอร์ เดน ลินเดน (Unter den Linden) และถนนอีบัทสทราสเซ่ (Ebertstraße) ห่างออกไปจากประตูชัยหนึ่งบล๊อกเป็นอาคารรัฐสภาไรซ์สตาค
ประตูชัยแห่งนี้เมื่อตรงขึ้นไปจะเข้าสู่พระราชวังเมืองของพระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรปรัสเซีย (Prussia) พระเจ้าฟรีดิช วิลเฮล์มที่ 2 แห่งปรัสเซีย ทรงมีคำสั่งให้สร้างประตูแห่งนี้ขึ้นเพื่อให้เป็นสัญลักษณ์ของสันติภาพ โดยใช้เวลาสร้างตั้งแต่ปีพ.ศ. 2331 - 2334 โดยนายพลคารืล ก็อทท์ฮาร์ด แลงฮานส์ แต่ก็ได้รับความเสียหายในช่วงของสงครามโลกครั้งที่ 2 และในเวลาต่อมาในปีพ.ศ.2543 - 2545 ประตูบรันเดนบูรก์ก็ได้รับการบูรณะเสร็จ โดยมูลนิธิอนุรักษ์อนุสาวรีย์เบอร์ลิน (Stiftung Denkmalschutz Berlin)
ในปีพ.ศ. 2231 สมัยของพระเจ้าฟรีดริช วิลเฮล์มที่ 1 หลังสงคราม 30 ปีก่อนที่จะเริ่มสร้างประตูบรันเดนบูรก์ไม่นานนัก กรุงเบอร์ลินนั้นเต็มไปด้วยเส้นทางเล็กๆ ซึ่งอยู่ภายในป้อมดาว (Star Fort) แต่ประตูบรันเดนบูรก์ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของป้อมปราการแห่งนี้ แต่ก็เป็น 1 ใน 18 ประตูของกำแพงเบอร์ลิน (Berlin Customs Wall) ซึ่งถูกสร้างขึ้นในปีค.ศ.1730 โดยได้สร้างป้อมทับซ้อนกับป้อมปราการเก่ายาวไปจนถึงชานเมือง
ประตูบรันเดนบูรก์ได้สร้างขึ้นในยุคของพระเจ้าฟรีดริช วิลเฮล์มที่ 2 เพื่อเป็นเสมือนตัวแทนแห่งสันติภาพ ประตูนี้ประกอบด้วยเสาแบบดอริก 12 ต้น มีด้านละ 6 ต้นมี 5 ช่องทางเดิน โดยประชาชนสามารถเดินผ่านได้เฉพาะข้างกำแพงทั้งสองด้านเท่านั้น ด้านบนสุดเป็นปฏิมากรรมรูปควอดริก้า คือรถม้าลาก 4 ตัว ซึ่งเป็นของวิคตอเรียเทพแห่งชัยชนะนั่นเอง - ทัวร์เยอรมัน ทัวร์เยอรมนี
Cr. Wonderfulpackage ข้อมูลเที่ยวต่างประเทศ
ฮิโกเนะปราสาทสมัยเอโดะที่ญี่ปุ่น ข้อมูลท่องเที่ยวญี่ปุ่น
ฮิโกเนะปราสาทสมัยเอโดะที่ญี่ปุ่น ข้อมูลท่องเที่ยวญี่ปุ่น
ปราสาทฮิโกเนะ (Hikone Castle) เป็นปราสาทที่สร้างขึ้นมาในสมัยเอโดะ(โตเกียวปัจจุบัน) โดยสร้างขึ้นที่เมืองอิโกเนะ ในจังหวัดชิบะ ญี่ปุ่น ปราสาทฮิโกเนะเป็นปราสาทที่มีความสำคัญในทางประวัติศาสตร์ของเมืองชิบะ และในปัจจุบันยังเป็น 1 ใน 12 ปราสาทที่ยังคงอนุรักษ์สภาพเดิมเอาไว้ของประเทศญี่ปุ่น ที่สำคัญปราสาทฮิโกเนะยังเป็น 1 ใน 4 ของปราสาทมรดกแห่งชาติอีกด้วย
ปราสาทฮิโกเนะถูกสร้างขึ้นจริงๆในปีค.ศ. 1575 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของปราสาทโอสึ ในปีค.ศ. 1603 อี นะโอคะสึ ซึ่งเป็นหลานชายของอดีตไดเมียวนามว่า "อี นาโอะมาสะ" ได้สั่งให้ทำการย้ายปราสาทไปไปสร้างยังฮิโกเนะ และก็ยังคงมีส่วนอื่นๆของปราสาทฮิโกเนะที่ได้ย้ายมาจากปราสาทนางะฮามะ
ปีค.ศ.1622 เป็นปีที่สร้างตัวปราสาทเสร็จ และมีตระกูลนาโอะคะสึเป็นผู้ครอบครองปราสาทแห่งนี้ (ตระกูลนาโอะคะสึนั้นขึ้นตรงต่อรัฐบาลโทกุกาวะ) ในเวลาต่อมาเมื่อนาโอะทาเกะได้เข้ามาปกครองมณฑลโอมิ จริงได้ทำการสร้างตัวปราสาทจนเสร็จสมบูรณ์ในที่สุด (สร้างโดยนำหินมาจากปราสาทซาวายามะ)
ในยุคสมัยของการปฏิรูปเมจิในปีค.ศ. 1868 สมเด็จพระจักรพรรดิเมจิได้สั่งให้มีการรื้อถอนปราสาทมากมายหลายแห่ง ยกเว้นปราสาทฮิโกเนะที่ไม่ต้องรื้อถอน นั่นจึงทำให้ปราสาทนั้นมีอยู่จนถึงทุกวันนี้
ปราสาทฮิโกเนะเป็นหนึ่งในปราสาทที่มีอายุเก่าแก่มากที่สุดแห่งหนึ่งที่ยังคงสภาพดั้งเดิมเอาไว้ได้อย่างครบถ้วน และในเวลาต่อมา รัฐบาลญี่ปุ่นได้มีการจัดการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกแห่งชาติในปีค.ศ. 1952
*ปราสาทฮิโกเนะเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมได้ทุกวันในเวลา 8.30 - 17.00น. ยกเว้นวันหยุดราชการ
Cr.ข้อมูลท่องเที่ยวญี่ปุ่น
http://www.wonderfulpackage.com/tour/ญี่ปุ่น
รู้จักฮอกไกโดให้มากขึ้น
หลวงพระบาง เมืองเอกของประเทศลาว
หลวงพระบาง เมืองเอกของประเทศลาว
หลวงพระบาง เป็นเมืองหลวงในประเทศลาว ซึ่งอยู่ทางภาคเหนือ หลวงพระบางนั้นตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขงและแม่น้ำคานที่ไหลมาบรรจบกัน อีกทั้งเมืองหลวงพระบางแห่งนี้ยังเป็นที่องค์การยูเนสโกยกให้เป็นมรดกโลกอีกด้วย
หลวงพระบางเป็นเมืองเก่าแก่ในอาณาจักรล้านช้าง โดยแต่เดิมนั้นมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า "เมืองซวา" (อ่านออกเสียง ซัว ) ในปีพ.ศ. 1300 ปฐมกษัตริย์ลาวตอนนั้นคือขุนลอได้ทรงตั้งให้เมืองซวาเป็นอาณาจักรล้านช้าง และเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น "เชียงทอง"
ในช่วงปีพ.ศ. 1896 - 1916 สมัยพระเจ้าฟ้างุ้มได้เสด็จกลับมาจากกัมพูชา เพราะว่าพระบิดาและพระองค์นั้นต้องเสด็จลี้ภัยจากการโดนขับไล่จากกษัตริย์องค์ก่อน แท้จริงก็คือพระอัยกาของเจ้าฟ้างุ้มนั่นเอง ในขณะนั้นได้มีการรวบรวมกองกำลังอยู่ที่เสียมเรียบ เพื่อหวังที่จะกอบกู้ราชบัลลังก์คืนมา ในเวลาต่อมาสมัยพระโพธิสารราชเจ้าได้มีการอาราธนาพระบางซึ่งแต่เดิมนั้นได้มีการประดิษฐานไว้อยู่ที่เมืองเวียงคำขึ้นมาประดิษฐานอยู่ที่เมืองเชียงทองที่ในขณะนั้นเป็นเมืองหลวง และต่อมาก็ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น "หลวงพระบาง" ตั้งแต่นั้นมา
หลวงพระบางได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก เนื่องจากเหตุผลว่าที่แห่งนี้มีวัดวาอารามที่เก่าแก่อยู่มากมาย มีบ้านเรือนที่เป็นเอกลักษณ์ ตัวเมืองอยู่ติดรมแม่น้ำโขงและแม่น้ำคาน ที่ไหลมาบรรจบกันมีความงามตามธรรมชาติมากมายรวมถึงประเพณีที่งดงามเป็นเอกลักษณ์ โดยอ้างอิงตามหลักเกณฑ์ประกอบการพิจารณาดังต่อไปนี้
(ii) - เป็นสิ่งที่มีอิทธิพลยิ่ง ผลักดันให้เกิดการพัฒนาสืบต่อมาในด้านการออกแบบทางสถาปัตยกรรม อนุสรณ์สถาน ประติมากรรม สวน และภูมิทัศน์ ตลอดจนการพัฒนาศิลปกรรมที่เกี่ยวข้อง หรือการพัฒนาการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ ซึ่งได้เกิดขึ้นในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง หรือบนพื้นที่ใดๆ ของโลกซึ่งทรงไว้ซึ่งวัฒนธรรม
(iv) - เป็นตัวอย่างอันโดดเด่นของประเภทของสิ่งก่อสร้างอันเป็นตัวแทนของการพัฒนา ทางด้านวัฒนธรรม สังคม ศิลปกรรม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี อุตสาหกรรม ในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ
(v) - เป็นตัวอย่างอันโดดเด่นของวัฒนธรรมมนุษย์ ขนบธรรมเนียมประเพณีแห่งสถาปัตยกรรม วิธีการก่อสร้าง หรือการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ ซึ่งเสื่อมสลายได้ง่ายจากผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรมตาม กาลเวลา
(ii) - เป็นสิ่งที่มีอิทธิพลยิ่ง ผลักดันให้เกิดการพัฒนาสืบต่อมาในด้านการออกแบบทางสถาปัตยกรรม อนุสรณ์สถาน ประติมากรรม สวน และภูมิทัศน์ ตลอดจนการพัฒนาศิลปกรรมที่เกี่ยวข้อง หรือการพัฒนาการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ ซึ่งได้เกิดขึ้นในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง หรือบนพื้นที่ใดๆ ของโลกซึ่งทรงไว้ซึ่งวัฒนธรรม
(iv) - เป็นตัวอย่างอันโดดเด่นของประเภทของสิ่งก่อสร้างอันเป็นตัวแทนของการพัฒนา ทางด้านวัฒนธรรม สังคม ศิลปกรรม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี อุตสาหกรรม ในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ
(v) - เป็นตัวอย่างอันโดดเด่นของวัฒนธรรมมนุษย์ ขนบธรรมเนียมประเพณีแห่งสถาปัตยกรรม วิธีการก่อสร้าง หรือการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ ซึ่งเสื่อมสลายได้ง่ายจากผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรมตาม กาลเวลา
สิ่งที่ทำให้หลวงพระบางได้รับการขึ้นทะเบีนทั้งเมืองนั้นเป็นเพราะว่าได้ถูกยกย่องและประเมินให้เป็นเมืองที่ได้รับการรักษาที่ดีที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในปีพ.ศ.2538
Cr. ข้อมูลเที่ยวต่างประเทศ ทัวร์ลาว
http://www.wonderfulpackage.com/tour/ลาว
Cr. ข้อมูลเที่ยวต่างประเทศ ทัวร์ลาว
http://www.wonderfulpackage.com/tour/ลาว
เที่ยวฮอกไกโด อัศจรรย์แห่งประเทศญี่ปุ่น
เที่ยวฮอกไกโด อัศจรรย์แห่งประเทศญี่ปุ่น
แต่เดิมนั้นจังหวัดฮอกไกโดมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า "เอโซะ" และฮอกไกโดเป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับที่สองรองจากเกาะฮอนชู ซึ่งมีอุโมงค์ใต้ทะเลเชื่อมถึงกันระหว่างเกาะ ฮอกไกโด เป็นศูนย์กลางของเกาะต่าง และมีเมืองซัปโปโร ซึ่งเป็นเมืองหลวงที่ใหญ่ที่สุดของฮอกไกโด
ที่ฮอกไกโดมีประชากรอาศัยอยู่บนเกาะประมาณ 5 ล้านคน โดยส่วนใหญ่จะย้ายมาจากเกาฮอนชูกว่า 100 ปีก่อน เป็นที่ที่ชาวซามูไรได้อพยพมาอยู่ที่นี้หลังจากที่ได้แพ้ในสงคราม แต่ในความเป็นจริงที่มีในบันทึกประวัติศาสตร์แล้ว เกาะแห่งนี้มีผู้ที่อาศัยอยู่ก่อนเรียกกันว่า "ชาวไอนุ" ซึ่งปัจุบันเหลืออยู่น้อยมาก
สภาพภูมิอากาศของเกาะฮอกไกโดนั้นมีอากาศที่หนาวเย็น เฉลี่ยแล้วจะหนาวเย็นประมาณ 4-6 เดือนอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ -20 ถึง 5 องศาเซลเซียสในช่วงฤดูหนาว แล้วในหน้าร้อนจะมีอุณหภูมิอยู่ที่ 15 ถึง 30 องศาเซลเซียส
ลักษณะภูมิประเทศฮอกไกโดจะเป็นภูเขาซะส่วนใหญ่ เมืองซัปโปโรจะมีผู้คนอาศัยอยู่มากที่สุด และมีอากาศที่อุ่นกว่าที่อื่นๆในเกาะ แต่ยังไงก็ยังหนาวกว่าเกาะฮอนชู
ฮอกไกโด เป็นเกาะที่มีธรรมชาติที่สวยงามและอุดมสมบูรณ์ จึงเป็นที่สนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งในญี่ปุ่น และต่างชาติเอง ฮอกไกโด เหมาะเป็นที่พักตากอากาศ และยังมีผู้คนมาทำงานกันเพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน
เมืองฮอกไกโดมีเขตเกษตรกรรมที่มีความสำคัญที่สุดของประเทศญี่ปุ่น มีแหล่งผลิตข้าวญี่ปุ่นที่สำคัญ มีอาหารทะเลชั้นดี และผักผลไม้ที่หลากหลาย ฮอกไกโดยังเป็นแหล่งอุตสาหกรรมบางประเภทอย่างเช่นเยื่อกระดาษ แหล่งผลิตเบียร์ซัปโปโร
ที่สำคัญอีกอย่างนั้นคืออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวถือเป็นองค์ประกอบของรายได้หลักเลยทีเดียว สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดปีไม่ว่าจะเป็น ฤดูร้อนแต่อากาศกลับเย็นสบาย ชมธรรมชาติอันสวยงาม ฤดูหนาวจะมีเทศกาลที่สำคัญคือ "เทศกาลหิมะซัปโปโร" ซึ่งเป็นเทศกาลขึ้นชื่อของชาวญี่ปุ่นอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีแหล่งพักผ่อนคือบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติ สถานที่เล่นสกีก็มีอยู่มากมายเช่นกันในฮอกไกโด
Cr. ข้อมูลเที่ยวต่างประเทศ ทัวร์ญี่ปุ่น ทัวร์ฮอกไกโด
http://www.wonderfulpackage.com/tour/ญี่ปุ่น
http://www.wonderfulpackage.com/p/ทัวร์ฮอกไกโด/ทัวร์ฮอกไกโด
ทัวร์ยุโรป พระราชวังวินด์เซอร์แห่งสหราชอาณาจักร
ทัวร์ยุโรป พระราชวังวินด์เซอร์แห่งสหราชอาณาจักร
พระราชวังวินด์เซอร์ (Windsor Castle) พระราชวังแห่งนี้ตั้งอยู่ที่วินด์เซอร์ ในมณฑลบาร์คเชอร์แห่งสหราชอาณาจักร พระราชวังวินด์เซอร์สร้างขึ้นในปีค.ศ.1070 โดยสมเด็จพระเจ้าวิลเลี่ยมที่ 1 แห่งสหราชอาณาจักร การสร้างพระราชวังนั้นจะเป็นสถาปัตกรรมแบบโรมาเนสก์ พระราชวังวินด์เซอร์เป็นพระราชวังที่เก่าแก่ที่สุดในโลก และมีผู้คนอาศัยอยู่มากที่สุดในโลกด้วย
เนื้อที่ของพระราชวังนั้นมีประมาณ 45,000 ตารางเมตร พระราชวังบัคคิงแฮม พระราชวังวินด์เซอร์ และพระราชวังโฮลี รู๊ด เป็น 3 พระราชฐานแห่งราชวงศ์อังกฤษ มีการระบุว่า สมเด็จพระราชินีอลิซาเบธที่ 2 ทรงใช้เวลาในวันสุดสัปดาห์ที่พระราชวังวินด์เซอร์ เพื่อเป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงส่วนพระองค์ และเป็นทางการ
ในสมัยก่อนจนถึงปัจจุบัน พระมหากษัตริย์แห่งอังกฤษทุกพระองค์ จะมีส่วนเกี่ยวข้องในการสร้าง รวมถึงการวิวัฒนาการของพระราชวังวินด์เซอร์มาตลอด ทรงปรับเปลี่ยนอย่างหลายรูปแบบอาทิ ในสมัยก่อนเคยใช้เป็นป้อมปราการ เคยเป็นที่อยู่อาศัย และยังเคยใช้เป็นเรือนจำที่คุมขังนักโทษมาแล้ว
เมื่อจบการศึกสงครามก็จะมีการต่อเติมขยายส่วนของพระราชวังทั้งเป็นห้องที่อยู่อาศัย แต่เมื่อมีสงครามก็สามารถเปลี่ยนมาเป็นป้อมปราการอย่างแข็งแรงได้เช่นเดียวกัน
การเปลี่ยนแปลงของพระราชวังวินด์เซอร์มากที่สุดคือ ภายหลังจากสิ้นสุดสงครามดอกกุหลาบ คือการก่อสร้างชาเปลขึ้น ในช่วงที่บ้านเมืองกำลังสงบก็เริ่มมีการก่อสร้างพระราชวังเพื่อให้อยู่ได้สบายมากยิ่งขึ้น โดยไม่คำนึงถึงความแข็งแรงในการที่จะต้องเข้าสู่สงครามดังแต่ก่อน
ที่เห็นได้หลักๆเลยก็คือการสร้างระเบียงรูปเกือกม้าในปีค.ศ. 1480 เพื่อใช้เป็นที่พักของนักบวช ระเบียงรูปเกือกม้านั้นก็เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 4 แล้วในปีค.ศ. 1871 ก็ได้มีการบูรณพระราชวังขึ้นมาใหม่ จนสิ่งก่อสร้างเก่าแก่นั้นแทบจะไม่เหลือเลย
*เกร็ดเล็กน้อย ชาเปลนั้นไม่ได้หมายถึงวัดที่มีขนาดเล็กๆนะคะ ซึ่งในความหมายเดิมแล้วนั้นคือ มหาวิหารขนาดเล็ก ที่ซึ่งมีการเก็บพระศพเอาไว้ และชาเปลนั้นก็มีความสำคัญอย่างมากต่อราชวงศ์อังกฤษ
Cr. ทัวร์ยุโรป ทัวร์อังกฤษ เมืองเก่าแก่ของยุโรป
http://www.wonderfulpackage.com/tour/ยุโรป
3 สุดยอดสถานที่เที่ยวจีน ตอนที่2
3 สุดยอดสถานที่เที่ยวจีน ตอนที่2
1. พระราชวังโปตาลา (Po ta la) พระราชวังแห่งนี้ตั้งอยู่ที่กรุงลาซา เขตปกครองตนเองธิเบต พระราชวังแห่งนี้ตุ้งอยู่เหนือกว่าระดับน้ำทะเล 3,600 เมตร ตัวพระราชวังเองเป็นทั้งพื้นที่อันศักดิ์สิทธิ์และยังเป็นป้อมปราการ ซึ่งสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 17 สมัยพระเจ้าซรอนซันกัมโป ที่ทรงเป็นกษัตริย์แห่งจักรวรรดิทิเบต ตัวของพระราชวังนั้นได้ถูกทำลานเสียหายอยู่หลายครั้ง และก็ได้มีการสร้างขึ้นหลายครั้งด้วยกัน
จนมาถึงในรัชสมัยของทะไลลามะองค์ที่ 5 ได้มีพระบัญชาให้สร้างในลักษณะของวังซ้อนวัง โดยวังชั้นนอกเป็นสีขาว เรียกว่า "วังขาว" และวังชั้นในเป็นสีแดงเรียกว่า "วังแดง" ซึ่งสร้างห่างจากวังขาวนานถึง 50 ปีเลยทีเดียว
พระราชวังโปตาลามีทั้งบันไดไม้และบันไดหิน มีห้องต่างๆมากมาย มีห้องสวดมนต์ขนาดใหญ่ที่มีพุทธรูปเคารพเกือบสองแสนองค์ ในปัจจุบันพระราชวังแห่งนี้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ไปแล้ว
2. พระราชวังฤดูร้อน (Summer Palace) วังแห่งนี้ตั้งอยู่ที่กรุงปักกิ่ง อยู่ใกล้ๆกับบริเวณของพระราชวังหยวนหมิงหยวน ที่ห่างจาก พระราชวังต้องห้ามไปราว 8 กิโลเมตร
พระราชวังฤดูร้อนมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า "อี๋เหอ-ยุเหวียน" วังแห่งนี้มีพื้นที่ประมาณ 3 ตารางกิโลเมตร มีเนินเขาสูงถึง 60 เมตร ซึ่งมีตำหนักตั้งอยู่บนเนินเขา และทะเลสาบคุนหมิงมีพื้นที่ประมาณ 2.2 ตารางกิโลเมตร หรือ 3ใน4 ของพื้นที่ทั้งหมด ซึ่งทะเลสาบนี้เกิดขึ้นจากการขุดดินไปถมให้เป็นเนินเขาเพื่อใช้สร้างพระตำหนัก
พระราชวังต้องห้าม เริ่มก่อสร้างในปีค.ศ. 1115 แล้วเสร็จในปีค.ศ. 1234 ในสมัยราชวงศ์จิน เมื่อย้ายเมืองหลวงมาอยู่ที่ กรุงปักกิ่ง และได้ใช้เป็นที่ประทับของราชวงศ์หยวน จนมาถึงราชวงศ์ชิง ของจักรพรรดิเฉียนหลงได้ทรงบูรณะและสร้างตำหนักแห่งหใม่บนเนินเขาในปีค.ศ. 1749
3. เขาหวงซาน เป็นเทือกเขาที่อยู่ทางตอนใต้ของมณฑลอันฮุยของ ประเทศจีน เขาหวงซานมีชื่อเสียงในด้านทิวทัศน์อันสวยงามของยอดเขาหินแกรนิตและต้นสนหวงซานที่มีรูปร่างแปลกตา มีหมอกหนาที่ลอยอยู่ใกล้กับยอดเขา
บริเวณเทือกเขามีบ่อน้ำพุร้อนและบ่อน้ำธรรมชาติอยู่มากมาย จึงไม่แปลกนักที่จะมีของฝากเป็นภาพวาดของเขาหวงซาน รวมถึงปรากฏชื่อในทางวรรณกรรมอยู่บ่อย ปัจจุบันนี้องค์การยูเนสโกได้ให้เขาหวงซานรับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก และถือได้ว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากอีกแห่งหนึ่งในประเทศจีน
เทือกเขาหวงซานมีเขาอื่นๆอยู่เป็นจำนวนมาก แบ่งเป็นภูเขาที่มีชื่อเรียก 72 ยอดเขา และภูเขาที่มีความสูงกว่า 1,000 เมตรมีอยู่ 77 ยอด และมียอดเขาที่สูงที่สุด 3 อันดับแรกคือ
1.ยอดเขาเหลียนหัว มีความสูง 1,864 เมตร
2.ยอดเขากวงหมิง มีความสูง 1,840 เมตร
3.ยอดเขาเทียนตู่ มีความสูง 1,829 เมตร
Cr. ทัวร์จีน ทัวร์ปักกิ่ง ทัวร์สนุกประทับใจทุกบริการ
http://www.wonderfulpackage.com/p/beijing/ทัวร์ปักกิ่ง-เที่ยวปักกิ่ง
http://www.wonderfulpackage.com/tour/จีน
ภาพสวยๆจาก google.com
เที่ยวจีน เยือนสุสานจักรพรรดิฉินที่1 ตอนที่ 1
เที่ยวจีน เยือนสุสานจักรพรรดิฉินที่1
เที่ยวจีน กับ wonderfulpackagetravel ขอพาทุกท่านไปชมสุสานของจักรพรรดิฉินที่1 กันค่ะ จะเป็นอย่างไรนั้นตามไปกันเลย3 สถานที่ท่องเที่ยวสุดยอด เกาหลี
3 สถานที่ท่องเที่ยวสุดยอด เกาหลี
สวัสดีครับ ถ้าเพื่อนๆอยากจะไปท่องเที่ยว ณ ประเทศเกาหลีใต้แล้ว คงมีหลากหลายสถานที่ให้เที่ยวกันไม่รู้จบใช่มั้ยหล่ะครับ แต่ในวันนี้ทาง wonderfulpackagetravel ขอคัดเลือกมา 3 สถานที่ท่องเที่ยวเกาหลี ที่ทุกคนไม่ควรพลาดครับ จะมีที่ใดบ้างนั้นติดตามกันเลยครับทัวร์ยุโรปตะวันออก ไปเที่ยวอิตาลีกันเถอะ
ทัวร์ยุโรปตะวันออก ไปเที่ยวอิตาลีกันเถอะ
สวัสดีค่ะเพื่อนๆชาว WonderfulpackageTravel เคยมีความคิดหรือความฝันที่ว่า "ฉันอยากจะไปท่องเที่ยวยังต่างประเทศ" ซักครั้งหนึ่งในชีวิตบ้างรึเปล่าคะ ในวันนี้เราจะพาเพื่อนๆไปรู้จักกับเมืองแห่งสปาเก๊ตตี้ นั่นคือ ประเทศอิตาลี นั่นเอง สถานที่ท่องเที่ยวอิตาลี นั้นจะมีอะไรน่าสนใจบ้างตามไปดูกันเลยค่ะ
5 สุดยอดสถานที่ท่องเที่ยว ฮ่องกง
5 สุดยอดสถานที่ท่องเที่ยว ฮ่องกง
ฮ่องกง เป็นเขตปกครองตนเองที่อยู่ทางตอนใต้ของประเทศจีนซึ่งมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ในวันนี้จะขอพาไปรู้จักกับสุดยอด 5 สถานที่ท่องเที่ยว ฮ่องกง เมื่อเพื่อนๆมา เที่ยวฮ่องกง จะต้องมาให้ได้ค่ะ
5สุดยอด สถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่น ที่ต้องไปให้ได้
5สุดยอด สถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่น ที่ต้องไปให้ได้
สวัสดีครับเพื่อนๆชาว wonderfulpackagetravel นี่ก็ใกล้จะเข้าสู่เทศกาลปีใหม่กันแล้วนะครับ หลายคนก็คงวางแผนไปท่องเที่ยวกันบ้างแล้ว แต่ใครที่ยังไม่รู้จะเดินทางไปเค้าดาวน์ที่ไหนดีนั้น ในวันนี้จะขอพาทุกคนไปยัง 5 สถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่น ที่เป็นจุดเด่นๆ จะมีที่ไหนบ้างติดตามชมได้เลยครับจัตุรัสเทียนอันเหมิน ประตูสวรรค์ของเมืองจีน
จัตุรัสเทียนอันเหมิน ประตูสวรรค์ของเมืองจีน
สวัสดีครับเพื่อนๆชาว Wonderfulpackagetravel ผู้ที่ชื่นชอบทุกการเดินทางครับ ในวันนี้เราจะเปลี่ยนบรรยากาศกันซักนิดครับ หลังจากที่ Blog นี้จะเน้นไปเที่ยวยังประเทศญี่ปุ่นซะมากกว่า แต่ในวันนี้ขอออกนอกเส้นทางกันบ้างน้าาา แล้วเราจะพาไปรท่องเที่ยวที่ไหนนั้น ตามมาเลยครับ
ศาลเจ้ายาซากะ ศาลเจ้าที่เป็นมากกว่าศาลเจ้า - ทัวร์เกียวโต
ศาลเจ้ายาซากะ ศาลเจ้าที่เป็นมากกว่าศาลเจ้า - ทัวร์เกียวโต
วัดนันเซ็นจิ ที่ประทับของจักรพรรดิญี่ปุ่น
วัดนันเซ็นจิ ที่ประทับของจักรพรรดิญี่ปุ่น
ในที่สุดก็เดินมาถึงหน้าประตูทางเข้าวัดจนได้ ที่วัดเซ็นนันจิมีประตูทางเข้าวัดขนาดใหญ่ มีชื่อเรียกว่า " ประตูซันมง (Sanmon) " ซึ่งสร้างขึ้นจากต้นไม้ใหญ่ทั้งต้น และถ้าอยากจะขึ้นชมประตูนี้ก็จะต้องเสียค่าเข้าชม 500 เยนด้วยครับ ประตูซันมงแห่งนี้ได้สร้างเสร็จในปีพ.ศ.2171
เมื่อเข้ามายังภายในบริเวณวัดก็จะมองเห็นสะพานอิฐแดงขนาดใหญ่อยู่ ซึ่งสะพานอิฐแดงนี้ใช้เป็นที่วางท่อน้ำจากทะเลสาปบิวา (Lake Biwa) เพื่อนำน้ำเข้ามาใช้ภายในวัดแห่งนี้ในสมัยก่อนครับ (ปัจจุบันได้เลิกใช้ไปแล้ว)
แต่เดิมนั้นวัดนันเซ็นจิเป็นวัดที่เคยเป็นวังมาก่อนครับ เป็นวังที่ใช้ประทับของพระจักรพรรดิคาเมยามะหลังจากที่ได้ทรงสละราชสมบัติไปในปีพ.ศ. 1817 โดยตัวของพระองค์นั้นทรงเลื่อมใสในการนั่งกรรมฐาน จึงได้ยกวังแห่งนี้ให้สร้างเป็นวัดนันเซ็นจิในปีพ.ศ.1834 จนถึงปัจจุบันนั่นเอง
นอกจากนั้นยังใช้เป็นที่ทำการใหญ่ของนิกายรินไซ (นิกายย่อยของพุทธศาสนานิกายเซน) ในอีกไม่กี่ปีต่อมาบริเวณศาลา Seiryo-den ที่เป็นอาคารหลักของวัด ก็มีชื่อเสียงในเรื่องของการตกแต่งสวนหินอย่างสวยงาม อีกทั้งประตูบนศาลาเป็นแบบประตูบานเลื่อน (Fusuma) อีกด้วย ซึ่งบนประตูก็มีการตกแต่งลวดลายที่สวยงามเช่นกัน ( ต้องเสียค่าเข้าชม 500 เยน เวลาเปิด 08.40 - 17.00น. ครับ )
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
wikipedia.com
ทัวร์เกียวโต เที่ยวเกียวโต
ภาพจาก google
เกียวโต เมืองหลวงเก่าเสน่ห์แบบญี่ปุ่นขนานแท้
เกียวโต เมืองหลวงเก่าเสน่ห์แบบญี่ปุ่นขนานแท้
เที่ยวเกียวโต |
เนื่องด้วยที่แต่เดิมนั้นเมืองเกียวโตเคยเป็นเมืองหลวงมาก่อน จึงไม่แปลกที่เมืองแห่งนี้จะมีความเจริญครบแทบทุกด้านไม่ว่าจะเป็น วัฒนธรรม ประเพณี ศิลปะ มีโบราณสถาน โบราณวัตถุ และที่เด่นๆเลยก็เห็นจะเป็นวัดหรือศาลเจ้าที่มีมากกว่า 1,650 แห่งทั่วเมือง นอกนี้ยังมีศาลเจ้าลัทธิชินโตราวๆ 400 แห่ง รวมถึงปราสาท พระราชวังที่พระจักรพรรดิเคยประทับอยู่
ถึงแม้ว่าประเทศญี่ปุ่นจะทำสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็ตาม เมืองต่างๆหลายเมืองก็ถูกทำลาย เสียหายจากการทิ้งระเบิดหลายเมืองไม่ว่าจะเป็น โตเกียว ฮิโรชิมา นางาซากิต่างก็เสียหายมากมาย แต่เมืองเกียวโตและเมืองนารากลับไม่ถูกโจมตีจากฝ่ายสัมพันธมิตร นั่นจึงทำให้คนรุ่นหลังยังคงได้เห็นความเป็นอยู่ วัฒนธรรมศิลปะและสถาปัตยกรรมโบราณที่งดงามคงเหลือไว้จนถึงปัจจุบัน
การที่จะเดินทางไปเที่ยวเกียวโตนั้นควรใช้เวลาอย่างน้อยๆซัก 2 วันเพื่อชมวัดวาอาราม ศาลเจ้าทั่วเกียวโตเพราะแต่ละแห่งนั้นมีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์ประจำสถานที่นั้นๆ เกียวโตนั้นเป็นเมืองที่มีสเน่ห์แบบญี่ปุ่นดั้งเดิมแท้ๆ ซึ่งได้รับการอนุรักษ์เอาไว้เป็นอย่างดี
ในปัจจุบันนั้นเมืองเกียวโตเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 7 ของญี่ปุ่น ดดยมีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 1.5 ล้านคน เกียวโตมีพื้นที่ราวๆ 610 ตารางกิโลเมตร (ข้อมูลจาก wiki) เมืองเกียวโตเป็นเมืองที่มีความสำคัญในอันดับต้นๆในเรื่องของการท่องเที่ยวทางด้านวัฒนธรรมและโบราณสถาน นั่งจึงทำให้นักท่องเที่ยวที่ได้มีโอกาสมาเที่ยวญี่ปุ่น จึงมาเที่ยวชมเมืองนี้เป็นอันดับต้นๆก็ว่าได้....
การเดินทางจากโอซาก้าไปยังเกียวโต มีวิธีดังต่อไปนี้
- JR Tokyo Line จากสถานีโอซาก้าไปลงที่สถานีเกียวโต ใช้เวลาเดินทาง 25 นาทีโดยประมาณ (ค่าโดยสาร 540 เยน)
- JR Tokaido Shinkansen จากสถานีชินโอซาก้า (Shin-Osaka) ลงที่สถานีเกียวโต ใช้เวลาเดินทาง 16 นาที (ค่าโดยสาร 1,380 เยน)
- JR Haraku Airport Express ขึ้นจากสนามบินคันไซ จะมีสถานีให้เลือกหลายสายได้แก่ สถานี Tennoji, Nishikujo, Shin-Osaka ไปลงยังสถานีเกียวโต
- Keihan Railway จากสถานีโยโดบาชิ (Yodobashi) ไปลงที่สถานี Sanjo Station ในเกียวโต ใช้เวลาประมาณ 50 นาที (ค่าโดยสาร 400 เยน)
- Hankyu Railway จากสถานีอูเมดะ (Umeda) ไปลงที่สถานี Karasuma ในเกียวโต ใช้เวลาเดินทาง 50 นาที (ค่าโดยสาร 390 เยน) ทัวร์เกียวโต
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
http://www.wonderfulpackage.com
http://th.wikipedia.org
ขอคุณรูปภาพจาก
Google.in.th
wallpoper.com
unforbiddingcity.files.wordpress.com
jmjtravels.com
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)