โตเกียว แผนที่ญี่ปุ่น ฮอกไกโด เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง pantip เกียวโต ฟุกุโอกะ สถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่น ชิราคาวาโกะ ชินจูกุ เที่ยวฮอกไกโด ภูเขาไฟฟูจิ ปราสาทโอซาก้า เที่ยวโตเกียว pantip ที่เที่ยวโตเกียว นาโกย่า ทัวร์ญี่ปุ่น pantip ไปเที่ยวญี่ปุ่น วัฒนธรรมญี่ปุ่น เที่ยวเกียวโต เที่ยวโตเกียวด้วยตัวเอง โตเกียวดิสนีย์แลนด์ ทัวร์ญี่ปุ่น ฮอกไกโด ทาคายาม่า

Website Traffic

Hakone เมืองท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น

Hakone เมืองท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น

ทัวร์ญี่ปุ่น

Hakone Kora Park

เที่ยวญี่ปุ่น

เมื่อลองเดินตามถนนเลียบทางขึ้นรถไฟไปราวๆ 10 นาทีก่อนที่จะถึงสถานีโกร่า จะสังเกตุเห็นป้ายบอกทางไปยังสวนโกร่าปาร์ค (Gora Park) ที่ชี้ขึ้นไปบนเนินเขาสูงชัน ทำเอาเกือบจะถอดใจไปเหมือนกัน แต่ไหนๆก็อุส่าเดินทางมาถึงที่นี่แล้ว จะถอยกลับก็คงไม่ได้ เอาเว๊ย ต้องลองสักครั้ง!! กว่าจะเดินถึงและกว่าจะหาทางเข้าเจอ ทำเอาท้อเหมือนกัน ภายในสวนโกร่าแห่งนี้เป็นสวนหินขนาดใหญ่ มีทั้งต้นไม้ ดอกไม้นานาพันธ์ุ แล้วยังมีสระน้ำพุยักษ์ (Gigantic Fountain Pond)

Sounzan Cable Car

  หลังกจากที่เดินชมสวนโกร่าเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาลงเขาเพื่อไปขึ้นรถรางเคเบิ้ลคาร์ (Sounzan Cable Car) ซึ่งอยู่ที่สถานีโกร่า (Gora) เพื่อขึ้นไปยังสถานี Sounzan บนยอดเขาที่มีระดับความสูง 761 เมตรโดยประมาณ ตัวรถเคเลิ้ลนั้นจะมีเพียงแค่ 2 ตู้ ออกทุกๆ 15-30 นาที แล้วจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 9 นาที และจะแวะจอดตามสถานีเล็กๆตามรายทางที่ค่อยๆสูงขึ้นไปด้วย (ประมาณ 3-4 สถานีได้) ส่วนค่าโดยสารนั้นอยู่ที่คนละ 410 เยน ด้วยรถที่มีบริการจำกัดและนานๆก็จะออกที จัดทำให้บนรถอัดแน่นด้วยผู้โดยสารเหมือนปลากระป๋อง - -"




กระเช้าไฟฟ้า Hakone Ropeway


  จากสถานี Sounzan นั่งกระเช้าไฟฟ้า (Rope way) ต่อไปอีก 7 นาทีก็จะมาถึงสถานีโอวาคุดานิ (Owakudani) ในระหว่างทางมองลงไปข้างล่างจะเห็นควันออกจากบ่อกำมะถันที่พวยพุ่งขึ้นมาจากภูเขา ที่โอวาคุดานิมีอาหารที่ขึ้นชื่อและเป็นสัญลักษณ์อีกอย่างหนึ่งนั่นก็คือ "ไขดำโอวาคุดานิ" แวะชิมไปด้วยในขณะที่นั่งกระเช้า กระเช้าสามารถรับผู้โดยสารได้ครั้งละ 8 คน


  หลังจากแวะชิมไข่ดำแล้วเปลี่ยนกระเช้า ในครั้งนี้จะเป็นกระเช้าที่จุได้ 4 คนเท่านั้น ผ่านสถานีอูบาโกะ (Ubako) ซึ่งไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจ ใช้เวลาเดินทางอีกประมาณ 18 นาทีก็จะมาถึงสถานีโทเดนได (Todendai) เพื่อเตรียมจะลงเรือล่องในทะเลสาปอาชิต่อไป ประเทศญี่ปุ่น ทัวร์ญี่ปุ่น เที่ยวญี่ปุ่น









ระหว่างทางบนกระเช้าและที่สถานีโอวาคุดานิ ท่องเที่ยวญี่ปุ่น จะอยู่ที่ระดับความสูงถึง 1,044 เมตร แล้วในวันที่อากาศแจ่มใสปรอดโปร่งก็สามารถที่จะมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้อย่างชัดเจนอีกด้วย สำหรับค่าโดยสารกระเช้าไฟฟ้าทั้งสองช่วงแบ่งเป็น เที่ยวเดียวราคาอยู่ที่ 1,330 เยน และแบบไป-กลับ อยู่ที่ 2,340 เยน

ขอบคุณข้อมูลจาก Wonderfulpackage.com
Cr.รูปภาพจาก Google

ภูเขาไฟฟูจิ - เที่ยวญี่ปุุ่น

ภูเขาไฟฟูจิ

ท่องเที่ยวญี่ปุ่น

  บริเวณของภูเขาฟูจิตั้งอยู่ในเขตชูบุ (Chubu) รายล้อมไปด้วยทะเลสาปยามานากะ คาวากูชิ ไซ โชจิและโมโตสึ ภูเขาไฟฟูจิเปรียบเหมือนเป็นสัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่นที่คนทั่วโลกรู้จักกันดี เป็นภูเขาที่มีความงดงามด้วยรูปทรงกรวยที่สมส่วน บนยอดเขามีหิมะปกคลุมตลอดปี ผู้ที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นต่างมุ่งตรงไปยังที่นี่หรือไม่ก็ชมอยู่ห่างๆก็พอใจแล้ว เพราะทางญี่ปุ่นให้สามารถปีนขึ้นไปได้ในช่วงเดือนกรกฏาคม - สิงหาคมเท่านั้น

เจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่วัดฮาเสะเดระ - ญี่ปุ่น

เจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่วัดฮาเสะเดระ - ญี่ปุ่น

ทัวร์ญี่ปุ่น

จากวัดพระใหญ่เดินลงมาไม่ไกล มีเจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่ประดิษฐานอยู่ที่วัดฮาเสะ (Hasedera Temple) เห็นโคมไฟสีแดงใบใหญ่แขวนอยู่ตรงประตูทางเข้าวัด

เข้าไปด้านในวัดดูสวยงามด้วยการจัดสวนแบบญี่ปุ่น สระน้ำที่มีปลาคาร์ฟสวยๆว่ายอยู่ในบ่อ ต้นซากุระที่นี่กำลังออกดอกห้อยระย้าไม่เหมือนที่อื่น ก่อนที่จะขึ้นไปนมัสการองค์เจ้าแม่กวนอิมจะต้องแวะชมรูปปั้นหินเทวรูปหิน "จิโสะ" กันก่อนมีจำนวนกว่าพันองค์เลทีเดียว เทวรูหินเหล่านี้สร้างขึ้นเพื่ออุทศให้แด่เด็กทารกที่เสียชีวิตจากการทำแท้ง เราจึงเห็นผ้าเอี๊ยมกับหมวกไหมพรมสีแดงสดใส่บนองค์เทวรูป

เดินขึ้นบันไดไปจึงจะถึงวิหารที่ประดิษฐานของเจ้าแม่กวนอิมแกะสลักจากไม้หุ้มด้วยทององค์ใหญ่ปาง 11 พักตร์ สูงถึง 9.18 เมตร ใหญ่สุดในญี่ปุ่นรวมทั้งพระพุทธรูปปางต่างๆประทับอยู่กลางแจ้งอีกหลายองค์


ที่มุมด้านหน้าของวิหารใหญ่เป็นจุดชมวิวสามารถมองเห็นชายฝั่งทะเลอ่าวซากะมิของเมืองคามาคุระจากตรงนี้ได้อย่างชัดเจน

ก่อนออกมาอย่าลืมไปมุดเข้าถ้ำ ภายในมีพุทธรูปเล็กๆองค์สีเหลืองตั้งเรียงรายอยู่หลายร้ององค์ บรรยากาศภายในดูร่มรื่นมาก ก่อนออกมามีแม่ชีคอยยืนส่งทางให้ด้วยเช่นกัน บริเวณด้านหน้าทางเข้าวัดมีร้านขายสินค้าที่ระลึกอยู่หลายร้านเลือกซื้อกันได้ตามสะดวก จากนั้นเดินไปขึ้นรถไฟสาย Enoden ที่สถานีฮาเสะที่อยู่ใกล้ๆกลับไปยังสถานีคามาคุระ

เที่ยวญี่ปุ่น

ค่าเข้าชมวัดฮาเสะ ผูใหญ่ 300 เยน เด็กอายุ 6-11 ปี 100 เยน
เวลาเปิดปิดให้เข้าชม ทุกวันเวลา 08.00-17.30น. (ในเดือนจุลาคม-กุมภาพันธ์ เปิดถึง 16.30น.)

ตั๋วโปรโมชั่นสำหรับเที่ยวชมเมืองคามาคุระ
1.Kamakura Enoshima Free Kippu สามารถใช้ขึ้นรถไฟของ JR,Enoden Line และ Shonan Monorail สามารถใช้เดินทางได้ไม่จำกัดในเมืองคามาคุระ รวมทั้งใช้เดินทางไป-กลับจากสถานีรถไฟ JR Yamanote สถานีไหนก็ได้ในโตเกียว ตั๋วมีอายุใช้งานได้ 2 วัน สามารถหาซื้อได้ตามตู้ขายตั๋วอัตโนมัติในสถานีรถไฟ JR ทุกแห่ง

*สำหรับผู้ที่มีบัตรโดยสาร JR Rail Pass สามารถเดินทางมาท่องเที่ยวที่คามาคุระได้ เพียงแต่ต้องจ่ายค่าโดยสารรถไฟสาย Enoden หรือรถเมล์เพิ่มอีกหน่อย - เที่ยวญี่ปุ่น ทัวร์ญี่ปุ่น

ชมพระใหญ่ไดบุตสึ เมืองคามะคุระที่ประเทศญี่ปุ่น

ชมพระใหญ่ไดบุตสึ เมืองคามะคุระประเทศญี่ปุ่น



  • ผมนั่งรถเมล์จากป้ายหมายเลข 6
หน้าสถานีรถไฟ Kamakura ใช้เวลาประมาณ 15 นาทีก็ถึงทางเข้าวัดพระใหญ่แห่งเมืองคามาคุระ - ญี่ปุ่น ซื้อบัตรเข้าชมแล้วเดินผ่านกลุ่มต้นสนที่ขึ้นเขียวชะอุ่ม สักพักก็ถึงลานกว้าง จึงมองเห็นพระใหญ่ตั้งสูงอยู่กลางแจ้ง

Yokohama Landmark Tower ตึกที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น

Yokohama Landmark Tower ตึกที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น


   ถ้าเราลองเดินออกมาจากสถานี JR Sakuragi-cho ก็จะสามารถมองเห็นตึกตั้งสูงเด่นเป็นตกที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นมี 70 ชั้น มีความสูงที่ 296 เมตร โดยสามารถขึ้นลิฟท์ที่เร็วที่สุดในโลก (Sky Rockets) โดยขึ้นจากชั้นล่างสุดไปยังชั้นที่ 69 ใช้เวลาแค่เพียง 40 วินาทีเท่านั้นเองก็จะสามารถขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์ของเมืองโยโกฮาม่าได้ และในวันไหนที่สภาพอากาศแจ่มใส มีฟ้าโปร่งก็จะสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้อย่างชัดเจน

จากทางออกสถานีซากุระกิโจ จะมีทางเดินเชื่อมต่อตึก โดยทางผ่านจะเป็นศูนย์การค้า อาคาร Queen Tower ไปสิ้นสุดที่ Queen's Square เป็นช้อปปิ้งมอลล์ขนาดใหญ่ติดกับอ่าวโยโกฮาม่า และถ้าเดินต่อไปอีกนิดก็จะมี Pacifico Yokohama เป็นศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ พร้อมด้วยโรงแรมหรู Grand Intercontinental Hotel ระดับห้าดาว เป็นรูปทรงเรือใบตั้งอยู่



*Sky Garden เป็นจุดชมวิวที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น อยู่บนชั้นที่ 69 ตึก Yokohama Landmark Tower 
ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 1,000 เยน เยาวชน 800 เยน และเด็ก 500 เยน
เวลาเปิด-ปิด เปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00 - 21.00 น. (วันเสาร์เปิดถึง 22.00 น.) ทัวร์ญี่ปุ่น


สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญในสวนอุเอโนะ

สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญในสวนอุเอโนะ


1.พิพิธภัณฑ์

  • Tokyo National Museum พิพิธภัณฑ์แห่งชาติโตเกียว ที่ใหญที่สุดในญี่ปุ่น
  • Nationlal Science Museum พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ
  • National Museum of Western Art พิพิธภัณฑ์ศิลปะตะวันตก
  • Tokyo Metropolitan Art Museum พิพิธภัณฑ์ศิลปะโตเกียว
  • Ueno Royal Museum พิพิธภัณฑ์อุเอโนะ
  • Shitamachi Museum พิพิธภัณฑ์ชิตามาชิ จัดแสดงวิถีของสมัยเอโดะ
  • Orient Museum พิพิธภัณฑ์ตะวันออก จัดแสดงศิลปะประเพณีของชาวตะวันออกก

2.สวนสัตว์อุเอโนะ (Ueno Zoo)

3.ศาลเจ้าโทโชกุ (Toshogu Shrine)

4.วัดเบนเทนโด (Bentendou)

5.วัดเคนเนจิ (Kaneji Temple)

6.อนุสาวรีย์ท่านไซโก้ ทากาโมริ (Saigo Takamori) รูปปั้นจูงสุนัข ตั้งโดดเด่นอยู่ตรงทางเข้าใกล้สถานี JR Ueno ท่านไซโก ได้รับฉายาว่า "The Last Samurai" ผู้นำในการต่อสู้ของชาวซามูไรญี่ปุ่นผู้ยิ่งใหญ่ จะเห็นว่ามีนักศึกษาสาวๆมาทัศนศึกษาประวัติของท่านอยู่เป็นกลุ่มๆ และถ้าหากมาที่แห่งนี้ในช่วงเช้าๆ ม้านั่งอนุสาวรีย์จะกลายเป็นบ้านพอให้ได้หลับนอนของคนพเนจรอยู่ให้เห็นกันบ่อยๆไม่ต่างจากเมืองอื่นๆเท่าไหร่ บุคคลเหล่านี้หาเลี้ยงชีพตนด้วยการเร่ขายของภายในสวนสาธารณะนั่นเอง

วัดคิโยมิสึ ญี่ปุ่น

วัดคิโยมิสึ ญี่ปุ่น


วัดคิโยมิสึ
ที่ตั้ง : เมืองเกียวโต จังหวัดเกียวโต
การเดินทาง : ขึ้นรถโดยสารประจำทางจากสถานีรถไฟ JR เกียวโต ลงที่ป้าย คิโยมิสึ แล้วเดินต่ออีก 10 นาที
ช่วงเวลาชมดอกซากุระ : ปลายเดือนมีนาคม - ต้นเดือนเมษายน
ค่าผ่านประตู : ผู้ใหญ่ 300 เยน / เด็ก 200 เยน
ข้อมูลน่ารู้ : วัด "คิโยมิสึ" เป็นสัญลักษณ์ของ "เกียวโต" เมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่น วัดนี้สร้างขึ้นเมื่อราว 1,200 ปีก่อนปัจจุบัน ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ในฤดูชมซากุระกลีบดอกจากต้นซากุระที่มีอยู่กว่า 1,000 ต้น ในวัดแห่งนี้จะโปรยปรายลงมาอย่างสวยงาม ในช่วงที่ดอกซากุระบานทางวัดจะประดับไฟยามค่ำคืนเป็นเวลา 1 เดือน ท่านสามารถเพลิดเพลินกับทัศนียภาพที่สวยงาม ของ "ลานคิโยมิสึบุโด" และ "หอ 3 ชั้น" ที่ถูกปกคลุมไปด้วยดอกซากุระ

Cr. เที่ยวญี่ปุ่นแบบประหยัดกับWonderfulpackage

สวนนิชิดนะมะรุเทเอ็ง ภายในสวนสาธารณะ ปราสาทโอซะกะ

สวนนิชิดนะมะรุเทเอ็ง ภายในสวนสาธารณะ ปราสาทโอซะกะ

ญี่ปุ่น

สวนนิชิดนะมะรุเทเอ็ง ภายในสวนสาธารณะ ปราสาทโอซะกะ
ที่ตั้ง : เมืองโอซะกะ จังหวัดโอซะกะ
การเดินทาง : เดินจากสถานีรถไฟใต้ดิน ทานิมาจิยนโจเมะ 15 นาที
ช่วงเวลาชมดอกซากุระ : ปลายเดือนมีนาคม - ต้นเดือนเมษายน
ข้อมูลน่ารู้ : สวนนี้ตั้งอยู่ภายในอาณาเขตของปราสาทโอซะกะ ซึ่งเป็นปราสาทที่สร้างขึ้นเมื่อ 400 กว่าปีที่แล้ว ภายในสวนมีซากุระกว่า 600 ต้น เมื่อเข้าสู่ฤดูชมดอกซากุระ ที่นี่จะคับคั่งไปด้วยบรรดาคุณพ่อคุณแม่ที่หอบลูกจูงหลานมาเที่ยว เฉพาะในช่วงฤดูชมซากุระเท่านั้น ที่จะมีการประดับโคมไฟกระดาษกว่า 200 อัน เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถชื่นชมปราสาทโอซะกะ และดอกซากุระในยามค่ำคืนได้


Cr.ข้อมูลทัวร์ญี่ปุ่นง่ายๆกับ wonderfulpackage.com

i love london

I Love London!

ทัวร์ยุโรป

  เคยได้ยินมั้ยประโยคฮิตๆ i love london (ฉันรักลอนดอน) แล้วรู้บ้างหรือไม่ว่า คำว่า "ลอนดอน" นั้นมีที่มาที่ไปอย่างไร? ถ้าอยากรู้ตามมาเลย

ลอนดอน (London) เป็นเมืองหลวงของประเทศอังกฤษ เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในสหภาพยุโรป และเป็นเมืองที่มีศูนย์กลางทางการค้า เศรษฐกิจ สังคม รวมถึงขึ้นชื่อในเรื่องของ.านศิลปะและแฟชั่นด้วย

ลอนดอน

ชื่อลอนดอนนั้น มีการคาดการณ์ของนักประวัติศาสตร์ว่าได้มาจากชื่อกรุงลอนดอนในยุคสมัยโรมัน โดยมีชื่อว่า ลอนดีนี (Londini) ซึ่งเป็นภาษาละติน แล้วต่อมาได้เพี้ยนกลายเป็นชื่อ ลอนดอนจนถึงปัจจุบัน

เที่ยวยุโรป

ถึงแม้ว่าโรมันจะยึดอังกฤษได้ก็ตาม แต่กรุงลอนดินี (หรือลอนดอนปัจจุบัน) อยู่ได้เพียงแค่ 17 ปีเท่านั้นในปี ค.ศ. 61 ชนเผ่าไอซินี่ ซึ่งนำโดยราชินีโปดิก้า ได้บุกเข้ายึดลอนดีนี ทำลายทั้งผู้คนและเมืองเกิดความเสียหายอย่างหนัก แต่ในไม่นานนักชาวโรมันก็สามารถยึดเมืองกลับคืนมาได้ในราวๆศตวรรษที่ 2 กรุงลอนดินีเจริญรุ่งเรืองถึงขีดสุด ในตอนนั้นลอนดินีหรือลอนดอนมีประชากรชาวโรมันอยู่กว่า 60,000 คน
ทัวร์ยุโรป


*เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย กรุงลอนดอนเคยประสบกับอัคคีภัยครั้งใหญ่เมื่อปี พ.ศ. 2209 (ค.ศ. 1666) ทำให้มีผู้เสียชีวิต และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บมากมาย และจากนั้นมาก็ทำให้ผู้คนเกิดความเชื่อที่ว่า เลข 666 นั้นเป็นเลขแห่งความโชคร้าย และกว่าที่จะสร้างเมืองใหม่ได้นั้นต้องใช้เวลากว่า 10 ปีเลยทีเดียว แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ลอนดอนก็ยังคงเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของโลกจนถึง ค.ศ. 19

Cr.Wonderfulpackage.com ท่องเที่ยวยุโรป
Cr. wiki

แฟนเพจ facebook.com/wonderfulfanpage

วัดเองงะคุจิ วัดที่ขึ้นชื่อในโยโกฮาม่า - ญี่ปุ่น

วัดเองงะคุจิ วัดที่ขึ้นชื่อในโยโกฮาม่า

ทัวร์ญี่ปุ่น

  สำหรับการเดินทางที่สะดวกที่สุดก็คือให้เดินจากสถานี Ishikawacho ในโยโกฮาม่าด้วยรถไฟ JR Yokosuka Line มาลงที่สถานี Kita-Kamakura เดินลงมาทางใต้ไม่ถึงนาทีก็จะมองเห็นทางเข้าวัดเองงะคุจิอยู่ทางด้านซ้ายมือเมื่อเดินขึ้นบันไดหินไปก็จะเห็นศาลาไม้เก่าหลังใหญ่ตั้งอยู่สูงเด่น

  วัดเองงะคุจิ (Engakuji Temple) เป็นหนึ่งในห้าวัดใหญ่ของวัดพุทธในนิกายเซนที่ยังเหลืออยู่ในคามาคุระ สร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 1825 (หลังปีที่ถูกกองทัพมองโกเลียรุกรานในครั้งที่ 2 เพียง 1 ปี) เพื่ออุทิศให้กับผู้ที่เสียชีวิตในช่วงที่ทัพมองโกลเข้ามารุกรานนั่นเอง

  ภายในบริเวณของหอซาริเด็น (Shariden)  มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ รวมทั้งพระพุทธรูปหินที่ตั้งอยู่กลางแจ้งมากมายหลายองค์นั้น ก็ผุกร่อนกันไปตามเวลา บนตัวพระและองค์ฐานพระนั้นมีเงินเหรียญวางบริจาคไว้อยู่เต็มไปหมด ถ้าลองเดินไปหลังวัดก็จะเจอระฆังสูง 2.5 เมตร ใบใหญ่ที่สุดของเมืองคามาคุระตั้งอยู่

เที่ยวญี่ปุ่น

ภายในบริเวณวัดดูร่มรื่น ถ้าเดินไปถึงด้านหลังจะมีสวนญี่ปุ่นสวยๆ ให้เดินชมโดยมีฉากหลังเป็นภูเขา ขอแนะนำให้ไปเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงดอกซากุระกำลังเบ่งบานพอดีจึงสวยมากค่ะ

การเดินทางไปวัด Engakuji
- เดินจากสถานี Kita-Kamakura ราวๆ 1 นาที
ค่าเข้าชม 300 เยน
เวลาเปิดให้เข้าชม ทุกวัน 09.00 - 18.00 น.

Red Brick Warehouse ที่โยโกฮาม่า

Red Brick Warehouse ที่โยโกฮาม่า


   อาคารสีแดงที่ก่อสร้างด้วยอิฐแดงสองหลังตั้งอยู่ริมทะเลของอ่าวโยโกฮาม่านั้น สร้างขึ้นในปีพ.ศ.2454 - 2546 ใช้เป็นด่านศุลกากรและเป็นโกดังในการเก็บสินค้าของท่าเรือโยโกฮาม่า แต่ในปัจจุบันนี้ได้กลายมาเป็นร้านค้า ร้านอาหารที่มีดนตรีเล่นสดทุกค่ำคืน ในบรรยากาศที่แสนสบายไม่พลุกพล่าน เพราะตั้งอยู่ห่างไกลจากแหล่งชุมชน ทั้งนี้สถานที่แห่งนี้ได้มีการปรับปรุงอีกครั้งในเมื่อปีพ.ศ.2545 และระหว่างอาคารทั้งสองหลังก็จะมีสวนดอกไม้เล็กๆตกแต่งไว้อย่างสวยงามอีกด้วย

   *ใครที่อยากหลบหนาวหลบลมที่กรรโชกแรงก็สามารถเข้ามาพักในอาคารนี้ได้เนื่องจากภายในอาคารนั้นติดฮีทเตอร์เอาไว้ด้วย

สวนสาธารณะยามาชิตะ (Yamashita Prak)
สวนริมทะเลแฟห่งนี้มีพื้นที่ๆยาวไปตามแนวชายฝั่ง ช่วงเย็นๆจะมีคนเดินพลุกพล่าน ใกล้ๆกันจะมีเรือ "ฮิคาวะมารุ (Hikawamaru)" ที่เคยเป็นเรือโดยสารและโรงพยาบาลเคลื่นที่ได้ และก็ได้ปลดระวางไปเมื่อปี พ.ศ.2503 หลังจากใช้งานมานานกว่า 30 ปี *สามารถขึ้นชมได้ในช่วงเวลา 09.30 - 19.00น. ค่าเข้าชม 800 เยน

มองออกไปจะเห็นสะพานแขวน Yokohama Bay Bridge ความยาว 860 เมตร ใต้ทางด่วน 3 เลนของสะพานสามารถขึ้นไปเดินชมทิวทัศน์ได้
ถัดไปอีกนิดจะมีหอคอย Marine Tower ประภาคารบนบกที่สูงสุดในดลก 106 เมตร สร้างขึ้นในปีพ.ศ.2504 ในโอกาสฉลองครบรอบ 100 ปี ท่าเรือโยโกฮาม่า สามารถขึ้นไปชมวิวได้ระหว่างเวลา 09.30 - 21.00น. ค่าเข้าชม 700 เยน



ขอบคุณข้อมูลท่องเที่ยวญี่ปุ่น และทัวร์ญี่ปุ่นจาก WonderfulPackage.com

กวางเจาเมืองแห่งเศรฐกิจของจีน

กวางเจาเมืองแห่งเศรฐกิจของจีน

จีน

   กวางเจา กว่างโจว หรือกวางโจว เป็นเมืองเอกของมณฑลกวางตุ้ง เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดอยู๋ทางตอนใต้ของประเทศจีน และยังเป็นพื้นที่ตั้งของหลักเขตเศรฐกิจพิเศษ ทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ เซินเจิ้น จูไห่ และ ซัวเถา กวางเจานั้นมีสำเนียงเฉพาะถิ่น เหมือนกับฮ่องกง และมาเก๊า เรียกว่า "กว่างโจว"

   กวางเจานั้นมีประวัติศาสตร์มายาวนานกว่า 2,800 ปี เป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางสายไหมทะเล และยังเคยเป็นเมืองท่าเสรีที่เปิดให้มีการค้าระหว่างประเทศเข้ามาด้วย

จีน

   ในปัจจุบันนั้น กวางโจวมีหลักเขตเศรฐกิจที่เป็นศูนย์กลางของจีนที่สำคัญที่สุด และยังเป็น1ใน3ของเมืองที่มีความสำคัญสูงสุดด้วย กวางเจาเป็นเมืองที่มีผลผลิตส่งออกมากที่สุดในจีน มีการคมนาคมที่สะดวกและทันสมัยที่สุดในจีน มีรถไฟฟ้าใต้ดินครอบคลุมเมืองชั้นในไว้หมด รวมทั้งสภาพภูมิอากาศ อาหาร และการดำรงชีวิตอยู่ และที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวอีกอย่างนึงก็คืองาน "กวางเจาเทรดแฟร์ หรือ กวางเจาแฟร์" ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าทุกชนิด และถือเป็นการพบปะกันระหว่างผู้ประกอบการกับผู้บริโภค

จีน

   งานกวางเจาแฟร์เป็นงานใหญ่ระดับประเทศ แล้วถือได้ว่าใหญ่ที่สุดทางเอเซียตะวันตกเฉียงใต้อีกด้วย โดยการจัดงานนั้นจะแบ่งออกเป็นเฟส มีทั้งหมดสามเฟส ดดยแต่ละเฟสก็จะแสดงสินค้า หรือนวัตกรรมแต่างต่างกันไป อาทิ เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องอุปโภคบริโภค สิ่งของตกแต่งบ้าน รวมถึงเครื่องจักรที่ใช้ในงานอุตสาหกรรม โดยงานกวางเจาเทรดแฟร์นั้นจะจัดขึ้นทุกปี และปีนี้ได้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 116 แล้ว "กวางเจาเทรดแฟร์ครั้งที่ 116".....



Cr.www.wonderfulpackage.com

แฟนเพจ FB : facebook.com/wonderfulfanpage

Yokohama Chinatown ไชน่าทาวน์ในญี่ปุ่น

Yokohama Chinatown ไชน่าทาวน์ในญี่ปุ่น


   ในจังหวัดโยโกฮาม่า ประเทศญี่ปุ่นนั้นมีย่านที่คนจีนอาศัยอยู่ นั่นก็คือย่าน โยโกฮาม่า ไชน่าทาวน์ (Yokohama Chinatown)  ที่ตุ้งอยู่คู่กันมาตั้งแต่มีท่าเรือโยโกฮาม่าเลยทีเดียว มีซุ้มประตูทางเข้าแบบจีนที่สวยงามแตกต่างกันตั้งอยู่บนถนนถึง 10 แห่ง เช่นประตูเก็นบุ(Genbu-mon) ด้านฝั่งโยโกฮาม่าสเตเดี้ยมคือประตูโชวโยะ (Choyo-mon) ทางด้านทิศเหนือที่จะพบเปป็นแห่งแรกถ้าเดินมาจากสวนยามาชิตะประเอ็นเปอิ (Enpei-mon) และทางทิศใต้ ถ้าเรามาทางสถานีรถไฟอิชิคาวะโจ (Ishikawacho) เมื่อเดินออกจากสถานีก็จะเจอประตูเซย์โย (Seiyo-mon) เป็นต้นฯ

ไชน่าทาวน์

   ประตูแต่ละแห่งสร้างขึ้นตามหลักฮวงจุ้ยที่มีมานาน ซึ่งเป็นศาสตร์ของคนจีนมาเนิ่นนานจนถึงในปัจจุบัน ขึ้นชื่อว่าไชน่าทาวน์แล้วหล่ะก็คงหนีไม่พ้นเรื่องร้านค้า ร้านอาหาร ภัตรคารที่มารวมกันอยู่ที่นี่ไม่ต่ำกว่า 500 ร้าน ทำให้เลือกชิมเลือกซื้อได้อย่างหลากหลาย มีร้านขายสินค้าจากจีนมากมายทั้งร้านขายยาจีน สมุนไพรที่นำเข้าจากจีนเป็นต้นฯ

ไชน่าทาวน์ญี่ปุ่น

   แล้ววันไหนเกิดมีการแข่งขันเบสบอลที่สนาม Yokohama Stadium ที่มีพื้นที่อยู่ใกล้ๆกันกับไชน่าทาวน์ เพราะบรรดาแฟนเบสบอลก็จะมาฉลองชัยให้ทีมตัวเองกันมากที่ย่านนี้นับหมื่นคนเลยทีเดียว

ญี่ปุ่น



*การเดินทางไปย่านไชน่าทาวน์ (Yokohama Chinatown)
-เริ่มต้นจากสถานีโยโกฮาม่า นั่ง JR Negishi Line ลงที่สถานี Ishikawa-cho ใช้เวลาประมาณ 7 นาที
-เริ่มต้นจากสถานีโยโกฮาม่า นั่ง Subway สาย Minato Mirai ลงสถานี Nihon Odori หรือ Motomachi ใช้เวลา 7-10 นาที

เมืองหลวงเดิมของญี่ปุ่น-คามาคุระ

เมืองหลวงเดิมของญี่ปุ่น-คามาคุระ

คามาคุระ

ถึงแม้ว่าสถานีรถไฟใหญ่ของเมืองจะเป็นสถานีคามาคุระ (Kamakura) แต่เราควรจะเริ่มต้นที่สถานี Kita-Kamakura (Kita แปลว่าทิศเหนือ) เพราะสถานที่ท่องเที่ยวจะเริ่มมาจากสถานีนี้ จากนั้นจึงไปเที่ยวต่อบริเวณใกล้ๆสถานีรถไฟฮาเสะ (Hase Station) ด้วยรถไฟสาย Enoden Line หรือรถบัส จะได้ไม่ต้องย้อนกลับไปมา

ญี่ปุ่น


คามาคุระเป็นเมืองเล็กๆ มีประชากรราวๆสองแสนคน แต่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย มีวัดไม่ต่ำกว่า 65 แห่ง ศาลเจ้าอีก 19 แห่ง เพราะสมัยก่อนนั้นเมืองคามาคุระเคยเป็นเมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่นมาก่อนถึง 141 ปี ตั้งแต่พ.ศ. 1735 ช่วงนั้นพุทธศาสนากำลังเจริญรุ่งเรืองมากโดยมีท่านโชกุนมินาโมโตะ โน โยริโมโต้ ซึ่งเป็นผู้สถาปนาคามาคุระขึ้นเป็นเมืองหลวงแห่งใหม่

เที่ยวญี่ปุ่น


คามาคุระถูกรุกรานจากมองโกเลียช่วงราชวงศ์หยวนถึง 2 ครั้ง แต่ก็ต้องพ่ายแพ้ไปทุกครั้งจากภัยธรรมชาติใต้ฝุ่น ละเรื่องนี้เองก็ได้เล่าขานกันต่อมาจนถึงปัจจุบันว่าเป็นเพราะความศักดิ์สิทธิ์ของพระใหญ่ที่ช่วยปกป้องรักษาเมืองแห่งนี้เอาไว้นั่นเอง....




ขอบคุณข้อมูลท่องเที่ยวและทัวร์ญี่ปุ่นจาก Wonderfulpackage.com
ติดตามเพจได้ที่ facebook.com/wonderfulfanpage

ขึ้นรถไฟญี่ปุ่นใครว่ายาก

ขึ้นรถไฟญี่ปุ่นใครว่ายาก


   หลายคนคงอยากจะไปเที่ยวญี่ปุ่นซักครั้งในชีวิตกันใช่มั้ยคะ แต่ถ้าไปกับทัวร์ญี่ปุ่นเองก็คงไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าใครที่อยากไปผจญภัยด้วยตัวเอง แค่พูดฟังภาษาอังกฤษก็ยังดำน้ำ แล้วจะไปพูดไปฟัง หรือไปอ่านภาษาญี่ปุ่นเนี่ยนะ ตายดีกว่าาาา หยุดก่อนค่ะ ของให้หยุดความคิดเหล่านั้นไว้เลย วันนี้เรามีเทคนิคเล็กๆน้อยในการขึ้นรถไฟญี่ปุ่นกันค่ะ รับรองพออ่านบทความนี้จบแล้วไม่กลัวหลงอีกต่อไป

สิ่งแรกสำหรับนักท่องเที่ยวอย่างเราหลังจากที่ลงเครื่องบินมาแล้วนั้นก็คงต้องอยากขึ้นรถไฟเพื่อเดินทางไปยังจุดหมายที่ต้องการกันใช่ไหมคะ แต่เราไม่สามารถอ่านภาษาญี่ปุ่นออกเลยนะ? จะทำยังไงดี? ข้อแนะนำในการดูป้ายสัญลักษณ์ต่างๆของรถไฟชินคันเซ็น โดยหลักๆแล้วจะมีทั้งหมด 3 ป้ายดังนี้

1.ป้ายขบวน Nozomi


ป้ายนี้เป็นป้ายที่ติดอยู่ข้างขบวนรถไฟค่ะ เป็นป้ายสีเหลือง เริ่มต้นที่สถานี Nozomi ปลายทางอยู่ที่ Shin-Osaka ค่ะ

2.ป้ายขบวน Hiraki - Okayama


ป้ายนี้เป็นป้ายสีแดง ซึ่งเริ่มที่สถานี Hikari ปลายทางที่ Okayama

3.ป้ายขบวน Kodama - Nagoya


ป้ายสุดท้ายเป็นสีฟ้าหรือ/น้ำเงิน สถานีเริ่มที่ Kodama และปลายทางสิ้นสุดที่ Nagoya ค่ะ

นอกจากป้ายที่อยู่ข้างขบวนรถไฟแล้วยังมีอีกป้ายที่เป็นจุดสังเกตุเห็นได้ง่ายเหมือนกันค่ะ นั่นคือ ป้ายแขวนบอกเวลาเดินรถไฟค่ะ โดยเ้จาป้ายนี้จะบอกว่า ขบวนรถไหนกำลังจะมา จะมาถึงกี่โมง ปลายทางต่อไปจะไปไหนค่ะ


ถ้ายังไม่แน่ใจยังมีป้ายอยู่ตรงพื้นบอกอีกด้วยค่ะ โดยตรงพื้นนั้นจะบอกว่าถ้าเรายืนรอตรงจุดนี้จะตรงกับขบวนอะไร ตู้ที่เท่าไหร่ (ละเอียดมากค่ะ) ......คราวนี้เพื่อนๆที่อยากจะลองขึ้นรถไฟที่ญี่ปุ่นเองนั้นคงอุ่นใจขึ้นเยอะเลยใช่ไหมคะ ไว้คราวหน้ามีเรื่องเล่าอะไรแปลกๆสนุกๆนำมาฝากกันอีก คอยติดตามกันด้วยนะคะ ซาโยนาระ!!!


ขอขอบคุณเรื่องเล่าและข้อมูลดีๆจาก Wonderfulpackage.com
สามารถติดตามแฟนเพจได้ทาง facebook.com/wonderfulfanpage & twitter.com/wonderfulweb

ท่องเที่ยวญี่ปุ่นชิมราเมนต้นตำหรับ

ท่องเที่ยวญี่ปุ่นชิมราเมนต้นตำหรับ

เที่ยวญี่ปุ่น

สวัสดีค่ะเพื่อนๆในคราวที่แล้วเราก็ได้รู้จักกับพิพิธภัณฑ์ราเมนแสนอร่อยที่เมืองโยโกฮาม่าประเทศญี่ปุ่น (Shin Yokohama Ramen Museum) ซึ่งทางเราก็มีโอกาศได้ไปทัวร์ญี่ปุ่นขอพยายามที่จะหาเรื่องราวสนุกๆแปลกใหม่ตอนที่ได้ไปยังสถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่นมาฝากกันค่ะ ในวันนี้จะเล่าถึงประวัติของราเมนกันสักเล็กน้อย เพื่อเวลาท่านได้ไปรับประทานจะได้เข้าใจและอิ่มอร่อยได้ยิ่งขึ้้นค่ะ

"ราเมน" หรือ "ราเม็ง" (Raumen,Ramen) มีความหมายว่าเส้นบะหมี่ที่นำมาต้มแล้วใส่น้ำแกงลงไป มีการตั้งข้อสันนิฐานกันว่าราเมนนั้นมีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศจีน และก็ได้แพร่หลายในญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก จนคิดได้ว่าเป็นราเมนสูตรเฉพาะของญี่ปุ่น ขึ้นชื่อด้วยความอร่อยและความพิถีพิถันในการทำอย่างมาก จึงไม่แปลกเลยที่จะกลายมาเป็นอาหารขึ้นชื่ออีกอย่างนึงของญี่ปุ่นค่ะ 

ทัวร์ญี่ปุ่น

ปัจจุบันนั้นมีราเมนที่เป็นแบบกึ่งสำเร็จรูปเหมือนกับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทั่วไป มีขายทั้งเครื่องหยอดเหรียญ และตามร้านสะดวกซื้อมากมายค่ะ

*การเดินทางไปยังพิพธภัณฑ์ราเมน (Shin Yokohama Ramen Museum) สามารถเดินทางได้ดังนี้
- จากสถานี Shin Yokohama เดินขึ้นมาจากสถานีประมาณ 5 นาทีก็จะพบพิพิธภัณฑ์แล้วค่ะ
ค่าเข้าชม
- ผู้ใหญ่ 300 เยน
- เด็ก 100 เยน
เปิดบริการทุกวัน เวลา 11.00น. - 23.00 น. (กรุณาเข้าก่อน 22.00น.)



ขอขอบคุณข้อมูลทัวร์ญี่ปุ่นและสถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่นจาก wonderfulpackage.com ค่ะ

ชิมราเมนแสนอร่อยที่ yokohama raumen museum

ชิมราเมนแสนอร่อยที่ yokohama raumen museum


     ถ้านั่งรถไฟจากสถานีชิน โยโกฮามา (Shin Yokohama) เดินตรงขึ้นไปทางเหนือไม่ไกลนักก็จะเห็นพิพิธภัณฑ์ราเมน (Shin Yokohama Ramen Museum) ซึ่งจัดแสดงถึงความเป็นมาของราเมนแสนอร่อย เมนูยอดฮิตของประเทศญี่ปุ่น แต่รู้หรือไม่ว่าราเมนจริงๆนั้นมีต้นกำเนิดมาจากบะหมี่ของประเทศจีนนะ


     เมื่อเข้ามาภายในพิพิธภัณฑ์ราเมน(ต้องเสียค่าเข้าชมด้วย) บอกได้เลยว่าไม่เหมือนพิพิธภัณฑ์ที่เราเคยเห็นๆกันมาก่อนแน่ๆ เพราะส่วนแรกที่ได้เห็นคือร้านขายของฝากซึ่งมีราเมนสำเร็จรูปรวมอยู่ด้วยหลายชนิด รวมทั้งถ้วยชามที่ไว้สำหรับใส่ราเมนอีกด้วย

     และถ้าเราเดินลงไปยังชั้นใต้ดิน ก็จะพบร้านขายราเมนอยู่เต็มไปหมด มีการตกแต่งทั้งหน้าร้านและภายในให้เป็นบรรยากาศย้อนยุคราวๆปี พ.ศ. 2500 ให้ได้เลือกสั่งราเมนอร่อยๆทาน ทั้งจากตู้อัตโนมัติ ซึ่งแต่ละตู้ก็จะมีราคา และราเมนหลายแบบให้เลือกกัน หรือจะกินในร้านก็มีบริการ แต่จะต้องต่อแถวยาวเหยียดรอคิว(ต้องแลกคูปองก่อนต่อแถวนะคะ) ถึงจะมีอยู่หลายร้านก็เถอะ แต่คนก็แน่นเต็มทุกร้านเลย


     แต่ต่อให้ต้องรอนานแค่ไหน เมื่อได้ชิมราเมนร้อนๆแสนอร่อยแล้วจะต้องลืมเมื่อยกันไปเลยค่ะ เพราะที่นี่จะเป็นราเมนในสูตรต้นตำหรับของแท้เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่มาที่นี่ได้ชิมถึงรสชาติดั้งเดิมที่มีมานาน หลังจากที่อิ่มอร่อยกับราเมนแล้ว ร้านข้างๆก็มีสินค้าพวกย้อนยุคมากมาย เช่นชนม ของฝากน่ารักๆอยู่หลายร้านค่ะ แล้วเมื่อเราขึ้นบันไดไปก็จะเห็นส่วนที่จัดแสดงเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของราเมน ทั้งวัสดุที่ใช้ทำ เครื่องมือในการผลิตเส้นราเมนเป็นต้นฯ 


*ข้อแนะนำนะคะ หากท่าใดที่มาพิพิธภัณฑ์ราเมนที่โยโกฮาม่าแล้วก็อย่าเพิ่งรีบเข้ามาทานราเมนก่อนนะคะ เพราะที่นี่มีร้านราเมนอยู่ถึง 8 ร้านให้ได้เลือกชิมกันเลยทีเดียว ให้ลองหยิบเอกสารที่เค้าแจกด้วยนะคะ จะได้รู้ว่าร้านไหนมีราเมนแบบไหนขายอยู่บ้าง...


ไว้คราวหน้าจะพาไปยังสถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่ใดนั้นคอยติดตามชมกันนะคะ




ขอขอบคุณข้อมูลท่องเที่ยวญี่ปุ่นดีๆจาก Wonderfulpackage.com

ติดตามแฟนเพจได้ที่ facebook.com/wonderfulfanpage
และ twitter.com/wonderfulweb

งานกวางเจาเทรดแฟร์ 2014 มีอะไรบ้าง

งานกวางเจาเทรดแฟร์ 2014 มีอะไรบ้าง

กวางเจาแฟร์

กวางเจาแฟร์ หรือกวางเจาเทรดแฟร์ เป็นเมืองใหญ่ที่ตั้งอยู่ในมณฑลกวางตุ้ง เป็นงานใหญ่ที่สุดในเอเซียเลยก็ว่าได้ เป็นงานแสดงสินค้า อุตสาหกรรมต่างๆมากมาย เหมือนกับผู้ประกอบการพบปะลูกค้าประมาณนั้น เป็นงานที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก งานกวางเจาเทรดแฟร์นั้นเปิดมานานแล้วตั้งแต่ปีพ.ศ.2500 จนมาถึงปัจจุบัน โดยการจัดแสดงสินค้านั้น จะแบ่งออกเป็นทั้งหมด 3 เฟส ซึ่งในแต่ละเฟสก็จะสลับสับเปลี่ยนกันไป 

เฟส 1 จะเป็นสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
เฟส 2 สินค้าอุปโภค บริโภค ของตกแต่งบ้าน
เฟส 3 ผ้า วัสดุงานตกแต่ง

ในปัจจุบัน งานแสดงสินค้ากวางเจาแฟร์นี้มีพื้นที่ใช้จัดแสดงประมาณ 576,000 ตาราเมตร มีผู้เข้าชมงานประมาณ 30,000 คนต่อวัน หรือ 200,000 คนทั้งงาน มีสินค้ามาก รวมไว้ถึง 100 หมวดหมู่เลยทีเดียว

โรงกษาปณ์ เมืองโอซาก้า

โรงกษาปณ์ เมืองโอซาก้า

ญี่ปุ่น

โรงกษาปณ์ เมืองโอซาก้า
ที่ตั้ง : เมืองโอซะกะ จังหวัดโอซะกะ
การเดินทาง : เดินจากสถานีรถไฟใต้ดินเทมมาบาชิ 10 นาที
ช่วงเวลาชมดอกซากุระ : กลางเดือนเมษายน (เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมเพียงหนึ่งสัปดาห์)
ข้อมูลน่ารู้ : เนื่องจากบุคคลทั่วไปสามารถเข้ามาในโรงกษาปณ์ เพื่อชื่นชมความงามของดอกซากุระตามทางเดินริมน้ำ ที่มีชื่อว่า "ซากุระโนะโทโอรินุเคะ" ได้เพียงหนึ่งสัปดาห์ในหนึ่งปีเท่านั้น จึงทำให้ผู้คนต่างหลั่งไหลกันมาถึงปีละล้านกว่าคน ที่พลาดไม่ได้คือ การเดินผ่านถนนที่มีดอกซากุระปกคลุมอยู่ด้านบนเต็มไปหมด คล้ายกับกำลังเดินผ่านอุโมงค์ดอกซากุระ ในยามค่ำคืนก็จะมีการประดับไฟอย่างงดงาม ท่านสามารถเข้าชมได้จนถึงเวลา 3 ทุ่ม ทัวร์ญี่ปุ่น

วิธีเดินทางจากโตเกียวสู่โยโกฮาม่า

วิธีเดินทางจากโตเกียวสู่โยโกฮาม่า

ญี่ปุ่น

วิธีการเดินทางง่ายๆจากกรุงโตเกียวไปยังโยโกฮาม่า มีหลากหลายเส้นทางแต่ในวันนี้จะขอแนะนำวิธีที่สะดวกที่สุดอีกหนึ่งเส้นทางดังนี้
1.จากสถานีโตเกียว ให้นั่งJR Keihin-Tohoku Line หรือ JR Yokosuka Line มาถึงสถานีโยโกฮาม่าโดยใช้เวลาประมาณ 25-40 นาทีค่าโดยสาร 450 เยน ให้เลือกนั่งขบวน Rapid หรือ Limited Express ค่ะ ซึ่งจะมีรถออกทุกๆ 5-10 นาที
2.จากสถานีชินจูกุ นั่งJR Shonan Shinjuku Line ถึงสถานีโยโกฮาม่า ใช้เวลา 30 นาที ค่าโดยสาร 540 เยน มีรถออกทุก 20-30 นาที
3.จากสถานีชิบูย่า นั่ง Tokyo Toyoko Line/Minato Line ถึงสถานีโยโกฮาม่าใช้เวลา 25-40 นาที ค่าโดยสาร 260 เยนรถออกทุก 10 นาที
4.จากสถานีโตเกียวนั่ง JR Tokaido Shinkansen ถึงสถานีโยโกฮาม่า ใช้เวลาประมาณ20นาที มีรถออกทุกๆ 20-40 นาที
5.จากสถานี Shin-Yokohama สามารถเดินทางไปยังสถานีโยโกฮาม่าได้โดยนั่ง Yokohama Subway ใช้เวลาประมาณ 12 นาที

ขอบคุณข้อมูลจาก facebook.com/wonderfulfanpage

ปราสาทปราสาทฮิเมหยิฮิเมหยิ ญี่ปุ่น

ปราสาทฮิเมหยิ ญี่ปุ่น

ญี่ปุ่น

ปราสาท ฮิเมหยิ
ที่ตั้ง : เมืองฮิเมหยิ จังหวัดเฮียวโงะ
การเดินทาง : เดินจากสถานีรถไฟ JR ฮิเมจิ 15 นาที
ช่วงเวลาชมดอกซากุระ : ต้นเดือนเมษายน - กลางเดือนเมษายน
ข้อมูลน่ารู้ : วัด "โฮริวหยิ" ที่นาระและปราสาท "ฮิเมจิ" แห่งนี้เป็นสถานที่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแห่งแรกในประเทศญี่ปุ่น เมื่อปี ค.ศ.1993 ภายในตัวปราสาทนอกจากจะมีทรัพย์สมบัติของชาติ และมรดกทางวัฒนธรรมที่ล้ำค่าเก็บรักษาอยู่แล้ว ยังมีตำนานและเรื่องเล่าหลงเหลืออยู่อีกมากมาย ปราสาท "ฮิเมหยิ" ถูกขนานนามว่า เป็นปราสาทมีความงดงามที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ในช่วงต้นเดือนเมษายนของทุกปี จะมีการจัดงานชมซากุระ มีการบรรเลงเครื่องดนตรีโกโตะ (จะเข้ญี่ปุ่น) และกลองไทโคะด้วย
ทัวร์ญี่ปุ่น เที่ยวญี่ปุ่น

สวนสาธารณะ ชิโรยะมะ ญี่ปุ่น

สวนสาธารณะ ชิโรยะมะ ญี่ปุ่น

ญี่ปุ่น


สวนสาธารณะ ชิโรยะมะ
ที่ตั้ง : เมืองมะทจึยะมะ จังหวัดเอฮิเมะ
การเดินทาง : ลงรถไฟสาย อิโยะเท็ตสึโด ที่สถานีไคโคโต แล้วต่อรถกระเช้าขึ้นไปอีก 3 นาที
ช่วงเวลาชมดอกซากุระ : ปลายเดือนมีนาคม - ต้นเดือนเมษายน
ข้อมูลน่ารู้ : นอกจากจังหวัดเอฮิเมะจะเป็นที่รู้จักในเรื่อง บ่อน้ำพุร้อน "โดโงะ" แล้ว ดอกซากุระของปราสาท "มะทจึยะมะ" มีชื่อเสียงในเรื่องความงดงามด้วย ในงานเฉลิมฉลองฤดูใบไม้ผลิของมะทจึยะมะนอกจากท่านจะได้ชมดอกซากุระแล้ว ยังจะได้ชมการจำลองจัดขบวนทัพของเหล่านักรบ ที่มีชื่อว่า "ไดเมียวเกียวเร็ตทจึ" และการแข่งขันเล่น "ยาคิวเค็ง" ระดับประเทศด้วย ทัวร์ญี่ปุ่น เที่ยวญี่ปุ่น

สวนสาธารณะ ทจึรุยะมะ ญี่ปุ่น

สวนสาธารณะ ทจึรุยะมะ ญี่ปุ่น

ญี่ปุ่น

สวนสาธารณะ ทจึรุยะมะ
ที่ตั้ง : เมืองทจึยะมะ จังหวัดโอคะยะมะ
การเดินทาง : เดินจากสถานี JR ทสึยะมะ 10 นาที
ช่วงเวลาชมดอกซากุระ : ต้นเดือนเมษายน - กลางเดือนเมษายน
ค่าผ่านประตู : ผู้ใหญ่ 210 เยน / เด็ก 100 เยน
ข้อมูลน่ารู้ : ในอดีตสวนสาธารณะแห่งนี้เคยเป็นที่ตั้งของ ปราสาท "ทจึยะมะ" ปัจจุบันยังคงเหลือแนวกำแพงหินที่สวยงามให้นักท่องเที่ยวได้ชม หลายคนกล่าวว่า ที่นี่เป็นสถานที่สำหรับชมดอกซากุระที่สวยงามที่สุด ในแถบภาคตะวันตกของญี่ปุ่นในแต่ละปีเมื่อถึงฤดู ทัวร์ญี่ปุ่น เที่ยวญี่ปุ่น

สะพานคินไตเคียว ญี่ปุ่น

สะพานคินไตเคียว ญี่ปุ่น

ญี่ปุ่น

สะพานคินไตเคียว
ที่ตั้ง : เมืองอิวะคุนิ จังหวัดยะมะงุจิ
การเดินทาง : ขึ้นรถโดยสารประจำทางจากสถานีรถไฟ JR อิวาคุนิ หรือสถานีรถไฟ JR ชินอิวาคุนิ 15 นาที
ช่วงเวลาชมดอกซากุระ : ต้นเดือนเมษายน - กลางเดือนเมษายน
ค่าผ่านประตู : ผู้ใหญ่ 300 เยน / เด็ก 150 เยน
ข้อมูลน่ารู้ : สะพาน "คินไตเคียว" เป็นสะพานที่มีรูปร่างแตกต่างจากสะพานทั่วไป ถูกจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในสามสะพานที่มีชื่อเสียงที่สุดในญี่ปุ่น เมื่อย่างเข้าเดือนเมษายนบริเวณรอบๆสะพานแห่งนี้ จะเต็มไปด้วยสีชมพูของดอกซากุระ งานเทศกาลชมดอกซากุระแห่งสะพาน "คินไตเคียว" จัดขึ้นในช่วงต้นเดือนเมษายนของทุกปี ซึ่งได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ในช่วงฤดูชมดอกซากุระยามค่ำคืนจะมีการประดับแสงไฟด้วย กิจกรรมที่พลาดไม่ได้สำหรับที่นี่คือ การล่องเรือชมสะพาน "คินไตเคียว" และดอกซากุระที่บานสะพรั่ง