โตเกียว แผนที่ญี่ปุ่น ฮอกไกโด เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง pantip เกียวโต ฟุกุโอกะ สถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่น ชิราคาวาโกะ ชินจูกุ เที่ยวฮอกไกโด ภูเขาไฟฟูจิ ปราสาทโอซาก้า เที่ยวโตเกียว pantip ที่เที่ยวโตเกียว นาโกย่า ทัวร์ญี่ปุ่น pantip ไปเที่ยวญี่ปุ่น วัฒนธรรมญี่ปุ่น เที่ยวเกียวโต เที่ยวโตเกียวด้วยตัวเอง โตเกียวดิสนีย์แลนด์ ทัวร์ญี่ปุ่น ฮอกไกโด ทาคายาม่า

Website Traffic

ประตูยาชาม่อน Yashamon ทัวร์ญี่ปุ่น

ประตูยาชาม่อน Yashamon ทัวร์ญี่ปุ่น

เที่ยวญี่ปุ่น

ประตูยาชาม่อน หรือ Yashamon  Gate ทั้งสี่ทิศของซุ้มประตูนั้นมีรูปปั้นปีศาจเฝ้าอยู่ 4 ตน โดยแต่ละตนนั้นจะมีสีที่ไม่เหมือนกัน พาไปทัวร์ญี่ปุ่นก็จะเห็นเป็นสีแดง เขียว น้ำเงินและสีขาว ลวดลายที่แกะสลักไว้บนซุ้มนั้นเป็นลายดอกโบตั๋น จึงเรียกชื่อประตูนี้อีกอย่างนึงว่า "ประตูดอกโบตั๋น (Peony Gate)" เพื่อลดความน่ากลัวลง

ก่อนที่จะไปถึงศาลาใหญ่นั้น ยังมีอีกหนึ่งประตูเล็กที่มีความสวยงามไม่แพ้กัน คือประตูคาราม่อน (Karamon Gate) ผ่านตรงนี้เข้าไปจะเป็นศาลา Sanctuary ตกแต่งด้วยสีดำ แดง น้ำเงินและสีทองที่ดูเคร่งขรึม ถูกล้อมรอบด้วยรั้วไม้สีน้ำเงินดำ จนถึงศาลาหลังสุดอาคารหลักของสุสานแห่งนี้ตกแต่งด้วยสีทองเหลืองอร่าม ดูสวยงามและภูมิฐาน สมเป็นที่ประดิษฐานพระอนุสาวรีย์ของโชกุนอิเอะมิตสุ โทกุกาว่า (Iemitsu Tokugawa) ซึ่งเป็นโชกุนรุ่นที่ 3 หลานชายของโชกุนอิเอะยาสุ โทกุกาว่านั่นเอง ภายในตกแต่งได้อย่างวิจิตบรรจงเช่นเดียวกัน

ก่อนออกมายังมีอีกหนึ่งประตูทางด้านข้างที่สวยงามเช่นกันนั่นคือ ประตูโกกะม่อน (Kokamon Gate) ที่ใช้ศิลปะแบบจีนสมัยราชวงศ์หมิง (Ming Dynasty) ที่มีเสาโครงทำด้วยสำริดสีเขียวสลับทองตั้งประดับอยู่ทั้งสองด้านถ้าท่านสนในที่อยากจะไปท่องเที่ยวญี่ปุ่นก็สามารถมาด้วยกันกับเราที่ Wonderfulpackage.com ค่ะ

ท่านสามารถรับชมวีดีโอ http://youtu.be/riTaj1z--yE

วัดอิเอะมิตสุ ไทยูอินที่ญี่ปุ่น

วัดอิเอะมิตสุ ไทยูอินที่ญี่ปุ่น

เที่ยวญี่ปุ่น
วัดในญี่ปุ่น


วัดอิเอะมิตสุ ไทยูอิน (Iemitsu Taiyuin Temple)
จากศาลเจ้าฟูตาราซัน มีทางเดินเชื่อมไปยังวัดอิเอะมิตสุ ไทยูอินตั้งอยู่ใกล้ๆกัน โดยสิ่งแรกที่จะได้เห็นคือศาลาหลังใหญ่ 2 หลัง มีรูปทรงและขนาดเท่ากัน แต่ศาลาหลังแรกเรียกชื่อว่า Jyogyo-do มีการตกแต่งภายในตามศิลปะแบบญี่ปุ่น ส่วนอีกหลังคาหนึ่งชื่อว่า Hokke-do จะมีการตกแต่งแบบจีน อาคารทั้งสองจึงมีชื่อเรียกอีกอย่างนึงว่า "วัดแฝด" (Two Temples)

ถัดจากศาลานี้จะเป็นประตูนิโอมง (Nio-mon Gate) ซึ่งเป็นประตูทางเข้าสู่สุสานของวัดรินโนจิแห่งเมืองนิคโก้ (Nikko Mausoleum Rinnoji Taiyuin) ถัดจากนี้ด้านขวามือจะมีบ่อน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้ทั้งดื่ม ป้วนปากล้างมือ เพื่อเป็นการชำระจิตใจร่างกายให้สะอาดก่อนเข้าสู่บริเวณวัด

ด้านซ้ายมือมีซุ้มประตูขนาดใหญ่ มีความอลังการไม่แพ้ซุ้มประตูทางเข้าศาลเจ้าโทโชกุ ประตูนี้มีชื่อว่าประตูนิเท็นม่อน (Nitenmon Gate) หรือมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "คามินาริม่อน" (Kaminarimon Gate) ประตูสายฟ้า เหมือนกับชื่อประตูใหญ่ของวัดอาซากุสะในโตเกียวเลยสองข้างประตูนั้นมีรูปปั้นของเทพเจ้าสายฟ้า (God of Thunder) และเทพเจ้าแห่งสายลม (God of Wind) ตั้งอยู่ด้วย

ความสนุกจากทัวร์ญี่ปุ่นยังมีอีกมากมายที่ Wonderfulpackage.com

https://www.facebook.com/wonderfulfanpage

สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองซัปโปโร

สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองซัปโปโร


เทศกาลหิมะ ซัปโปโร (SAPPORO SNOW FESTIVAL)

เที่ยวญี่ปุ่น
ซัปโปโรเทศกาลหิมะ
เทศกาลหิมะที่มีชื่อเสียงของเมืองซัปโปโร เชิญให้มาทัวร์ญี่ปุ่นเทศกาลแกะสลักน้ำแข็งนับเป็นเทศกาลในฤดูหนาวที่เก่าแก่ที่สุดงานหนึ่งของโลก เป็นเทศกาลหิมะที่มีชื่อเสียงของเมืองซัปโปะโระ ซึ่งจัดขึ้นประมาณต้นเดือนกุมภาพันธ์ของทุก ๆ ปี แบ่งพื้นที่จัดงาน 3 ส่วน คือ สวนสาธารณะโอโดริ ย่านการค้าซูซูกิโน และซัปโปะโระคอมมูนิตีโดม (สึโดมุ) ในมีการสร้างประติมากรรมที่จากหิมะและน้ำแข็งเป็นจำนวนมาก มีการจัดประกวด แข่งขัน ถือว่าเทศการซัปโปะโระนี้ เป็นเทศกาลหิมะ ที่ใหญ่และมีคนจากทั่วโลกให้ความสนใจ เทศกาลหิมะของเมืองซัปโปะโระเริ่มขึ้นเมื่อราว ปี ค.ศ. 1950 โดยความร่วมมือของสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวซัปโปะโระและเขตซัปโปะโระ ในเทศกาลหิมะครั้งแรกนี้ เพราะไม่มีใครเคยสร้างรูปปั้นหิมะมาก่อน คณะกรรมการจัดงานจึงต้องขอร้องให้นักเรียนชั้นมัธยมปลายในเมืองซัปโปะโระร่วมกันก่อรูปปั้นหิมะขึ้นจนได้รูปปั้นจำนวน 6 ชิ้นในบริเวณลานในสวนสาธารณะโอโดริซึ่งเดิมใช้เป็นที่ทิ้งหิมะ รูปปั้นหิมะรุ่นแรก ๆ นั้นมีความสูงอย่างมากเพียง 7 เมตรเท่านั้น แต่ในงานครั้งที่ 4 ในปี ค.ศ. 1953 มีการสร้างรูปปั้นที่มีขนาดสูงถึง 15 เมตร ซึ่งต้องใช้หิมะจำนวนมาก จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างรูปปั้นหิมะขนาดใหญ่ และมีการจัดการแข่งขัน อย่างในปัจจุบัน ซึ่งเทศกาลหิมะ ซัปโปโรที่ฮอกไกโดนี้ได้จัดขึ้นทุกปี และเป็นที่สนใจของคนทัวโลก

เยือนญี่ปุ่นศาลเจ้าฟูตาระซัน

เยือนญี่ปุ่นศาลเจ้าฟูตาระซัน

เที่ยวญี่ปุ่น
ศาลเจ้าญี่ปุ่นฟูตาระซัน

หลังจากที่ห่างหายกันไปนานตอนที่ไปทัวร์ญี่ปุ่นกลับออกมาจากบริเวณศาลเจ้าโทโชกุ เมื่อเดินเลี้ยวขวาไปตามทางเดินที่มีความร่มรื่นประมาณ 200เมตร จะถึงประตูโทริอิทางเข้าศาลเจ้าฟูตาระซัน (Futarasan Jinja) สร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ.2162 

โดยโชกุนฮิเดะทาดะ (Shogun Hidetada) ศาลเจ้าแห่งนี้คนญี่ปุ่นเชื่อว่าเป็นที่สถิตของเทพ 3 องค์คือ โอคุนินุชิ โนะ มิกิโตะ ,ทาโงริฮิเมะ โนะ มิกิโตะ และอาจิสุคิตากะฮิโกเนะ โนะ มิกิโตะ โดยทั้งสามองค์เป็นเทพในครอบครัวเดียวกัน มีความสำคัญคือเป็นเทพที่นำพาความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ญี่ปุ่น

หน้าอาคารศาลเจ้าอย่าลืมแวะชมโคมปีศาจ (Phantom Lantern) ล้อมกรอบมุงหลังคาไว้อย่างดีด้วยรั้วสีแดง โดยมีเรื่องเล่ากล่าวไว้ว่า ครั้งหนุ่งโคมอันนี้ได้กลายร่างเป็นปีศาจไล่อาละวาดชาวบ้านจึงถูกซามูไรฟันด้วยดาบ ถ้าสังเกตุให้ดีจะมีรอยดาบให้เห็นบนโคมใบนี้และล้อมกรอบไว้ไม่ให้ออกไปทำร้ายใครได้อีกในครั้งหน้าจะพาไปเที่ยวญี่ปุ่น ณ ที่แห่งใดกันต่อคอยติดตามกันด้วยนะคะ

โปรแกรมท่องเที่ยวมากมายที่ https://www.facebook.com/wonderfulfanpage

เที่ยวแพคเกจมัลดีฟส์ บันทึกการเดินทาง .. โดยพี่เพ็ญ Final

เที่ยวแพคเกจมัลดีฟส์ บันทึกการเดินทาง .. โดยพี่เพ็ญ Final

เที่ยวมัลดีฟส์
เที่ยวแพคเกจมัลดีฟส์

กลับมาผ่อนคลายอารมณ์ในรีสอร์ท
นอกจากจะดื่มด่ำบรรยากาศริมชายหาดที่รีสอร์ท และออกไปดำน้ำ และดูปลาโลมาแล้ว ที่รีสอร์ทก็มีกิจกรรมให้ได้สนุกกันมากมาย เช่นพายเรือแคนู เล่นเรือใบ และกิจกรรมริมชายหาดต่างๆ ทำให้รู้สึกว่าไปมัลดีฟส์แค่สามวันเนี่ย มันช่างสั้นซะจริง จริ๊ง วันที่จะต้องขึ้นเครื่องกลับเนี่ยมองทะเลออกไปแล้วรู้สึกว่า เฮ้อเมื่อไหร่เราจะมีโอกาสได้กลับมาที่นี่อีกน๊า ต้องกลับไปเผชิญความวุ่นวายอีกละ ... แง๊ ทะเลจ๋าอยากอยู่ต่อจังเลย T_T


ส่งท้ายความประทับใจ
จากประสบการณ์ท่องเที่ยวที่ผ่านมา ถ้าเทียบแพคเกจมัลดีฟส์ กับแหล่งท่องเที่ยวที่เคยได้ไปที่ให้ความรู้สึกใกล้เคียงก็ น่าจะเป็น บาหลี มนต์ขลังของธรรมชาติและความโรแมนติกมีดีกรีอาจจะพอๆกัน แต่สไตล์การเที่ยวบาหลีจะโดดเด่นในเรื่องของวัฒนธรรมท้องถิ่น และธรรมชาติเขียวชะอุ่ม และการตกแต่งภายในรีสอร์ทอันสวยมีสไตล์กลิ่นอายศิลปะ แต่สำหรับมัลดีฟส์สิ่งที่ประทับใจที่สุดคงเป็นความงามของท้องทะเล และการใช้ชีวิตอยู่กับท้องทะเล แค่ได้นอนเล่นริมทะเลบนเกาะก็มีความสุขสุดๆแล้ว ได้ละความวุ่นวายมาอยู่กับมนต์ขลังของท้องทะเลสีฟ้าใส และหมู่ปลาที่เป็นมิตร

ทำให้รู้สึกว่ามาเที่ยวแบบนี้สิ คือการชาร์จพลังให้กับชีวิตอย่างแท้จริง ทะเลที่มัลดีฟส์ยังคงอยู่ในความทรงจำเสมอ ตอนนี้พี่เพ็ญเริ่มทำตาซึ้งด้วยแววตาเป็นประกายและบอกว่าหวังว่าจะได้มีโอกาสนำพานักท่องเที่ยวที่น่ารักกลับไปเยือนมัลดีฟส์ด้วยกันอีกสักครั้ง(... รวมทั้งคนเขียนด้วย .. 555+ เฮ่อ... เพิ่งได้ยินเรื่องราวตามสายมาว่า เกาะมัลดีฟส์อาจจะโดนน้ำท่วมในอนาคตเพราะภาวะโลกร้อน ฟังแล้วก็ใจหาย ขอให้อย่าเป็นอย่างนั้นเลยนะ คงต้องช่วยกันอนุรักษ์ธรรมชาติ ประหยัดพลังงานและลดการใช้สิ่งของที่จะทำให้เกิดภาวะโลกร้อนนะคะ เกาะมัลดีฟส์จะได้อยู่กับเราตลอดไป.... แต่คิดแล้วยังไง๊ ยังไง ก็ต้องรีบหาเวลาไปเที่ยวมัลดีฟส์เร็วๆนี้แล้วล่ะค่ะ V[^ ^]!! )

เที่ยวแพคเกจมัลดีฟส์ บันทึกการเดินทาง .. โดยพี่เพ็ญ 3

เที่ยวแพคเกจมัลดีฟส์ บันทึกการเดินทาง .. โดยพี่เพ็ญ 3

เที่ยวมัลดีฟส์
เที่ยวทะเลที่มัลดีฟส์

นั่งเรือออกไปประมาณ 30 นาทีก็ถึงจุดดำน้ำ น้ำทะเลที่มัลดีฟส์ดูต่างจากหมู่เกาะสุรินทร์ที่พี่เพ็ญเคยไปดำมาก่อนอย่างเห็นได้ชัด เพราะสีของน้ำแลดูจะเข้มกว่า เป็นสีน้ำเงินเข้ม ไม่เหมือนหมู่เกาะสุรินทร์ที่เป็นสีเขียวมรกต พอกระโดดลงไปปุ๊บ เข้าใจเลยว่าทำไมสีมันเข้มนัก แว๊บแรกที่ก้มมองลงไปใต้ผิวน้ำพี่เพ็ญต้องตกกะใจ เสียววาบบบ .. เพราะว่ามันลึกจนมองไม่เห็นพื้นทะเลเลยทีเดียว เหมือนเป็นเหวลงไป แต่ด้วยสปิริตแรงฮึต (และด้วยการช่วยเหลือของ Staff ของรีสอร์ทอย่างใกล้ชิด) ทำให้เร่งตีตีนกบตะเกียกตะกายต่อไปจนถึงจุดที่เป็นจุดส่องดูปะการัง (การที่เรือไม่เข้าไปปล่อยตรงจุดมองปะการังเลยเพราะว่าเรืออาจจะไปทำร้ายปะการังเหล่านั้นได้) แต่เธอก็บอกว่ามันช่างคุ้มค่าจริงๆ มุมมองอันน่ากลัวของแว่บแรกที่เธอมองลงไปในน้ำหายไปในพริบตา กลับกลายเป็นทิวทัศน์ใต้น้ำอันแสนสวย จนเกือบจะอ้าปากค้าง (แต่อ้าปากไม่ได้เพราะเดี๋ยวหน้ากากอ็อกซิเจนหลุด .. เหะๆๆ :P)

โลกใต้ท้องทะเลในการมาโดยแพคเกจมัลดีฟส์ในความเห็นของพี่เพ็ญแตกต่างจากในเมืองไทย เพราะว่าวิวมุมมองใต้ท้องทะเลเป็นเว้งกว้างกว่า สามารถทอดสายตาออกไปได้กว้างกว่า และปะการังที่เที่ยวมัลดีฟส์เนี่ยสมบูรณ์มากดอกไม้ทะเลพริ้วไหวเต็มไปหมด หมู่ปลาสีสันสดใสดูมีชีวิตชีวา ดำน้ำอยู่ตรงนั้นได้ประมาณ 20 นาที ก็พากันกลับขึ้นเรือ

จุดหมายต่อไปคือการไปชมฝูงโลมา พี่เพ็ญบอกว่าเป็นประสบการณ์ที่สุดยอดมากๆ ไม่น่าเชื่อว่าจะได้เห็น ฝูงโลมาน่าจะเกือบ 20 ตัวได้ มาว่ายน้ำกระโดดไปมาทักทายคนบนเรือ ทำให้พี่เพ็ญอยากจะกระโดดลงไปว่ายน้ำกับโลมาเหล่านั้นด้วยซะเลย แต่เสียดายที่เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาต 555+ อย่างไรก็ตามเจ้าโลมาน่ารักเหล่านั้นทำให้ทุกคนรู้สึกมีความสุขไปตามๆกัน เสียดายที่จับภาพไม่ค่อยทัน ดูตัวอย่างวีดีโอที่นักท่องเที่ยวคนอื่นถ่ายมาเป็นไอเดียละกันนะคะ :)

Snorkeling: http://www.youtube.com/watch?v=KihDp_qW1tE
Dolphin: http://www.youtube.com/watch?v=_z2q1t6xvpg&feature=related

เที่ยวแพคเกจมัลดีฟส์ บันทึกการเดินทาง .. โดยพี่เพ็ญ 2

เที่ยวแพคเกจมัลดีฟส์ บันทึกการเดินทาง .. โดยพี่เพ็ญ 2

เที่ยวมัลดีฟส์
เที่ยวมัลดีฟส์กันค่ะ

เรามาต่อจากคราวที่แล้วกันค่ะพี่เพ็ญจะเล่าอะไรให้เราฟังต่อเชิญได้เลยค่ะพี่!!!

ส่วนถ้าใครไม่อยากแดนซ์ก็ออกมานั่งชิลล์รับลมตรงชายหาด ซึ่งเค้าจะมีการจัดที่นั่งเหมือนเป็นเปลตาข่ายยื่นลงไปในทะเล ให้นั่งมองจันทร์ชมดาวกันตามอารมณ์โรแมนติก พอมองลงไปใต้เปลนั้นก็จะได้อารมณ์ตื่นเต้นเล็กน้อยเพราะจะเห็น Baby Shark หรือลูกปลาฉลามว่ายวนไปวนมาอยู่บริเวณไกล้ๆ (ไม่ได้มาว่ายรอกินเรานะ เพราะเค้าไม่กัดคนหรอกค่ะถ้าเราไม่ไปทำอะไรมันก่อนนะ...)

เช้าวันใหม่อันแสนจะสดใสที่มัลดีฟส์
พี่เพ็ญเล่าว่าตื่นเช้าขึ้นมาในมัลดีฟส์ช่างสดชื่นอะไรเช่นนี้เหมือนตื่นขึ้นมาในแดนสวรรค์ (... ถึงตอนนี้คนฟังชักจะอิจฉาจนทนไม่ไหว ตั้งมั่นว่าจะต้องเก็บออมเพื่อไปเที่ยวมัลดีฟส์บ้างให้ได้) แถมยังรู้สึกว่ามีอะไรน่าตื่นเต้นรออยู่อีกเพียบ ตอนเช้าทุกเช้าที่รีสอร์ทจะมีการจัด Aqua Gym หรือการบริหารร่างกายในน้ำ ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของแขกที่มาพักทั้งหลาย

เที่ยวมัลดีฟส์
แพคเกจมัลดีฟส์


บริหารร่างกายกันเสร็จก็เตรียมพร้อมที่จะออกเรือไปผจญภัยเพื่อพบปะกับชุมชนโลกใต้น้ำที่ไปในแพคเกจมัลดีฟส์กัน แต่ว่าก่อนจะออกไปร่างกายก็ต้องพร้อมนะคะ โดยทุกคนที่จะออกเรือไปจะต้องผ่านการทดสอบว่ายน้ำกันก่อน ให้ว่ายไปกลับประมาณ 50 เมตร ผ่านก็เป็นอันใช้ได้ กระโดดขึ้นเรือกันได้เลย :P

เที่ยวแพคเกจมัลดีฟส์ บันทึกการเดินทาง .. โดยพี่เพ็ญ

เที่ยวแพคเกจมัลดีฟส์ บันทึกการเดินทาง .. โดยพี่เพ็ญ

เที่ยวมัลดีฟส์
แพคเกจมัลดีฟส์กับwonderfulpackage


บันทึกนักเดินทาง เที่ยวมัลดีฟส์ (Maldives)
ครั้งหนึ่งในหน้าร้อนพี่เพ็ญได้มีโอกาสไปสัมผัสมัลดีฟส์กับคณะแฟนคลับ เป๊ก ออฟ ไอซ์ และทีมงาน ที่คลับเมด คานิ ช่วงเวลา 4 วัน 3 คืน ที่เกาะมัลดีฟส์ทำให้พี่เพ็ญถึงกับตกหลุมรัก..กับท้องทะเล ท้องฟ้าใส และโลกใต้น้ำที่นั่นซะแล้วสิ :P

ClubMed Kani Resort หลีกหนีความวุ่นวายในกรุงเทพ ไปยังเกาะสวรรค์ที่มัลดีฟส์
พี่เพ็ญเดินทางไปถึงมัลดีฟส์ตอนกลางคืน ประมาณทุ่มครึ่ง เครื่องบินแล่นลงจอดที่สนามบินมาเล่ แห่งมัลดีฟส์ซึ่งเป็นสนามบินเล็กๆ ให้ความรู้สึกคล้ายๆสนามบินที่ภูเก็ต ใจเธอเต้นตึกตักเพราะได้มาถึงยังมัลดีฟส์เกาะในฝันซะทีหลังจากอยู่บนเครื่องประมาณ 6 ชั่วโมง พอก้าวเดินออกมาผ่าน ต.ม. แล้วเธอก็เจอเคาน์เตอร์ของรีสอร์ทต่างๆ เรียงรายอยู่ตรงหน้า พร้อมให้นักท่องเที่ยวเช็คอินได้อย่างสะดวก ไปถึงเจ้าหน้าที่ต้อนรับของคลับเมดที่สามารถพูดภาษาไทยได้ ก็มารับหมู่คณะด้วยรอยยิ้ม แล้วก็พาไปลงเรือ Speed boat ที่ท่าเรือใกล้สนามบิน เรือสามารถจุนักท่องเที่ยวได้ประมาณ 40 คนถือว่าใหญ่พอสมควรทีเดียว ถึงแม้ว่าการเดินทางทางเรือในตอนกลางคืนหลายคนอาจจะคิดว่าน่ากลัว แต่พี่เพ็ญบอกว่า “ไม่เลยค่ะ สบายๆ…”แม้ข้างนอกจะมืดมองไม่เห็นอะไร แต่พนักงานก็ทำ
ให้รู้สึกว่าไม่น่ากลัว (ความจริงเพราะไปกันอยู่หลายคนบนเรือ .. 555)


เที่ยวมัลดีฟส์
มัลดีฟส์น้ำทะเลเขียวใส

นั่งเรือไปประมาณ 30 นาที ก็ไปถึงยังรีสอร์ท ตอนนั้นเวลาก็ประมาณสองทุ่มกว่า ก้าวเท้าลงไปก็มีพนักงานออกมาต้อนรับ ร้องเพลง จับมือเช็คแฮนด์ประดุจเราเป็นแขกคนสำคัญของประเทศ บรรยากาศช่างดูคึกคัก ถึงแม้จะค่ำแล้ว ... อ๋อเพราะว่าที่รีสอร์ททุกเย็นจะมี Theme party เช่นคืนที่พี่เพ็ญไปถึงก็จะเป็นTheme สีขาวทั้งหมด พนักงานทุกคนเลยพร้อมใจกันใส่สีขาวออกมาต้อนรับ พนักงานพาคณะเดินทางออกไปยังห้องพัก โดยห้องพักของคลับเมด จะมี 3 ลักษณะคือ บ้านกลางน้ำ หรือ Lagoon และ บ้านริมชายหาด และห้องพักบนตึก ซึ่งราคาจะแตกต่างกันออกไป ห้องแบบ Lagoon จะหรูสุดและแพงสุด เหมาะกับคู่ฮันนีมูน (ห้อง Lagoon เค้าจะไม่ให้เด็กต่ำกว่า 14 พักนะคะ 

เพราะกลัวน้องหนูจะลงไปว่ายน้ำตามเจ้าเต่าทะเลไปวังบาดาล ถ้าคุณพ่อคุณแม่ดูแลไม่ทั่วถึง) แต่พักบน Beach หรือห้องในตึกก็บรรยากาศดีเหมือนกัน พี่เพ็ญพักอยู่ในห้องแบบ Superior บนตึกค่ะ พอไปเก็บข้าวของที่ห้องพักเรียบร้อย ก็ออกมาทานอาหารเย็น ซึ่งเป็นบุฟเฟต์นานาชาติให้ทานได้จุใจเลย แถมยังมีไวน์แดง ไวน์ขาว และแอลกอฮอล์ดริ๊งค์สาระพัดให้ไม่จำกัดอีกด้วย บุฟเฟต์ตรงนี้ทานได้ถึงประมาณ 3 ทุ่ม หลังจากนั้นก็จะมีกิจกรรมที่โซนของบาร์ ซึ่งมีสองโซนคือ แคนูบาร์ (Canoe Bar) และ ซันเซ็ทบาร์ (Sunset Bar) ซึ่งสามารถเข้าไปร่วมกิจกรรม Drink & Dance ในบรรยากาศสบายๆได้อย่างเต็มที่กับแพคเกจมัลดีฟส์สุดคุ้ม