โตเกียว แผนที่ญี่ปุ่น ฮอกไกโด เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง pantip เกียวโต ฟุกุโอกะ สถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่น ชิราคาวาโกะ ชินจูกุ เที่ยวฮอกไกโด ภูเขาไฟฟูจิ ปราสาทโอซาก้า เที่ยวโตเกียว pantip ที่เที่ยวโตเกียว นาโกย่า ทัวร์ญี่ปุ่น pantip ไปเที่ยวญี่ปุ่น วัฒนธรรมญี่ปุ่น เที่ยวเกียวโต เที่ยวโตเกียวด้วยตัวเอง โตเกียวดิสนีย์แลนด์ ทัวร์ญี่ปุ่น ฮอกไกโด ทาคายาม่า

Website Traffic

แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ เที่ยวฮ่องกง แสดงบทความทั้งหมด

5 สุดยอดสถานที่ท่องเที่ยว ฮ่องกง

5 สุดยอดสถานที่ท่องเที่ยว ฮ่องกง


ฮ่องกง เป็นเขตปกครองตนเองที่อยู่ทางตอนใต้ของประเทศจีนซึ่งมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ในวันนี้จะขอพาไปรู้จักกับสุดยอด 5 สถานที่ท่องเที่ยว ฮ่องกง เมื่อเพื่อนๆมา เที่ยวฮ่องกง จะต้องมาให้ได้ค่ะ

สู่โลกแห่งจินตนาการฮ่องกงดิสนีย์แลนด์

สู่โลกแห่งจินตนาการฮ่องกงดิสนีย์แลนด์


ดิสนีย์แลนด์คงเป็นสวนสนุกในฝันของใครหลายๆคน ที่ให้ความสุขและจินตนาการอันไร้ขีดจำกัดกับผู้คนทุกเพศทุกวัยทุกเชื้อชาติ ถ้าเดินทางจากเมืองไทยดิสนีย์แลนด์ที่ใกล้และใหม่เอี่ยมที่สุดก็คงไม่พ้น ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ เพียง 3 ชั่วโมงโดยประมาณจากเมืองไทย เราก็สามารถไปปลดปล่อยเสียงกรี๊ด และเปลี่ยนบรรยากาศจากความซ้ำซากจำเจในชีวิตประจำวันไปพบกับโลกแห่งจินตนาการได้อย่างง่ายดาย สำหรับดิสนีย์แลนด์ฮ่องกง บางคนที่เคยไปเยือนดิสนีย์แลนด์ที่อื่นมาแล้ว เช่นญี่ปุ่น หรือ อเมริกา อาจจะบอกว่าเป็นดิสนีย์แลนด์ที่แลดูจะกระทัดรัดกว่าที่อื่น แต่สิ่งที่น่าประทับใจที่หลายๆคนที่ไปแล้วจะพูดเป็นเสียงเดียวกันก็คือ การแสดงโชว์อันอลังการ และโอกาสไกล้ชิดตัวการ์ตูนดิสนีย์ทั้งหลาย ที่ออกมาต้อน
รับให้ถ่ายรูปกันอย่างเป็นกันเองและเข้าถึงได้มากกว่าที่อื่น มาลองดูกันซิคะว่าภายในดิสนีย์แลนด์ฮ่องกงจะมีอะไรบ้าง อย่าลืมจินตนาการตามนะว่าถ้าเราไปอยู่ในโลกแห่งจินตานการนั้นจริงๆจะมีความสุขแค่ไหน :)


เป็นจุดเริ่มต้นของถนนแห่งการเดินทางย้อนเวลาสู่ช่วงต้นศตวรรษที่ 19 ที่ถนนแกสลิทสตรีทอันแสนสวยของสหรัฐอเมริกา เราจะพบกับขบวนพาเหรดดิสนีย์ ชมเพื่อนชาวดีสนีย์ที่โปรดปรานอย่าง มิกกี้เมาส์, มินนี่, โดนัลดั๊ก และ กูฟฟี่ ที่มาร่วมเต้นระบำอย่างสนุกครื้นเครงกับวงดนตรีมาร์ชและเหล่านักเต้นที่เต็มไปด้วยความร่าเริงและเบิกบาน 

ระหว่างทางนั้น ก็จะมีร้านช้อปปิ้งอันเก๋ไก๋ให้ได้เลือกสรรของที่ระลึกและของฝากพิเศษๆซึ่งมีมากกว่า 4,000 รายการ นอกจากนั้น จะเป็นที่ตั้งของซิตี้ฮอล และทางรถไฟฮ่องกงดิสนีย์ที่จะพาคุณชมไปรอบๆบริเวณอย่างเพลิดเพลิน แล้วก็อย่าลืมถ่ายรูปกับยวดยานแสนเก๋สะดุดตาบนถนนเมนสตรีทไว้เป็นที่ระลึกหล่ะ


นึกภาพป่าแอฟริกันที่แสนลึกลับ ชวนสนเท่ห์ และน่าผจญภัย เข้าไปพบกับสิงห์โตเจ้าป่าไลออนคิงใน เฟสทิวัลออฟเดอะไลออนคิง (Festival of The Lion King) ซึ่งเป็นโชว์อันเร้าใจไปกับเสียงอันสดใสและมีชีวิตชีวากับการแสดงดนตรีสไตล์บอร์ดเวย์ ที่ดัดแปลงมาจากการ์ตูนชิ้นเอกของดิสนีย์ “The Lion King” การแสดงที่ยอดเยี่ยมนี้จะทำให้คุณหลุดเข้าสู่ห้วงของจินตนาการจนจะต้องร้องว๊าวในใจแน่นอนค่ะ (คนที่ไปชมมาแล้วเค้าบอกมาเลยว่าห้ามพลาดเด็ดขาด!) นอกจากนั้นผจญภัยกันต่อโดยล่องแพตามลำน้ำเมืองร้อนที่น่าตื่นตาตื่นใจ ซึ่งจะได้เห็นสัตว์ป่า ชาวป่าที่พุ่งหอกทวนเป็นอาวุธ และเกาะของเจ้าป่าทาซาน นอกจากนั้นอย่าลืม แวะบ้านต้นไม้ของทาซาน และเล่นน้ำคลายร้อนที่สวนน้ำลิกี้ทิกิสล่ะ ทัวร์ฮ่องกง

......................................................................

ดินแดนที่จะทำให้ทุกคนเคลิบเคลิ้มไปกับเทพนิยายอันแสนโรแมนติก ซึ่งทุกคนที่เข้ามาในดินแดนนี้จะอยู่อย่างมีความสุขตลอดไป (Happily Ever After) มีมิกกี้เม้าส์มาดึงท่านเข้าสู่โลกแห่งความสุขใน โชว์เดอะโกลเด้นมิกกี้ (The Golden Mickey) ซึ่งรวบรวมเอาการแสดงตระการตาจากการ์ตูนอมตะอย่าง โฉมงามกับเจ้าชายอสูร (Beauty and The Beast) ทอยสตอรี่ (Toy Story) และที่ขาดไม่ได้คือ มิกกี้เมาส์กับผองเพื่อน (Mickey and friends) ..หลังจากนั้นมิกกี้ก็จะสะกดมนต์ให้เคลิ้มไปใน มิกกี้ฟิลาเมจิก (Mickey’s Philharmagic) สวมแว่นสามมิติ แล้วสัมผัสกับภาพ เสียง และกลิ่นแห่งผลงานที่สร้างสรรค์ได้อย่างเกินจินตนาการ ซึ่งเหมือนจริงจนบางครั้งคุณอาจจะเอื้อมมือเข้าไปคว้าพยายามจับตัวเจ้าตัวการ์ตูนที่ลอยออกมาอยู่ใกล้ๆตัวคุณ ต่อจากนั้นผจญภัยอย่างน่ารักในดินแดนแห่งความฝันกับป่าหนึ่งร้อยเอเคอร์ ของเจ้าหมีวินนี่เดอะพูห์ ซึ่งจะทำให้ผู้ใหญ่ทุกคนกลับมาเป็นเด็กอีกครั้ง แล้วก็อย่าลืมเข้าไปในสวนมหัศจรรย์ บินไปกับช้างน้อยดัมโบ้ ขี่ม้าหมุนซินเดอเรลล่า หัวเราะร่าพร้อมกับหมุนติ้วไปกับถ้วยชาแมดเฮตเตอร์ และเข้าสำรวจถ้ำสโนไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ดนะคะ เที่ยวฮ่องกง

......................................................................

กระโดดขึ้นยานอวกาศและทยานขึ้นสู่ฟากฟ้า สู่อนาคตที่โลกเราจะต้อนรับการมาเยือนของมนุษย์ต่างดาว! ยานอวกาศสเปสเมาเทน (Space Mountain) เร่งความเร็วผ่านจักรวาลอันไกลโพ้นทะลุเข้าไปในห้วงจักรวาล ตื่นเต้นกับซาว์แอฟเฟคในห้วงอวกาศที่คุณไม่สามารถเดาได้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป ภาระกิจต่อไปคือต่อสู้กับมนุษย์ต่างดาวกับ บัซไลท์เยียร์วีรบุรุษจักรวาล ภารกิจนี้จะได้รับพร้อมปืนกระบอกคู่เพื่อกำจัดเจ้ามนุษย์ต่างดาวตัวร้าย ไชโย้! ไม่มีเจ้ามนุษย์ต่างดาวแล้ว โลกเราก็จะอยู่กันได้อย่างมีความสุขแล้วหล่ะ ... ฮิฮิ

สนุกเต็มอิ่มกับดินแดนทั้ง 4 เรียบร้อยแล้ว ก็คงถึงเวลาที่เราจะได้พักผ่อนได้แล้วหล่ะค่ะ ยังไม่อยากตื่นจากจินตนาการเลย จะทำยังไงดีน๊า... ว่าแล้วกิจกรรมแห่งความสุขต้องยังไม่หมดแค่นี้ นอกจากบริเวณสวนสนุกแล้ว ดิสนีย์ยังได้สร้างที่พักอันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ให้ได้พักผ่อนกันต็มสูตรกับโลกแห่งจินตนาการ ที่จะทำให้แขกทุกคนเคลิบเคลิ้มทั้งเวลาหลับและเวลาตื่นตลอดระยะเวลาการพักผ่อนเลยทีเดียวค่ะ
.......................................................................
1) Hong Kong Disneyland Hotel เป็นรีสอร์ทหรูสไตล์วิคตอเรียน ตกแต่งอย่างหรูหราและสง่างาม
2) Disney Hollywood Hotel เป็นรีสอร์ทที่ตกแต่งในคอนเซพท์บรรยากาศปี 1930 และแบบอาร์ตเดโคที่เป็นเอกลักษณ์ รีสอร์ทนี้จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนเป็นดาราฮอลีวูดตัวจริงทัวร์ฮ่องกง เที่ยวฮ่องกง
เอาหล่ะๆ ตอนนี้คงจะได้สร้างจินตนาการแห่งความสุขกันขึ้นมาแล้วสินะคะ เรามาปะติดปะต่อเรื่องราวการไปท่องโลกของดิสนีย์แลนด์ฮ่องกงกันดูดีมั๊ยคะ เผื่อจะได้เป็นแนวทางในการสร้างเรื่องราวของคุณและผู้ร่วมเดินทางในดีสนีย์แลนด์ให้เกิดขึ้นจริงอย่างมีความสุขกันค่ะ

หนึ่งวันกับความสุขที่ดิสนีย์แลนด์ (1 Day Pass)
ช่วงเช้าใน HongKong Disneyland
- เริ่มต้นดูแผนที่ และกิจกรรมต่างๆที่น่าสนใจของวัน ที่ซิตี้ฮอล
- เดินชมบรรยากาศและถ่ายรูปที่ถนนเมนสตรีท สหรัฐอเมริกา
- ชมการประกาศรางวัลดิสนีย์อวอร์ด ใน “เดอะโกลเดิ้นมิกกี้ (The Golden Mickey)”
- นั่งม้าหมุนซินเดอเรลล่า
- พบกับมิกกี้ยอดศิลปินในมิกกี้ฟิลาเมจิก

ช่วงบ่ายใน HongKong Disneyland
- รับประทานอาหารกลางวันที่รอยัลแบงเคว็ทฮอล กับอาหารอร่อยนานาชาติ
- ชมการแสดง เฟสติวัลออฟ เดอะไลออนคิง (Festival of The Lion King)
- ล่องเรือในลำน้ำป่า
- ตื่นตาตื่นใจกับขบวนพาเหรดดิสนีย์
- พักดื่มน้ำชาที่ริเวอร์วิวคาเฟ่
- ถ่ายภาพที่สวนมหัศจรรย์กับเพื่อนชาวดิสนีย์
- นั่งเรือเหาะไปกับสเปสเมาท์เทน 
- ช้อปของที่ระลึกบนถนนเมนสตรีท

ช่วงเย็นใน HongKong Disneyland
- ทานอาหารเย็นที่เมนสตรีทคอนเนอร์คาเฟ่
- เพลิดเพลินกับดอกไม้ไฟตระกาลตา “ดิสนีย์ในหมู่ดาว” (เวลาประมาณ 2 ทุ่มค่ะ)

สองวันกับความสุขที่ดิสนีย์แลนด์ (2 Days Pass)

วันแรก 
ช่วงเช้าใน HongKong Disneyland
- นำสัมภาระเข้าพักที่โรงแรมดิสนีย์ฮอลีวู๊ด
- รับประทานอาหารที่ ฮอลีวู๊ดแอนด์ไดน์ แล้วโดยสารรถบัสสู่สวนสนุก
- เริ่มต้นดูแผนที่ และกิจกรรมต่างๆที่น่าสนใจของวัน ที่ซิตี้ฮอล
- โดยสารรถไฟฮ่องกงดิสนีย์สู่ดินแดนมหัศจรรย์
- ชมการประกาศรางวัลดิสนีย์อวอร์ดที่ “เดอะโกลเด้นมิกกี้”

ช่วงบ่ายใน HongKong Disneyland
- นั่งม้าหมุนซินเดอเรลล่า ช้างน้อยดัมโบ้ และถ้วยชาแมดแฮตเตอร์
- ตื่นตาตื่นใจไปกับขบวนพาเหรดดิสนีย์
- กลับสู่โรงแรมและเช็คอิน
- นั่งชิลที่บาร์ริมสระ กับอาหารว่าง
- ทักทายและถ่ายภาพกับกูฟี่ที่สระน้ำ
- เข้าเวิร์คช็อปพิเศษของดิสนีย์และฟังเทคนิควิธีการเล่าเรื่อง

ช่วงเย็นใน HongKong Disneyland
- ผ่อนคลายกับสปาของโรงแรมฮ่องกงดิสนีย์แลนด์
- รับประทานอาหารเย็นแบบบาร์บีคิวที่ซันเซ้ตเทอเรส
- ผ่อนคลายอารมณ์ไปกับเครื่องดื่มนานาชนิดที่สตูดิโอเลาน์จ
- นิทานก่อนนอนสำหรับเด็กๆ
- เดินเล่นท่ามกลางบรรยากาศโรแมนติกที่การ์เด้นพลาซ่า หรือช้อปปิ้งตามร้านต่างๆของโรงแรม

วันที่สอง
ช่วงเช้าใน HongKong Disneyland
- เช็คเอาท์และฝากสัมภาระไว้ที่โรงแรม
- รับประทานอาหารเช้าที่พลาซ่าอินน์กับเพื่อนๆชาวดิสนีย์
- ชุ่มปอดกับความคิดถึงที่ถนนเมนสรีท สหรัฐอเมริกา
- ชมการแสดงดนตรี “เฟสติวอลออฟ เดอะไลออนคิง”
- เยี่ยมชมบ้านต้นไม้ของทาซาน
- ร้านของฝากจากดิสนีย์ (มีบริการเก๋ไม่ต้องให้คุณแบกสัมภาระพะรุงพะรัง โดยทางร้านจะส่งถึงโรงแรมของคุณเอง)
- รับประทานอาหารกลางวันแสนอร่อยที่ริเวอร์วิวคาเฟ่

ช่วงบ่ายใน HongKong Disneyland
- พบกับมิกกี้ยอดศิลปินในมิกกี้ฟิลาเมจิก
- นั่งเครื่องเล่นผจญภัยไปกับวินนี่เจ้าหมีพู
- ถ่ายภาพที่สวนมหัศจรรย์กับเพื่อนชาวดิสนีย์
- ขับจานบินออร์บิตรอน
- พักดื่มน้ำชาที่สตาร์ไลเนอร์ไดเนอร์
- เดินทางไปกับบัซไลท์เยียร์วีรบุรุษจักรวาล
- นั่งเรือเหาะไปกับสเปสเมาเทน
ช่วงเย็นใน HongKong Disneyland
- เพลิดเพลินกับความงดงามตระการตาของดอกไม้ไฟ “ดิสนีย์ในหมู่ดาว”
- กลับสู่โรงแรมเพื่อรับประทานอาหารที่ เชฟมิกกี้

ว๊า ... หมดเวลาในดินแดนแห่งความฝันแล้ว แต่ยังไงก็ประสบการณ์กับโลกแห่งจินตนาการของดิสนีย์แลนด์ก็คงจะเป็นหนึ่งในความทรงจำที่สนุกสนาน และจะทำให้รู้สึกยิ้มได้เมื่อเรามองกลับมาทุกครั้งนะคะ ขอให้มีความสุขกับการเดินทางอย่างเต็มที่ค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก เที่ยวฮ่องกง Wonderfulpackage

ตะวันทอแสงที่ ฮ่องกง Sunny Days in Hongkong ตอน4

"ตะวันทอแสงที่ ฮ่องกง Sunny Days in Hongkong ตอน4"

จะอยุ่ติดกับสถานีรถไฟที่เข้ามาจากด่านฮ่องกง 


มีอยู่ประมาณ 4-5 ขั้น มีร้านค้ามากมายให้ได้เลือกซื้อของ เรานัดเวลาเจอกันตอน บ่าย 3 โมง เนื่องจากเราต้องเดินทางไปยัง หมู่บ้านวัฒนธรรม เพื่อชมวิถีชีวิตของชนเผ่าต่างๆ ที่อยุ่ในประเทศจีน สามารถเดินถ่ายรูปได้ หรือจะขึ้นรถบริการก็ได้ ในหมู่บ้านจะมี Splendid Of China หรือเมืองจำลองสถานที่ท่องเที่ยวดังๆประเทศจีน เช่น พระราชวังกู้กง กำแพงเมืองจีน ฯลฯ
เวลาประมาณ 5 โมงเย็น ทุกคนกลับมายังจุดนัดพบเพื่อที่จะชมโชว์ของหมู่บ้านวัฒนธรรม เป็นโชว์ของชนเผ่าต่างๆ ที่มีอยูในประเทศจีน หลังจากโชว์เดินทางสู่ร้านอาหารทานอาหารอันลือชื่อของเซิ่นเจิ้นเป็น เบบี้ ดัก เป็นเป็ดอายุน้อยที่ต้องผ่านการทำอย่างพิถีพิถัน ให้สำหรับทุกท่านท่านละ 1 ตัว และยังมีอาหารแบบซีฟู๊ดอีกมากมาย เราก็ได้กลับโรงแรมมาพักผ่อน แต่ว่ามีหลายคนต้องการที่จะซื่อของฝากเพิ่มก็สามารถเดินไปซื้อของยัง LOWUได้แต่ว่าเรา ได้ไปที่ซ้อปปิ่งอีกที่หนึ่งเรียกว่าตลาด ตงเหมิน ถ้าเปรียบกับบ้านเราก็ประมาณสยามสแคว์ เพราะว่าส่วนใหญ่แล้วจะมีพวกวัยรุ่นของเซิ่นเจิ้นมาเดินซื้อของกัน เช่น เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า ฯ เดินกันจนเพลิดเพลินดูเวลาอีกทีก็จะ 4 ทุ่มแล้วเราเลยกลับกัน เพราะว่าส่วนใหญ่ร้านค้าก็จะปิดแล้วด้วยเที่ยวฮ่องกง


เช้าวันสุดท้าย ของการเดินทางทุกคนพร้อมหน้ากันที่ห้องอาหารเวลาประมาณ 8 โมงเช้าหัวหน้าทัวร์ก็จัดการทำเรื่อง เดินทางกลับวันนี้หลายคนมีกระเป๋าเพิ่มเพราะว่าซื้อของฝากกันเยอะ
การข้ามกลับฮ่องกงก็กลับทางเดิมคือทางรถไฟ พอมาถึงฮ่องกงก็มีฝนตกเล็กน้อย เรานำกระเ่ป๋าสัมภาระไปฝากไว้ที่โรงแรมเพื่อสะดวกต่อการช๊อปปิ้ง เพราะว่าเป็นวันสุดท้ายของการอยู่ฮ่องกง ผมได้นั่งรถใต้ดินไปแถว MONG KOK ไปซื่อของราคาถูกที่เค้าเรียกว่าย่าน เรดี้ มาเก็ต เที่ยวฮ่องกง
เราก็ซื้อของกันจนถึงเวลาประมาณ 4 โมงเย็น ก็ขึ้นรถเดินทางไปยังสนามบิน เพราะว่าเที่ยวบินที่เราเดินทางเป็นเที่ยวบินเหมาลำ ดังนั้นคนจะเยอะมาก ทางหัวหน้าทัวร์จึงแนะนำว่าเราไปเร็วๆจะดีกว่า จะได้มีเวลาไปพักผ่อนที่สนามบิน แล้วก็เยอะจริงเวลาประมาณ 1 ทุ่มทุกคนมาพร้อมกันที่สนามบินมันเยอะมากจริงๆทัวร์ฮ่องกง

หลังจากที่คณะของเราโหลสัมภาระเรียบร้อยแล้ว เราก็เข้าไปเดินดูของ และทานอาหารอยู่ด้านใน รอเวลาเครื่องออก ขากลับล่าช้ากว่าเวลาที่กำหนดประมาณ 20 นาที
เนื่องจากคนเยอะมาก แต่ทุกคนก็ได้ขึ้นเครื่องบิน บินกลับสู่กรุงเทพโดยปลอดภัย แต่ขากลับคณะเราจะดูพิเศษกว่าคณะอื่นๆ
เพราะว่าสนิทกันจึงเล่นและคุยกันเสียดังไปนิด
แต่ก็อยู่ในมารยาทที่งดงาม
หลังจากเครื่องลงที่สุวรณภูมิทุกคนก็ได้ร่ำลากัน และแยกย้ายกันเดินทางกลับบ้าน

ประสบการณ์ในการเดินทางนี้ผมอยากจะบอกทุกท่านที่ได้อ่านมาตั้งแต่แรกจบจบว่า
ผมประทับใจมากกับการเดินทางตั้งแต่ก้าวแรกที่ได้เจอเจ้าหน้าที่ที่สนามบิน ทัวร์ฮ่องกง
เพราะว่าเจ้าหน้าที่สามารถทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นกับการเดินทางต่างประเทศครั้งแรก
และทุกคนในคณะเดินทางก็มีน้ำใจไมตรีเหมาะสมกับคำว่าสยามเมืองยิ้ม สยามเมืองพุทธ


เรื่องทัวร์ฮ่องกง เที่ยวฮ่องกงถามเราซิคะ

ตะวันทอแสงที่ ฮ่องกง Sunny Days in Hongkong ตอน3

"ตะวันทอแสงที่ ฮ่องกง Sunny Days in Hongkong ตอน3"

ถ้าเดินออกจากหน้าโรงแรมไปทางขวามือจะมี 


เซเว่น ด้วย และถ้าไม่เกิน 3 ทุ่ม ถึง 3 ทุ่มครึ่งเดินเลย เซเว่นไปนิดเดียว เราก็จะเห็นร้าน บะหมีเกี้ยว ผมอยากจะบอกให้ท่านทราบว่า เกี้ยวกุ้งที่ฮ่องกง อร่อยมากครับเพราะว่ากุ้งตัวใหญ่ม๊ากมาก... 

เนื่องจากกุ้งตัวใหญ่มากเลยครับ ใช้กุ้งทั้งตัว (ถ้าต้องการกลับสามารถติดต่อซื้อที่ร้านได้เลย ราคาประมาณ 30 – 45 เหรียญฮ่องกง ประมาณ 10 ชิ้น) ทัวร์ฮ่องกง
วันที่ 2 ของการเดินทาง ตื่นตอน 7 โมงเช้า ออกจากโรงแรมไปรับทานอาหารแบบติ่มซำ ที่ภัตราคาร ใกล้ๆ โรงแรม ROYAL GARDEN ย่านจิมซานจุ่ย สิ่งที่ผมสังเกตุภัตราคารที่ฮ่องกงคือ จะตกแต่งสวยงาม สีจะเน้นโทนสีชมพู ขาว ครีม เนื่องจากว่าต้องรองรับงานเลี้ยง งานแต่ง เพราะว่าฮ่องกงพื้นที่จำกัดไม่เหมือน ประเทศไทยที่อาจจะจัดกันที่โรงแรมหรือที่บ้าน อาหารเช้าน่าทานมาก และก็รสชาติไม่จัด เหมือนกับการรับทานตอนเช้า
ทานอาการเสร็จแล้วเราก็เดินทางไปไหว้เจ้าแม่กวนอิมที่ อ่าวน้ำตื้น ลอดอุโมงค์ ที่ไกด์บอกว่าเป็นอุโมงค์ที่ทำลอดใต้ทะเล มีรถใช้ประการอุโมงค์นี้ประมาณ 4-5 พันคันต่อวัน เที่ยวฮ่องกง

ถึงวัดเจ้าแม่กวนอิมก็ได้ฟังประวัติ และได้ไหว้สักการะเจ้าแม่กวนอิม ข้ามสะพานอายุยืน เทพเจ้าแห่งโชคลาภ เนื่องจากที่เราย้ำมาเสมอว่าคนฮ่องกงมีความเชื่อเรื่อง “ฮวงจุ้ย” เป็นอย่างมาก ดังนั้นคนฮ่องจึงชอบที่จะมาพักผ่อนที่อ่าวน้ำตื้น และมาไหว้พระขอพรเจ้าแม่กวนอิมที่นี้กันมาก
หลังจากได้รับพรเต็มที่แล้วเราก็เดินทางไปยังจุดชมเมื่อฮ่องกงที่สวยทีสุดของฮ่องกงที่เรียกกันว่า วิคตอเรียพีค “VITORIA PEAK”

เดินทางกลับสู่เมืองฮ่องกงเพื่อรับประทานอาหารกลางวัน ระหว่างทางเราได้แวะชมโรงงาน จิวเวอร์รี่ มีหลายคนในทริปนี้สนใจเกี่ยวกับความเชื่อเรื่องฮวงจุ้ย ว่ากังหันจะช่วยปัดเป่าความชั่วร้ายออกจากตัวเรา และนำสิ่งดีๆมาให้ตัวเรา ผลิตภัณฑ์มีหลายแบบทั้ง จี้ สร้อย แหวน ต่างหู และเครืองประดับอื่นๆ เดินดูกันจนลืมหิวไปเลย ได้เวลาพอมควร เราก็เดินทางไปร้านอาหารรับประทานอาหารกลางวัน มื้อนี้เป็นเป็ดย่าง ซีโคร่งน้ำแดง ปลานึง ฯลฯ เที่ยวฮ่องกง

หลังจากที่เราอิ่มอร่อยกับอาหารรสเลิศเราก็พากันเดินทางไปสู้เกาะลันตา เพื่อนมัสการพระใหญ่ที่วัดโป่หลิน นั่งกระเช้า 360 องศา กระเช้ามี 2 แบบ คือกระเช้ากระจกธรรมดา และกระเช้าคลิสตัล คณะทัวร์ส่วนใหญ่นั่งกระเช้าธรรมดา แต่ว่ากระเช้าคลิสตัลถ้าโดนแสงแดดแล้วจะสวยงามมากๆ เราเพราะจะมีแสงระยิบระยับ ใช้เวลาประมาณ 25 นาที 
ในระหว่างที่กระเช้ากำลังพาเราไปถึงยอดเราจะมองเห็นองค์พระสำริดที่มีขนาดใหญ่ สูงสุดแล้ว เราก็ต้องเดินไปอีกประมาณ 500 เมตร แต่ในระหว่างทางที่เดินไปขึ้นไหว้พระจะมีพิพิธภัณฑ์ ต่างๆให้เราได้ชม (ต้องจ่ายค่าเข้าชมเอง) หลังจากที่เราไหว้พระเรียบร้อย เรานัดพบกันที่ CITY GRATE เพราะเราจะเดินทางต่อไปยังสถานีรถไฟไปยังเซิ่นเจิ้น ทัวร์ฮ่งกง
ได้เวลาทุกคนพร้อมขึ้นรถกลับเข้าในเมืองประมาณ 25 นาทีเราก็ถึงสถานีรถไฟ (ฮอง ฮัม HUNG HOM) ประมาณหัวลำโพงบ้านเรา ถึงสถานีทุกคนเตรียมแพ็คของให้กระเป๋าเหลือน้อยที่สุด เพราะว่าต้องขึ้นรถไฟและต้องลากกระเป๋าเอง
ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ถึงด่านเซิ่นเจิ้นการข้ามด่านไปเซิ่นเจิ้นต้องให้เอกสารการเข้า-ออกเมือง หรือ ตม. ออกฮ่องกง และเข้าเซิ่นเจิ้น เจ้าหน้าที่ทางบริษัทได้เขียนให้เราแล้ว ลากกระเป๋าเดินตามหัวหน้าทัวร์ ใช้เวลารอที่หน้าด่านประมาณ 20-30 นาทีก็ได้ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง

หลังจากนั้นทุกคนหิวมากเพราะว่าเลยเวลาอาหารเย็นแล้ว เราก็เดินทางไปยังร้านอาหารก่อนเข้าโรงแรม หลังจากนั้นเดินทางไปยังโรงแรม DAY’S HOTEL 
เป็นโรงแรม 4 ดาว ถ้าอยู่ชั้น 5 ของตึก จากโรงแรมสามารถมองเห็น ตลาด LOWU สามารถเดินไปได้ประมาณ 300 เมตร แต่เนื่องจากถนนมีอุโมงค์ จึงต้องเดินอ้อมนิดหน่อย 
โรงแรมนี้สามารถเดินหาของรับทานได้ง่ายเพราะว่าข้างโรงแรมทางด้านซ้ายมือจะมี มินิมาร์ท หรือถ้าท่านเมื่อยล้า จากการเดิน ชั้น 4 ของโรงแรม จะมีบริการ สปา นวดตัว นวดเท้า อัตราค่าบริการก็ไม่แพง เริ่มต้นที่ 40 หยวด สถานที่สะอาดดี 

หลังจากที่เราพักผ่อน เจอกันช่วงเช้า หลังจากรับประทานอาหารเช้าที่โรงแรมเป็นแบบ American breakfast. ห้องอาหารอยู่ชั้นเดียวกับแผนกต้อนรับของโรงแรม (Reception) 
หลังจากอาหารเ้ช้า เราก็เริ่มเดินทางท่องเที่ยวในตัวเซิ่นเจิ้น เนื่องจากเซิ่นเจิ้นเป็นเมืองที่ประวัติศาสตร์ยังไม่ยาวนานนัก ดังนั้นสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็น โบราณสถาน โบราณวัตถุจะไม่ค่อยมี แต่ว่าส่วนใหญ่จะมา shopping ของมากกว่า เนื่องจาก การออกแบบของที่นี้ จะมีลักษณะที่คล้ายคลึงกับของที่มียี่ห้อดังๆ แต่ว่าเราก็ได้ไปชม โรงงาน หยก เพราะว่า ราคาหยกที่เซิ่นเจิ้นจะราคาไม่แพง หลายคนในคณะซื้อเรือสำเภาหยก กลับมาเพราะว่ามีความเชื่อเรื่องการค้าขาย เนื่องจากเรือสำเภาเป็นพาหนะในการออกธุระกิจของชาวจีน และยังมีผีชิว หรือ ผีซิ่ว บางคนเรียก ผีเซี้ย เป็นสัตว์นตำนานเป็นสัตว์์ที่ผสมกันหลายชนิด หลังจากทุกคนซื้อของฝากกันเรียบร้อย เราทุกคนก็เดินทางไปยังจุดหมาย ที่หลายๆคนตั้งใจ คือ ตลาด LOWU เป็นอาคารที่ขายของเหมือนจริง หรือของ COPPY 

เรื่องทัวร์ฮ่องกง เที่ยวฮ่องกงถามเราซิคะ

ตะวันทอแสงที่ ฮ่องกง Sunny Days in Hongkong ตอน2

"ตะวันทอแสงที่ ฮ่องกง Sunny Days in Hongkong ตอน2"

แล้วเค้าก็เดินนำตามทางไปเรื่อยๆ 


หลายท่านมีแวะเข้าห้องน้ำ เดินไปจนถึงทางแยกที่จะต้องไปขึ้นรถของสนามบิน เพราะว่า สนามบิน “เช็คลับก๊อก” เป็นสนามบินที่ใหญ่มากติดอันดับต้นๆ จึงต้องนั่งรถไฟไปอาคารใหญ่
(บางท่านไม่กล้าขึ้นเพราะว่ากลัวว่าจะไม่ได้ไปที่เดียวกัน แต่ว่ารถไฟ วิ่งไปแล้วก็วิ่งกลับเท่านั้น )
นั่งรถไฟไปถึงที่อาคารใหญ่เราก็ตามทาง เห็นตรงหน้าจอบอกว่า OX2316 ต้องไปรับกระเป๋าที่สายพาน 5 ก็ต้องผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองแล้วทุกคนก็ไปรอรับกระเป๋า แล้วก็เดินตามกันออกไปแล้วก็เจอ ไกด์ท้องถิ่นชื่อ “คุณทอม” ที่ประตู EXIT B ทัวร์ฮ่องกง
คุณทอมพาเราทุกคนไปที่รถใช้เวลาประมาณ 20 นาที เราเอากระเป๋าขึ้นรถและเลือกที่นั่งกันเสร็จ เราเดินทางไปตามเส้นทางที่เข้าสู่เมืองฮ่องกง 
เรามารู้จัก เกาะฮ่องกง กันคร่าวๆ ฮ่องกงแบบออกเป็นเกาะเล็กใหญ่มากมาย แต่ว่าเกาะที่สำคัญของฮ่องกง มีทั้งทั้งหมด 3 เกาะหลักๆ คือ 
1.เกาะลันตา หรือ เกาะลันเตา เกาะนี้เป็นเหมือนประตูเข้า ฮ่องกงเพราะว่ามีสนามบิน สวนสนุกดิสนีย์แลนด์ โอเชี่ยนปาร์ค และพระใหญ่ ที่คนไทยเรียกกันว่าพระใหญ่เกาะลันตา 
2.เกาะเกาลูน เกาะนี้เป็นที่ชื่นชอบมากของคนทั่วไปเพราะเป็นเกาะแห่งแฟชั่น เนื่องจากมีถนนแห่งการ ช้อปปิ้ง เช่น จิมซานจุ่ย เรดี้มาเก็ต ถนนดารา Avenues of Star ฯลฯ 
3.เกาะฮ่องกง เกาะนี้เปรียบเสมือนเมืองธุระกิจ เพราะว่าอาคารสำนักงานต่างๆ ส่วนใหญ่จะอยู่ที่เกาะนี้รวมทั้ง วิคตอเรียพีค อ่าวน้ำตื่น มาเที่ยวฮ่องกง

หลังจากที่เรารู้จักฮ่องกงกันเรียนร้อยแล้ว ผมจะพาทุกท่านไปเที่ยวที่ วัดหวังต้าเซียน เป็นวัดที่ชาวฮ่องกงให้ความนับถือเป็นอันมากเพราะว่าทุกคนเชื่อว่า “วัดหวังต้าเซียน” หรือเทพต้าเซียนเป็นเทพเจ้าแห่งหมอรักษาโรคภัยต่างๆ 


หลังจากขอพรเรียบร้อยแล้วเราก็ไปทานอาหารกลางวัน แบบกวางตุ้ง 
อาหารแบบกวางตุ้ง จะมีรสชาติไม่จัดเหมือนอาหารไทย แต่คนไทยส่วนใหญ่จะทานไม่ได้เยอะ แต่ว่าบริษัททัวร์ก็มีน้ำจิ้ม แจ่ว และซีฟู๊ดมาให้ด้วย ทุกอย่างบนโต๊ะเราไม่เหลือเลย เพราะว่าทุกคนหิวมาก จากนั้นก็ถึงเวลาที่หลายๆท่านรอคอยเพราะว่าหลงจากทานอาหารเราก็ได้ไปที่ถนนจิมซานจุ่ย 
จิมซานจุ่ยเป็นถนนช้อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดของฮ่องกง เราเดินจับจ่ายกันจนเพลินก็ได้เวลาดูแสงสีเสียงพอดี ประมาณ 2 ทุ่มของทุกวันยืนดูความตระกาลตาของแสง สี เสียง “ Symphony of Lights” มีการยิงแสง เรซอร์ จากเกาะเกาลูน ไปยังตึกของฝั่งฮ่องกง ที่เปรียบเสมือน ฉากหลังที่อลังกาล 

และไม่ไกลจากที่เรายืนก็เป็นถนนดารา “Avenue Of Star” จะมีรอยประทับฝ่ามือของดาราดังๆ หลายคน หลังจากที่โชว์จบเราก็ได้เดินไปพบหัวหน้าทัวร์ยังจุดนัดหมาย หน้าศูนย์ช้อปปิ้ง SOGO PLAZA ไปยังโรงแรม  HERBOUR PLAZA 8 DEGREE HOTEL โรงแรมนี้เป็นโรงแรมใหม่ และมีลักษณะแปลก เนื่องจากเลข 8 เป็นเลขที่ถือเป็นมงคลของคนจีน และคนฮ่องกง เพราะว่าเป็นเลขที่ไม่มีจุดขาดของเส้น โรงแรมจึงมีสัญลักษณ์ต่างที่เป็น การเสริมฮ่วงจุ้ย แต่ว่าโรงแรมนี้ห้องจะไม่กว้างมากนักเนื่องจากเป็นโรงแรมที่อยู่ในเมือง แต่ว่าผมว่าห้องเค้าก็น่าอยู่สะอาด และหน้าโรงแรมยังมีตลาดเล็กๆ มีผลไม้สดๆให้เราได้เลือกซื้อ 

เที่ยวฮ่องกง ทัวร์ฮ่องกงด้วยกันซิคะ

ตะวันทอแสงที่ ฮ่องกง Sunny Days in Hongkong ตอน1

"ตะวันทอแสงที่ ฮ่องกง Sunny Days in Hongkong ตอน1"

เป็นประสบการณ์ที่หลายๆท่านอาจจะต้องอิจฉาเลยที่เดียว 


เพราะว่า ผมเดินทาง 4 วันเต็มๆเลย ใช้ชีวิตอยู่ ฮ่องกง และเซินเจิ้น อย่างคุ้มค่ามากๆ เพราะว่าผมบินโดยสายการบิน โอเรี้ยนไทย (ORIENT THAI) OX 2316 เป็นเที่ยวบินเหมาลำ ทั้งเครื่องมีแต่คนไทยทั้งหมด ประมาณ 500 กว่าที่นั่ง ตอนแรกที่มาถึงสนามบินผมเห็นคนเยอะมาก คิดว่าวันนี้อย่างไงก็ต้องตกเครื่องกันบ้างล่ะ (คิดในใจ) แต่ว่าเจ้าหน้าที่ของ ทาง บริษัททัวร์ ต่างๆ ก็ช่วยกันอย่าง ขะมักเขม้น จนทุกคนได้ขึ้นเครื่องตามเวลา

หลังจากที่ทุกคนได้บัตรโดยสาร แล้ว เราก็ต้องเซ็นชื่อตามที่เจ้าหน้าที่ของ บริษัท ได้ให้มา รู้สึกถึงความสะดวกสบายมาก 
ไม่ต้องกรอกเอง คณะเรา ก็พากันเดินไปที่ ตรวจคนเข้าเมือง (INMIGATION) คนเยอะมากเลยต่อแถวกันพักใหญ่ แต่ว่าจะ 
แยกระหว่างช่องคนไทย (คนไทยช่วงสีเขียว เขียนว่า “THAI PASSENGER”) กับชาวต่างชาติ เสร็จจากตรงนี้เดินผ่านเจ้าหน้าที่ 
ที่ทำหน้านิ่งๆไปแล้ว เราก็ต้อง X-RAY กระเป๋าที่เราถือขึ้นเครื่อง ตรงนี้สำคัญเพราะว่าเจ้าหน้าที่ของบริษัททัวร์ย้ำเรื่องของเหลวที่ห้ามนำขึ้นเครื่อง เที่ยวฮ่องกง

1.ของเหลวต่างๆ ที่มีปริมาณไม่เกิน 100 มิลลิลิตร (ML.) เช่น น้ำเปล่า นม แยม น้ำผึ้ง ซอส น้ำหอม โยเกิร์ต เจลใส่ผม ยาสีฝัน 

2.ของมีคมต่างๆ เช่น กรรไกรตัดเล็บ ตะไบเล็บ มีดพก ตะกุด ลูกปืน 

ผมต้องถอดเข็มขัดด้วยครับ เพราะว่าเจ้าหน้าที่ให้ถอด อายมากๆ บางคนต้องถอดรองเท้าด้วย “ไม่รู้ว่ากลิ่นจะไหวไหมอ่ะ” บางคนไม่เข้าใจต้องเอาทิ้งเลยเพราะว่าเจ้าหน้าที่จะไม่อนุญาตให้นำ น้ำ, นม,หรือน้ำผลไม้ เข้า แต่ว่าเราสามารถ ซื้อด้านในได้ ทัวร์ฮ่องกง
ผมก็ งง อยู่เหมือนกัน 555 เสร็จจากตรงนี้แล้ว ก็ได้เดิน ช้อปปิ้ง สินค้าปลอดภาษีด้วย เพราะว่ายังมีเวลาอยู่เล็กน้อย 
เดินดูไปเรื่อยๆจึงเจอกับผู้เดินทางที่อยู่ในคณะเดียวกัน เห็นเค้ากำลัง รับของที่ไปซื้อที่ KING POWER ซอยรางน้ำอยู่จึงเดินไป
ที่ GATE พร้อมกัน สนามบินสุวรรณภูมิ บ้านเรากว้างมากๆ ดังนั้นการเดินไปที่ GATE ต้องใช้เวลา จึงต้องเผื่อเวลาไว้ด้วย 
มองเห็น GATE แต่ไกลๆ อยู่คนละชั้นกับที่เราอยู่ต้องเดินลงบันไดลงไปรอด้านล่าง


พอถึงเวลาเจ้าหน้าที่ของสายการบินก็เรียกทั้งหมดเข้าไปยังตัวเครื่อง ตรงนี้น่าสนใจเพราะว่า ตอนที่เราได้บัตรที่นั่งมานั้น บัตรจะแบ่งเป็น 2 ส่วน เจ้าหน้าที่จะดึงส่วนที่ ยาวๆไว้ แล้วคืนส่วนสั้นๆ ให้เราไปเพื่อให้เราไปที่เครื่อง 

เราก็เดินตามช่องทางเข้าไปยังตัวเครื่อง จะมีเจ้าหน้าที่ของสายการบิน คอยบอกว่าที่นั่งของเราต้องเดินไปทางไหน เพราะว่าที่นั่งบนเครื่องจะมีทางเดิน 2 ทาง เนื่องจากเป็น BOEING 747 จึงเป็นเครื่องลำใหญ่ ที่นั่งเป็น 3 / 4 / 3 ผมได้นั่งกลางๆเครื่อง ไม่ได้นั่งตรงปีก น่าเสียดายมากที่ ไม่เห็นด้านนอก แต่อย่างไงก็ มืดอยู่ดี ^^" เพราะว่าเครื่องเราออกจาก กรุงเทพตอน ตี 5 นั่งซักพัก เจ้าหน้าที่บริการบนเครื่อง หรือที่เราเรียกว่า แอร์โฮสเตด (Airhostess) และสจ๊วต (Steward) 
ก็เหมือนว่าจะเช็คผู้โดยสาร ประมาณ 5 นาทีก็มีเสียประกาศจากกัปตัน ต้อนรับเราแล้วก็แจ้งว่าเรากำลัง จะไปไหนกันจะถึงกี่โมง เครื่องเริ่มมีการเคลื่อนตัวเจ้าหน้าที่จะมาสาธิตการระบบความปลอดภัยให้ชม เนื่องจากสายการบินนี้เป็นสายการบินกึ่ง Low Cross ไม่มีจอให้เราชม แต่ว่าผมว่าแบบนี้ก็ดีนะครับ เพราะว่าพนักงาน น่ารักดี ^0^ หลังจากเครื่องไต่ระดับจนเครื่องนิ่งๆ แอร์ จะเดินมาถามว่าใครต้องการ อะไรเพิ่มเติม เช่น ผ้าห่ม,หูฟัง ฯ เครื่องเดินทางไปได้ซักครู่หนึ่ง ผมก็หลับเนื่องจากว่าวันนี้ผมตื่นเช้ามาก หลับตาไปพักใหญ่ก็ต้องตื่นขึ้นมาเพราะว่าได้กลิ่นอาหารหอมๆ ลืมตามาเห็นแอร์กำลังเสริฟ

เทอริยากิ” ของโออิชิ “Oishi” เป็นอาหารแบบญี่ปุ่นมี 2 แบบให้เลือกคือ หมู่ และไก่ และน้ำบริการ เช่น น้ำส้ม, น้ำเปล่า, น้ำอัดลม, น้ำชาฯลฯ หลังจากที่ทุกคนกำลังทานอาหารกันอย่างมีความสุขก็มองเห็นเกาะฮ่องกงแล้ว

พอลงเครื่องที่สนามบินทุกคน เริ่มตื่นเต้น เพราะว่าหลายๆคนเดินทางมาฮ่องกงครั้งแรก เครื่องจอดสนิทคนเริ่มออก จากเครื่อง เนื่องจากว่าเราอยู่กลางเครื่องเราก็ออกไม่เร็วเท่าไหร่ แต่ว่าออกมาจากเครื่องแล้วก็เจอะหัวหน้าทัวร์ คุณเมย์ และคุณดา เป็นหัวหน้าทัวร์ของเราที่เดินทางมาพร้อมกัน เค้าก็เรียกรวมอธิบายเรื่องการใช้ใบ ตม. เข้าฮ่องกง 

เที่ยวฮ่องกง ทัวร์ฮ่องกงกับเราซิคะ

ทาร์ตไข่ฮ่องกง

ทาร์ตไข่ฮ่องกง

เที่ยวฮ่องกง

ขนมหน้าตาเหมือนพายขนาดเล็กใส้คัสตาร์ดหอมหวานนี้มีต้นกำเนิดมาจากแดนผู้ดี ประเทศอังกฤษ หลังจากที่อังกฤษได้เป็นเจ้าของเกาะฮ่องกง ก็นำขนมชนิดนี้เข้ามาด้วย ทาร์ตไข่จะมีอยู่ 2 แบบคือแบบแป้งนุ่มกับแป้งกรอบ แต่รสชาตต้นตำรับไม่ถูกใจชาวฮ่องกงเท่าไหร่ จึงเกิดการคิดค้นสูตรใหม่คือลดครีมคัสตาร์ดลงแต่เพิ่มปริมาณไข่ลงไป ทำให้หวานน้อยลง ครีมมีความเข้มข้นและกลิ่นหอมของไข่ไก่เข้ามาแทน เรียกได้ว่าเป็นทาร์ตไข่รสชาตถูกใจชาวเอเชียและเป็นที่ยอมรับของชาวตะวันตกยิ่งกว่าสูตรต้นตำรับเสียอีก

ร้านที่ต้องโดน :
สำหรับแบบแป้งกรอบหาซื้อได้ที่ร้าน Tai Cheong Bakery อยู่ที่ 35 Lyndhurst Terrace, Central โทร +852 2544 3475

ส่วนแบบแป้งนุ่มหาซื้อได้ที่ร้าน Honolulu Coffee Shop อยู่ที่ 176 ถนน Hennessy Road, Wan Chai โทร +852 2575 1823

หรือทีเด็ดสุดๆ คือ
ร้าน Hoover Cake Shop ร้านโปรดของนักแสดงชื่อดังโจวเหวินฟะ กินแล้วอยากใส่แว่นดำแล้วสูบซิการ์โชว์แบบเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้เลยทีเดียว อยู่ที่ 136 ถนน Nga Tsin Wai เกาลูน โทร +852 2382 0383

ทัวร์ฮ่องกง

ได้ไปเที่ยวฮ่องกงก็อย่าลืมแวะไปชิมกันดูนะคะ

กิน เที่ยวฮ่องกง กับ Wonderfulpackage ตอนสุดท้าย

กิน เที่ยวฮ่องกง กับ Wonderfulpackage ตอนสุดท้าย

ทัวร์ฮ่องกง
ลูกชิ้นฮ่องกง

รุ่งเช้าครับ รถนัดเรามารับตอน ตี 4 เพราะว่าเครื่องออกตอน 08.00 น. ก็เลยต้องตื่นกันเช้าหน่อยพอรถมารับครับ ก็เห็นคนอื่น ๆ นั่งมาด้วยแสดงว่าไปรับมาจากที่อื่นแล้วเหมือนกัน แต่ละคนหลับกันสนิทเลยครับ และแล้วรถก็มาส่งเราที่สนามบินครับ ได้กลับบ้านแล้วครับงานนี้ ผมไม่พูดอะไรอ่ะครับ ไปดูบอร์ดก่อนเลยครับว่าเค้าเปิดเช็คอินที่เคาน์เตอร์ไหน พอรู้แล้วว่าเป็นโลว G ก็รีบไปเลยครับ และเมื่อเช็คอินเสร็จแล้วก็เข้า Gate ของทัวร์ฮ่องกงเลยครับ ไปเตรียมตัวอยู่ในนั่นดีกว่าครับ จะได้ไม่ตกเครื่อง ก็เช่นเดิมครับ นั่นรถไฟไปที่ Gate ครับ คงเป็นเพราะว่าตอนเช้าด้วยอ่ะครับ คนก็เลยยังน้อย ๆ อยู่ พอมาถึงก็เห็นแล้วครับ เครื่องมาจอดรอเราอยู่ ได้กลับบ้านแล้วครับ ดีใจจัง

พอได้ขึ้นเครื่อง ก็ได้พบกับลูกเรือคนไทยที่เราคุ้นเคย นั่งไปได้สักพัก ก็เริ่มแล้วครับ บริการอาหารและเครื่องดื่ม ตามสไตล์ของ โอเรียนท์ไทยแอร์ไลน์ ส่วนขากลับนี้มือเช้าก็จะเป็นอาหารเบา ๆ ครับ เชิญเที่ยวฮ่องกงเป็นแซนวิชทูน่า และก็สลัดผัก อร่อยดีครับ แล้วก็น้ำส้ม กาแฟร้อน ถือว่าทำให้อยู่ท้องไปได้หน่อย เมื่อทานเสร็จแล้ว ก็เริ่มลงมือนอนแล้วครับ มาตื่นอีกทีก็ถึงไทยแล้วอ่ะครับ ลงเครื่องผ่านด่านต.ม. ก็รับกระเป๋า อย่างที่เคย ๆ แล้วก็ออกมาด้านนอกครับ กลับบ้านไปนอนหลับเป็นตาย ตื่นมาอีกทีก็เย็นกันเลยทีเดียว อิอิอิ สรุปนะครับ การไปเที่ยวแบบไม่ง้อทัวร์ในคราวนี้ขอผม ถือว่าได้เป็นการเปิดโลกอันแคบของผม ให้กว้างขึ้น ได้เรียนรู้อะไรต่อมิอะไรด้วยตัวเอง และทำให้เราได้รู้ว่าเพื่อนบ้านยังมีอะไรอีกเยอะให้เราได้ศึกษา ถ้ามีโอกาสผมก็อยากจะหาที่อื่นไปอีก อย่างน้อยเราก็นำความรู้ที่ได้มาจากการเที่ยวครั้งนี้มาใช้ประโยชน์กับกับทำงานของเราได้อ่ะครับ

กิน เที่ยวฮ่องกง กับ Wonderfulpackage ตอน10.1

กิน เที่ยวฮ่องกง กับ Wonderfulpackage ตอน10.1

ทัวร์ฮ่องกง
ฮ่องกงกลางคืน

หาอะไรเติมลงท้องได้แล้วก็เริ่มแล้วครับ ตะลุยราตรีอีกรอบ เป็นรอบเก็บตกครับ ก็เลยเอาวิถีชีวิตของคนฮ่องกงมาฝากครับ เกี่ยวกับการขึ้นรถเมล์ของคนที่นี่ครับ ที่นี่นะครับ การขึ้นรถเมล์ รถจะจอดตรงป้ายของเค้าเท่านั้น ป้ายไหนก็ป้ายนั้น ไม่มีการจอดผิดป้าย อย่างเช่น ถ้าเราจะไปสาย A21 เราก็ต้องไปยืนตรงป้ายที่เขียนว่า A21 และถ้ารถเมล์มาเห็นมามีคนรอที่ป้าย รถก็จะเข้ามาจอด แต่ถ้าเรายืนผิดป้าย ต่อให้เราโปกให้ตาย เค้าก็ไม่จอดให้ครับ และถ้าเรามองขึ้นไปบนตึกระหว่างทางที่เราเดินผ่านย่านนาธานนะครับ เราก็จะเป็นบ้านเรือนของผู้คนชอบเดินทางไปทัวร์ฮ่องกงเค้าครับ จะตากผ้าตากผ่อนกัน เห็นแล้วก็แปลกตาดี เพราะว่าถ้าเราไม่สังเกต มัวแต่มองมุมธรรมดา เราก็จะเห็นแต่สิ่งส่วยงามครับ อิอิอิ เดินไปหน่อยครับ ตรงถนน Temple St เราก็จะพบกับดงหมอดูครับ ตั้งกันเป็นเต็นท์เลยครับ เป็นถนนทั้งสายเลยครับเห็นแล้วก็แปลกตา ไปอีกแบบ ได้ครั้นเราจะเข้าไปนั่งดูก็กระไรอยู่ เพราะไม่รู้เค้าจะดูให้เราเป็นภาษาอะไร อิอิอิ เลยเดินผ่าน และก็ได้แค่ถ่ายรูปดีกว่า ชักเริ่มง่วงแล้วครับ เหนี่อยด้วย พรุ่งนี้กลับแล้ว งั้นเอาเป็นว่า ผมคุ้มกับการมาเที่ยวฮ่องกงครั้งนี้แล้วครับ ผมขอตัวกลับไปนอนก่อนดีกว่า.....

กิน เที่ยวฮ่องกง กับ Wonderfulpackage ตอน9

กิน เที่ยวฮ่องกง กับ Wonderfulpackage ตอน9

เที่ยวฮ่องกง
ภาพที่เมืองจีนคล้ายๆกับฮ่องกง

เมื่อเสร็จจากเซ่นนาโดว์สแควร์แล้วก็ขึ้น TAXI มาที่วัดอาม่าครับ ยังไงต้องมาที่วัดนี้ให้ได้ครับ เพราะถือว่าวัดนี้เป็นวัดประจำมาเก๊า ที่ใคร ๆ มาแล้วก็ว่าไหว้อาม่าที่วัดนี้ ก็เหมือนเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของมาเก๊ากันเลยครับ เยี่ยมชมกันได้สักพักก็ต้องขึ้น TAXI กลับไปที่ท่าเรืออ่ะครับ เพราะอะไรเหรอครับ เรามีนัดไปต่อกันที่เวเนเชียนไงครับ
พอมาถึงที่ท่าเรือก็เดินมาขึ้นรถฟรีกันอีกแล้ว เพราะว่าทางเวเนเชียนก็ใจดีครับ มีรถโค๊ชปรับอากาศคันใหญ่ ๆ มารับเราให้เข้าไปเยียมชม กันแบบไม่เสียตังค์ พอมาถึงที่เวเนเชียน ถือว่าคุ้มครับ เพราะว่าถ้ามาถึงมาเก๊า หัวเด็ด อะไรขาดยังไง ก็ต้องมาที่นี่ให้ได้ครับ ทั้งยิ่งใหญ่ ทั้งสวยงาม พูดไม่ถูกครับ ต้องมาได้สัมพัสด้วยตัวเองครับ แต่ยังไงเราก็ต้องทำเวลาครับ เพราะว่าเรือที่เราจะกลับเที่ยวสุดท้ายหมดตอน 18.30 น. ครับ จึงไม่ค่อยได้พูดอะไรมากครับ เดิน ๆ ถ่าย ๆ รูป กันอย่างเดียว เก็บเกี่ยวให้ได้มากที่สุด เสร็จแล้วก็มาขึ้นรถโค๊ชกลับที่ไปท่าเรือครับ

เมื่อมาถึงที่ท่าเรือก็ขึ้นมาที่ชั้น 2 ครับมาซื้อตั๋วของบริษัท Turbo Jet ครับ มีแต่คนบอกว่าเรือบริษัทนี้ดีนักดีหนา ก็เลยอยากลองขึ้นดูครับ เมื่อซื้อตั๋วเช็คอินแล้วก็ผ่านด่านอะไรได้เรียบร้อยแล้วก็ถึงเวลาขึ้นเรือครับ เนื่องจากเราไปใกล้เวลาเรือออก เราเลยไม่ต้องรอนาน พอขึ้นไปนั่งบนเรือ ลักษณ์ก็คล้าย ๆ เรือที่เมื่อเช้ามาเลยครับ แต่เวลาที่นั่งนั้น ใช้เวลาสั้นกว่าเมื่อเช้าประมาณ 15 นาที่ เพราะว่าเมื่อเช้าเรามา เราใช้เวลาไป 45 นาที แต่ขากลับ เราใช้เวลาไป 30 นาทีเองครับ ก็ถือว่าเร็วกว่า แต่ถ้าถามว่าเรือและบริการดีไหม ก็เหมือน ๆ กันนะครับ และเมื่อมาถึงที่เที่ยวฮ่องกง เรือก็จะมาจอดที่ห้าง Shun Tak Center ครับ แต่กว่าจะออกจากด่านที่นี่ได้ก็เล่นเอาจะอ้วกเหมือนกัน เพราะว่าต้องขึ้นไปชั้น 4 ก่อนแล้วค่อยลงมาใต้ดิน และกว่าจะเดินไปถึง MTR ก็เล่นเอามึนเหมือนกันครับ ประกอบกับดึกแล้วด้วยครับ หิวก็หิว เมาเรือก็นิดหน่อย เดินเนี่ยเรียกว่าขาจะพันกันเลยทีเดียว และเมื่อมาถึงที่ทัวร์ฮ่องกง เรือก็จะมาจอดที่ห้าง Shun Tak Center ครับ แต่กว่าจะออกจากด่านที่นี่ได้ก็เล่นเอาจะอ้วกเหมือนกัน เพราะว่าต้องขึ้นไปชั้น 4 ก่อนแล้วค่อยลงมาใต้ดิน และกว่าจะเดินไปถึง MTR ก็เล่นเอามึนเหมือนกันครับ ประกอบกับดึกแล้วด้วยครับ หิวก็หิว เมาเรือก็นิดหน่อย เดินเนี่ยเรียกว่าขาจะพันกันเลยทีเดียว

กิน เที่ยวฮ่องกง กับ Wonderfulpackage ตอน8

กิน เที่ยวฮ่องกง กับ Wonderfulpackage ตอน8

ทัวร์ฮ่องกง
ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับฮ่องกง

และแล้วก็มาถึงครับ พอลงเรือผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองได้เรียบร้อยแล้วก็ออกมาสู่โลกภายนอกครับ ออกมานอกท่าเรือ ก็ต้องตกใจกับบรรดารถโค๊ชของคาสิโนหลากยี่ห้อครับ ที่มาจอดรอรับนักท่องเที่ยวกันมากมาย อากาศที่นี่เย็นสบายดีครับ อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 20-25 ครับมีลมอ่อน ๆ และก็มีแดดด้วย ได้การหล่ะ ผมเลยกระโดดขึ้นรถคันสีแดงสดใสของ Wynn Macao ครับ เพราะรู้มาว่า ถ้าขึ้นรถไปลงที่นี่เราสามารถต่อไปที่อื่นได้ง่ายขึ้น แล้วก็ประหยัดตังค์ไปได้เยอะด้วยครับ และแล้วรถก็มาจอดหน้าโรงแรมครับ มองไปโดยรอบโอ้ว...เป็นอย่างที่ว่าจริง ๆ ด้วย ทางขาวมือของโรงแรมเป็นโรงแรมแกรนด์ริชบัว ขวามือเป็นมาเก๊าทาวน์เวอร์ และก็ถัดจากโรงแรมแกรนด์ริชบัวไปหน่อยก็เป็นเซ็นนาโดว์สแควร์ และด้านหลัง Wynn ก็เป็นรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมครับ ถือว่าทั้งหมดเดินเท้าถึงกันได้หมดเลยครับและที่ Wynn ก็จะมีการแสดงน้ำพุเต้นระบำทุก ๆ 15 นาที ครับ สวยมาก ประกอบกับเสียงดนตรี มีคนดูมากมายเลยครับ บรรยากาศโดยรอบก็สวยครับ เป็นสวนสวย มีต้นไม้และไม้ประดับสวยมาก

ที่เซนนาโดว์สแควร์ผู้คนเยอะมากครับ คงเป็นเพราะว่าวันที่ไปเป็นวันเสาร์อ่ะครับ เลยมีคนมาเยี่ยมชมเยอะ แต่ที่แน่ ๆ คนไทยที่มาเที่ยวเยอะมาก เดินไปไม่เท่าไหร่ก็เจอคนไทย แต่ว่าคนมาเก๊าเองเค้าพูดภาษาอังกฤษไม่แข็งแรงนะครับ และถ้าเราออกสำเนียงไม่ถูกก็จะทำหน้า งง ใส่เราเสียอีกต่างหาก ที่นี่นะครับ เราสามารถใช้เงิน ไปทัวร์ฮ่องกงได้ครับ แต่ต้องระวังให้ดีนะครับ เค้าจะทอนเรามาเป็นเงินมาเก๊าครับ และเวลาเราเอาไปแลกคืน เราเองที่จะต้องขาดทุนอ่ะครับ ขาดทุนไปประมาณ .2 อ่ะครับครับ ถ้ามาถึงที่นี่นะครับ ไม่อยากให้ทุกคนพลาดกับการได้ลิ้มรถทาร์ตไข่ครับ อร่อยมากครับ ยิ่งร้อน ๆ นะครับ อร่อยอย่าบอกใคร ตกราคาแล้วก็ชิ้นและ 5 HKD อ่ะครับ แถมมีร้านขายให้เลือกหลายร้านด้วย นอกจากทาร์ตไข่แล้วก็จะมีประเภท หมูแผ่น ถั่วตัด ขนมตุ๊บตั๊บอ่ะครับ

กิน เที่ยวฮ่องกง กับ Wonderfulpackage ตอน7

กิน เที่ยวฮ่องกง กับ Wonderfulpackage ตอน7

ทัวร์ฮ่องกง

สำหรับอาหารค่ำของผมในค่ำคืนนี้ผมเลือกที่จะมาหาอะไรกินที่ย่านไนท์มาร์เก็ต ที่นั่นนอกจากของกินจะเยอะแล้ว ยังเป็นแหล่งช๊อปปิ้งในยามค่ำคืนของคนนอนดึกอีกด้วย สินค้าที่นี่จะมีให้เลือกหลากหลายมากไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย เครื่องประดับโดยจะแบ่งออกเป็น 3 โซนใหญ่ ๆ คือ เลดี้มารเก็ท ซี่งจะเป็นสินค้าเกี่ยวกับเสื้อผ้า,กระเป๋า,เครื่องประดับ,ของที่ระลึก ต่างๆ มากมายโดยจะเน้นหนักไปทางของใช้ผู้หญิง อีกโซนคืน สปอร์ทสตรีท เป็นถนนที่ขายเกี่ยวกับอุปกรณ์ กีฬาทั้งเส้นเลย ไม่ว่าจะเป็นรองเท้า เสื้อผ้า กระเป๋า หมวก และโซนสุดท้ายก็จะเป็น เครื่องใช้ไฟฟ้า ก็จะมีเครื่องใช้ไฟฟ้ามากมายให้เลือกจับจ่าย ทีนี้เรามาว่าเรื่องของกินกันดีกว่าครับ ที่ตลาดไนท์มาร์เก็ทนี้ก็จะมีพวกลูกชิ้นทอด หลายร้านอยู่เหมือนกันครับ แล้วแต่ว่าท่านจะเลือกร้านไหนรับรองรถชาติไม่คุ้นลิ้นคนไทยอย่างแน่นอน อย่างน้อยก็น้ำจิ้มหล่ะครับ ออร์เดิฟ ผ่านไปแล้วต่อไปก็มามื้อใหญ่แล้วหล่ะครับ ที่นี้เริ่มมองหาร้านข้าวที่มีโต๊ะนั่งแหละ ร้านแถวนี้ดีนะครับ มีรูปมีราคาโชว์อยู่หน้าร้าน ทำให้เราตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าจะทานอะไร ภายในร้านก็ตกแต่แบบง่าย ๆ น่านั่งครับ อาหารราคาก็ไม่แพงครับ ประมาณ 19-20 HKD ส่วนน้ำที่นี่ก็จะนิยมกินเป็นชานมครับ ไม่ว่าจะร้อนหรือเย็น ก็ 10 HKD เหมือนกัน งั้นขอตัวหม่ำ ๆ ก่อนนะครับ ไว้เจอกันใหม่พรุ่งนี้เช้าครับ แล้วผมจะพาไปเที่ยวมาเก๊ากันครับ

"การเดินทางวันที่ 3" 14 มีนาคม 2552 ตื่นมาแต่เช้าครับวันนี้ อากาศแจ่มใสมากครับ วันนี้เราต้องตื่นแต่เช้ากันหน่อยครับเพราะว่าจะต้องออกไปฝั่งมาเก๊าด้วย แต่ว่าก่อนไปมาเก๊าเราจะแวะไปไหว้พระกันก่อน ที่วัดหวังต้าเซียน โดยนังรถ MTR ไปลงสถานี Wong Tai Sin และออกที่ทางออก B3 ออกมาทางนี้จะเจอห้างให้เลี้ยวขวาก็จะเจอทางเข้าวัด ว่ากันว่าใครที่ได้มาขอพรที่เกี่ยวกับสุขภาพที่วัดนี้ จะสมหวังกันทุกรายไปเที่ยวฮ่องกง ยังไม่หมดครับจากนั้นก็ไปต่อกันที่วัดนางชี ว่ากันว่าที่วัดนี้ตรงข้ามมีสวนสาธารณะที่สวยงามมาก และที่นี่ก็อยู่ห่างจากวัดหวังต้าเซียนไปแค่สถานนีเดียวเอง นั่ง MTR จากสถานี Wong Tai Sin แล้วไปลงที่สถานี Diamond Hill และออกที่ทางออก C2 พอออกมาก็จะเจอห้าง Plaza Hollywood ให้เลี้ยวขวา แล้วให้เดินไปตามป้ายบอกทาง สำหรับสวนของวัดนางชีเป็นการตกแต่งสวนที่สวยมาก


โดยใช้ศิลป์ตกแต่งแบบญี่ปุ่มผสมผสานกับสไตล์การจัดสวนแบบจีน และสำหรับวัดนางชีที่อยู่ตรงข้ามนั้นก็มีความสวยงามไม่แพ้กันเลยครับ ตั้งเด่นเป็นสง่า สายแล้วครับ เราต้องรีบทำเวลาเพราะว่านี่จะเก้าโมงแล้วเดี๋ยวสายเดี๋ยวขึ้นเรือเที่ยว 10.00 ไม่ทัน ว่าแล้วก็รีบเดินกลับไปขึ้น รถ MTR ไปลงรถที่สถานี Tsim Sha Tsui ครับ แล้วก็ออกประตู A1 เดินผ่านด้านหลังสวน นิดหนึ่ง เดินผ่านด้านหลังสวนมาหน่อยนึงก็มาถึงถนนใหญ่ครับ ให้เราไปที่ท่าเรือ Chaina Ferry Terminal เพื่อขึ้นเรือของบริษัท First Ferry ท่าเรื่อนี้ก็หาไม่ยากครับให้เข้ามาที่ห้าง Chaina Hong Kong City แล้วขึ้นมาที่ชั้น 1 เราก็จะเจอกับห้องจำหน่ายตั๋วครับ ซึ่งก็จะมีให้ซื้อตั๋วตรงกับเจ้าของบริษัทเอง หรือว่าจะซื้อกับตัวแทนจำหน่ายก็ได้ครับ เพราะว่าราคาก็เท่ากันครับ อันที่จริงบริษัทเรือที่ไปมาเก๊ามีด้วยกัน 2 บริษัทครับ แต่ว่าเช้านี้เราจะลองไปบริษัทนี้ก่อนครับ แล้วขากลับเราค่อยกลับอีกบริษัทหนึ่ง ราคาก็ไม่ได้ต่างอะไรกันมากครับ เมื่อซื้อตั๋วได้แล้ว ก็ไปเช็คอินครับ ตกลงไปทันรอบ 10.30 น.ผ่านเช็คอินแล้วก็ไปด่าน ตม.ขาออกของทัวร์ฮ่องกงครับ แล้วก็เข้ามารอใน Gate ซึ่งตอนเช็คอินนั้น เค้าก็ได้ระบุที่นั่งให้เราแล้ว และใน Gate นะครับ ก็มีร้านค้าปลอดภาษีให้เราได้เลือกซื้อของด้วย ส่วนใหญ่จะเป็นเหล้าและบุหรี่อ่ะครับ ก็เลยไม่ค่อยน่าสนใจ นั่งรอได้ไม่นานครับก็ได้เวลาเรียกขึ้นเรือ ก็เดินไปเข้าแถวครับ บรรยากาศภายในเรือก็ดีนะครับ สะอาดสะอ้าน เก้าอี้ก็บุด้วยหนังนั่งได้สบายมาก แอร์ก็เย็น ๆ แถมยังมีพนักงานคอยต้อนรับและเป็นกันเอง บริการสุภาพด้วยครับ....

กิน เที่ยวฮ่องกง กับ Wonderfulpackage ตอน6

กิน เที่ยวฮ่องกง กับ Wonderfulpackage ตอน6

เที่ยวฮ่องกง
ไปฮ่องกงกันเถอะ

เอาหล่ะขึ้นกระเช้าได้แล้ว ตื่นเต้นมากครับ ทำไมเหรอ..ก็มันสูงมากครับเล่นทั้งข้ามทะเลข้ามภูเขา กระเช้าคันหนึ่งนั่งได้ประมาณ 10 คน ครับแต่วันที่ผมไปไม่ค่อยมีคนทางเจ้าหน้าที่เลยให้ขึ้นได้คนละ 1-2 คน บนกระเช้าเราสามารถมองวิวทิวทัศน์ได้ 360 เลยครับ และยังเห็นวิวของสนามบินได้จากมุมนี้ด้วย ยังมีอีกวิธีนะ!!!..ถ้าใครไม่อยากขึ้นกระเช้าและชอบการผจญภัย จะมีทางเดินเท้าครับ ใครสร้างไว้ไม่รู้ แต่ที่รู้ ๆ มีคนเดินกันเยอะเหมือนกันนะครับ นั่งมาได้สักพักประมาณ 30 นาทีก็มาถึงแล้วครับ พอเดินออกมาจากสถานีก็จะพบกับหมู่บ้านวัฒนะธรรมก่อนเลยซึ่งจะมีร้านค้ามากมายทั้งของกินของที่ระลึกและจุดถ่ายรูป เดินผ่านหมู่บ้านมาไม่นานก็มาถึงทางที่จะขึ้นไปนมัสการองค์พระ เดินขึ้นบันไดไปทั้งหมดประมาณ 240 ขั้น (อาจจะนับผิดไปบ้างนะครับ เพราะว่าระหว่างที่เดินขึ้นเดินลงไม่ได้ตั้งใจนับเพราะว่ามัวแต่ถ่ายรูปกัน ก็เลยหลง ๆ ลืม ๆ ) พอขึ้นมาถึงด้านบนก็หายเหนื่อยครับ เพราะว่าวิวบนนี้สวยมาก และทั้ง 2 ฝั่งขององค์พระใหญ่ จะมีรูปปั้นเทวดา ผั่งละ 3 องค์ แสดงการถวายความเคารพอยู่ ซึ่งดูแล้วน่าเลือมใสมากครับ ใช้เวลาอยู่ที่นานพอสมความครับ ต้องรีบกลับแล้วเพราะว่ากระเช้าคันสุดท้ายหมดตอน 18.00 น. และอีกอย่าง วันนี้เรามีนัดตอนเย็นที่อเวนิวออฟสตาร์ด้วยครับ

อ่ะ..ฮ่า..และแล้วคำคืนแห่งสีสรรค์ก็มาถึง เริ่มกันที่ย่านช๊อปปิ้งที่ขึ้นชื่อก่อนดีกว่า ว่า ว่า ว่า ว่า “จิม ซา จุ่ย” ชื่อนี้คุ้นหูคนไทยมั้ยครับ ต้องคุ้นแน่ เพราะว่าย่านนี้มีสินค้าขายเพียบทั้งเสื้อผ้าแบรนด์เนมและไม่มีแบรนด์ รองเท้า กระเป๋า ร้านอาหาร ฟิตเนส โอ้ย...เยอะแยะมากครับ ถัดมาใกล้ ๆ กันก็เป็น “โอเชี่ยนเทอร์มิเนอร์” ที่นี่จะเป็นท่าเรือสำราญ เรื่อใหญ่มากๆครับ เกิดมาก็เพิ่งเคยเห็นเนี่ยแหละ และที่นี่ยังเป็นห้างอีกด้วยโดยจะมีร้านขายของเล่นอย่าง Toy R Us อยู่ที่นี่ด้วยอ่ะครับ นอกจากนั้นยังมีร้านค้าแบรนด์เนมชื่อดัง ๆ อีกเยอะ จะว่าไปก็เหมือนๆ กับห้างสยามพารากอนอ่ะครับ ประมาณนั้น และสาเหตุที่ฮ่องกงเป็นสวรรค์ของนักช๊อปนั่นเพราะว่าที่เที่ยวฮ่องกงเป็นแหล่งปลอดภาษี เค้าจะไม่เก็บภาษีนำเข้าดังนั้นสินค้าต่าง ๆ ที่นี่จึงมีราคาที่ไม่แพงนักเมื่อเปรียบเที่ยบกับบ้านเราและบางรุ่นบางแบบก็ไม่มีเอาเข้ามาขายในบ้านเรา ใกล้ถึงเวลา 20.00 น.แล้วครับการแสดง “Symphony of Lights” ก็จะเริ่มขึ้นแล้วการแสดงนี้ถือว่าสุดยอดครับ สวยงามมากเป็นอีกหนึ่งการแสดงที่ไม่น่าพลาดเลย ถึงแม้จะใช้เวลาในการแสดงแค่ 15 นาทีก็ตามพอการแสดงสิ้นสุดก็แยกย้ายส่วนผมขอตัวไปเดินเล่นที่ถนน “Avenue Of Star” ที่นี่จะมีรอยเท้า+รอยฝ่ามือเหล่าดารามาทัวร์ฮ่องกงประทับเอาไว้มากมาย ลองหาดูนะครับ ดูเวลานี่ก็ 3 ทุ่มกว่าแล้ว ท้องเริ่มหิวแล้ว ไปหาอะไรกินก่อนดีกว่าครับ

กิน เที่ยวฮ่องกง กับ Wonderfulpackage ตอน5

กิน เที่ยวฮ่องกง กับ Wonderfulpackage ตอน5

ทัวร์ฮ่องกง
หมี่ฮ่องกงร้อนๆ

"การเดินทางวันที่ 2" 13 มีนาคม 2552 ตื่นเช้ามาอากาศแจ่มใสมากครับ อากาศเย็น ๆ สบาย ๆ แต่ทำไมวันนี้หมอกเยอะจัง เลยถามเจ้าหน้าที่โรงแรม เค้าบอกว่าฮ่องกงอากาศเปลี่ยนเร็วมากเนื่องจากเป็นเกาะ และแถมบอกอีกว่าเย็นนี้อากาศจะเย็นกว่านี้แล้วก็จะมีลมแรง ดีนะที่ผมเอาเสื้อกันหนาวตัวบาง ๆ ติดมาด้วย วันนี้ไกท์ที่จะพาเราไปเที่ยวนัดว่าจะมารับผมตอน 08.30 น. ครับ ด้วยความที่ตื่นเช้าเลยมีเวลาออกไปเดินสำรวจบ้านเมืองเค้าในตอนเช้า บ้านเมืองเค้าเป็นระเบียบมากครับ ขนาดคนจะข้ามถนน รถว่างขนาดไหนถ้าไม่มีไฟเขียวให้ข้ามเค้าก็ไม่ข้ามกันนะครับ และรถเมล์ส่วนใหญ่ก็จะเป็นรถ 2 ชั้นครับเห็นแล้วแปลกตาดี พอถึงเวลา 08.30 น. ไกท์ท้องถิ่นก็มารับไปเที่ยวซิตี้ทัวร์ครับ เริ่มต้นด้วยการนมัสการขอพรจาก เจ้าแม่กวนอิม ที่บริเวณชายหาด REPULSE BAY ที่นี่สวยมากครับเป็นชายหาดน้ำตื่นผู้คนไม่เยอะมากสงบมากครับที่นี่ผมได้ข้ามสะพานต่ออายุด้วยครับ ซึ่งเชื่อกันว่าถ้าได้ข้ามหนึ่งครั้งจะมีอายุเพิ่มขึ้น 3ปี ชมความสวยงานได้สักพัก ก็ออกเดินทางต่อไปที่ VICTORIA PEAK ชมครับเพื่อทิวทัศน์ของเกาะฮ่องกง 

แต่เนื่องจากวันนี้หมอกลงเยอะมากไกท์ของเราบอกว่าถ้าขึ้นไปถึง PEAK รับรองว่ามองอะไรไม่เห็นแน่ เลยหยุดแวะที่จุดชมวิวแทนครับ จึงได้เก็บภาพสวย ๆ ของตึกต่างๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ของทัวร์ฮ่องกงมาเป็นที่ระลึกครับ ไปแค่ 2 ที่นี้ก็หมดเวลาไปครึ่งวันแล้ว แต่ถือว่าคุ้มนะครับ ไม่ต้องไปเองมีคนพาไปแถมแต่ละที่ที่พาไปก็สวย ๆ ทั้งนั้น เสร็จจากซิตี้ทัวร์ก็เที่ยงพอดีครับ พี่ไกท์สุดหล่อก็พาเรามาส่งที่ย่านจิมซาจุ่ย ลำลากันเสร็จเรียบร้อยก็แยกย้ายกันไปตามทางของแต่ละคน เที่ยงแล้วท้องก็เริ่มหิว พอดีเห็นร้านบะหมีเนื้อวัว ดูท่าทางน่ากินมาก มีทุกส่วนของเนื้อวัวเลย รสชาติอย่าให้บอก อร่อยจนอยากห่อกลับไปด้วย ตกราคาก็ชามละ 38 HKD ได้ เมื่ออิ่มกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็ออกเดินทางต่อกันเลยครับจุดหมายของเราในบ่ายวันนี้อยู่ที่พระใหญ่วัดโป่วหลินครับ วิธีการเดินทางก็ง่ายครับขึ้นรถ MTR ที่สถานี Tsim Sha Tsui แล้วไปลงที่สถานี Tung Chung การขึ้นใต้ดินที่ฮ่องกงก็คล้าย ๆ กับบ้านเรา พอออกจากใต้ดินให้ออกที่ Exit B จะเจอห้าง City Gate Mall ด้านหน้าจะมีน้ำพุเต้นระบำ (เหมือนหน้าห้างพารากอนเลย) ซึ่งเป็นจุดสังเกตุใหญ่ ให้เดินไปทางซ้ายของห้างครับ จะเห็นป้ายชี้ให้ไปขึ้นกระเช้า พอพ้นตัวอาคารก็ให้มองไปทางขวามือครับ จะเห็นเป็นทางขึ้นเป็นบันไดเลือนสูง ๆ เมื่อขึ้นมาด้านบนแล้วก็จะเป็นบริเวณสำหรับที่จำหน่ายบัตรขึ้นกระเช้า ซึ่งราคาก็จะแบ่งออกไปตามวันธรรมดากับวันหยุด ตอนนั้นที่ผมไปตรงกับวันธรรมดาก็เลยถูกหน่อย 96 HKD เมื่อได้ตั๋วแล้วก็มองไปข้างหน้าจะเป็นทางขึ้นกระเช้าครับ งั้นผมขอตัวไปต่อคิดขึ้นกระเช้าก่อนนะครับ

กิน เที่ยวฮ่องกง กับ Wonderfulpackage ตอน4

กิน เที่ยวฮ่องกง กับ Wonderfulpackage ตอน4

เที่ยวฮ่องกง
เที่ยวฮ่องกงอิ่มอร่อยหลับสบาย

ถึงฮ่องกงสะที
พอมาถึงด่านตรวจคนเข้าเมือง ก็เห็นคนต่อคิวกันไม่น้อย แต่ที่นี่ทำงานกันเร็วครับ แถวเลยลดลงอย่างรวดเร็ว ผ่านมาได้แล้วครับ ไม่ถูกส่งกลับประเทศ เลยรีบออกมาข้างนอกครับเพื่อมารับกระเป๋าจะได้รีบเข้าที่พัก เพราะว่าเริ่มจะง่วงและเหนื่อยกับการเดินทางเต็มทน เดินออกจาก ตม. มานิดเดียวก็จะเป็นเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ของการท่องเที่ยวฮ่องกง มีเอกสารแจกเต็มเลยครับ แวะหยิบมาบ้างดีกว่า เผื่อจะเป็นประโยชน์กับเราบ้าง จากนั้นก็เดินไปรับกระเป๋าครับ แต่ก่อนอื่นมันต้องไปรับที่สายพานไหนเนี่ย? ไม่ยากครับดูป้ายอีกแล้ว มองดูอยู่สักพักพอเห็นว่าต้องไปที่ไหนก็รีบไปรับกระเป๋าแล้วก็ไปยังจุดนัดหมายเลยครับ ของผมให้ไปพบเจ้าหน้าที่ที่เคาน์เตอร์ B13 ครับ ถ้าเป็นเคาน์เตอร์ดังกล่าวให้พวกเราออกที่ประตู B ครับ พอออกมาก็จะเป็นเคาน์เตอร์ดังกล่าวอยู่ตรงหน้าเลย แต่ว่าถ้าใครได้เอกสารที่บอกว่าให้ไปพบที่เสาต้นที่เท่าไหร่ก็ว่าไป ให้เลี้ยวไปทางซ้ายครับ จะเป็นไปเสาพลาสติก ที่ติดหมายเลยเอาไว้ ซึ่งจะมาเจ้าหน้าที่มารอรับเราอยู่ครับ นั่งรอได้สักพักก็ถึงเวลาที่รถออกครับ ก็จะมีเจ้าหน้าที่มารับและพาเราไปส่งขึ้นรถ พอขึ้นรถได้ก็นั่งแบบหมดสภาพเลยครับ เหนื่อยครับ และบนรถก็แสนจะสบายครับที่นั่งนุ่ม ๆ แอร์เย็น ๆ แบะนั่งอันกว้างขวาง นั่งไปได้ไม่นานครับรถก็มาส่งเราที่หน้าโรงแรม ขอตัวลงก่อนนะครับ

ห้องพ้กสุดสวย
นี่ไงครับโรงแรมที่ผมต้องพักตลอดการเดินทางและท่องเที่ยวของผม....พอเข้าไปในโรงแรม โห....เนี่ยเหรอโรงแรมระดับ 3 ดาว..!!! ใช้ได้นะเนี่ย สวยเอาการ ทางเดินไฟสว่าง ไม่แคบไม่ใหญ่พอดี ๆ ไม่มีกลิ่นอับ ไม่มีกลิ่นบุหรี่ พอเค้าไปในห้อง ห้องก็สะอาดมากครับ ถึงแม้จะเล็กไปหน่อย แต่ก็เข้าใจอ่ะว่าที่ทัวร์ฮ่องกงมันพื้นที่จำกัด แอร์เย็นฉ่ำ ห้องไม่อับ ไม่มีกลิ่นบุหรี่ให้ปวดหัว เดินสำรวจไปยังห้องน้ำ ห้องน้ำเค้าก็สะอาดครับ จัดวางทุกอย่างเป็นระเบียบ หยิบจับง่ายต่อการใช้สอย อุปกรณ์ครบครัน เครื่องทำน้ำอุ่น ไดร์เป่าผม ฝักบัวอาบน้ำ โอ้ว.....แค่นี้ก็สุขสบายแล้วครับ ส่วนเตียงนอน ไม่ต้องพูดถึงครับ นุ่มนอนสบายไม่ปวดหลัง ผ้าปูเตียงสีขาวสะอาดตา ปูผ้ากันตึงมากชนิดที่โยนเหรียญบาทไปก็กระเด้งกระดอนกันเลยทีเดียว หมอนก็สะอาดไม่มีกลิ่น เสียอย่างเดียวครับ เตียงนอนมันสั้นไปหน่อย พอล้มตัวลงนอนเท้าเจ้ากรรมมันเลยออกมาทุกทีซิน่า...ดึกแล้วอาบน้ำอาบท่านอนพักผ่อนเอาแรงก่อนดีกว่า พรุ่งนี้เริ่มโปรแกรมการท่องเที่ยววันแรกจะได้มีแรง อ้อลืมบอกไป พอไปถึงโรงแรมเจ้าหน้าที่ของโรงแรมจะบอกว่ามีคนฝากข้อความไว้ถึงท่าน ข้อความนั้นจะบอกท่านว่าในวันพรุ่งนี้รถจะมารับทานตอนกี่โมง พร้อมกับเบอร์โทรติดต่อของไกท์ที่จะพาเราไปด้วยอ่ะครับ ดูแล้วอุ่นใจดีจังว่าเราไม่ถูกทอดทิ้ง งั้นขอตัวนอนก่อนนะครับ

กิน เที่ยวฮ่องกง กับ Wonderfulpackage ตอน3

กิน เที่ยวฮ่องกง กับ Wonderfulpackage ตอน3

เที่ยวฮ่องกง
ทัวร์ฮ่องกงสบายๆ

เอาหล่ะครับเข้าเรื่องดีกว่าพอนั่งได้สักพัก ประตูเครื่องก็ปิดลง ไอ้เราก็รัดเข็มขัดเรียบร้อย สักพักก็มีลูกเรือออกมาสาธิตการใช้อุปกรณ์และเครื่องช่วยชีวิตยามเกิดเหตุไม่คาดฝันอ่ะครับ สิ้นสุดการสาธิต เครื่องก็ทำการเคลื่อนออกจากที่จอด แล้วก็วิ่ง TAXI ไปตามรันเวย์ให้เราได้เห็นอาคารต่าง ๆ ของสนามบิน พอได้ที่เครื่องตั้งลำได้แล้วก็ทำการทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า บินไปได้สักพักพอเครื่องไต่ระดับถึง 37,000 ฟุต จากน้ำทะเล บันดาลูกเรือก็ทำการเสริฟอาหารครับ เป็นอาหารกล่องจากโออิชิ น่ากินมาก มี 2 เมนูให้เลือกครับระหว่างข้าวหมูเกาหลี และข้าวไก่เทอริยากิ สำหรับผมเหรอ “น้องพลับขอ 2” ใครจะมองใครจะว่าก็ไม่สนครับของฟรีกินบนความสูงแบบนี้ เอาซะหน่อยครับ นอกจากนั้นก็ยังมีถั่วอบกรอบครับ อร่อยมาก ดูจากรูปก็รู้ว่าผมกินไปกี่ถุง อิอิอิ พออิ่มก็ตามประสาอ่ะครับนอนครับ ขอตัวนอนก่อนครับ หนังท้องตึงหนังตาหย่อน....มารู้สึกอีกทีก็ตอนล้อเครื่องบินแตะพื้นรันเวย์อ่ะครับ ขณะที่เครื่องกำลัง TAXI เข้าที่จอดนั้น ผมเลยถือโอกาสจัดแจงเตรียมความพร้อมก่อนลงจากเครื่อง เช็ดหน้าเช็ดตาด้วยผ้าเย็นที่ลูกเรือคนสวยเค้าแจกให้ตอนขึ้นเครื่องใหม่ๆ และก็เตรียมเอกสารต่าง ๆ ให้พร้อม ไม่ว่าจะเป็นใบ ตม. พาสปอต เรียบร้อยแล้วพร้อมที่จะลุย ในใจก็กลัวนะ เพราะว่านี่เป็นการมาฮ่องกงครั้งแรก มาแบบลุย ๆ ตัวคนเดียว ประมาณเที่ยวไม่ง้อทัวร์อ่ะ นั่งพล่ามไปคนเดียวได้ไม่นานนักประตูเครื่องก็เปิดออกครับ 

โอ้ว....ฮ่องกง....ฉันมาเที่ยวฮ่องกงแล้ว....พอลงจากเครื่องสมองผมก็เริ่มจะทำงานหนักอีกครั้งแล้วครับ ในใจคิดว่าเราจะต้องไปทางไหนหว่า? จะหลงหรือทางเปล่า? แต่ก็ไม่เป็นไรครับ เดินตาม ๆ เค้าไปก็คงจะได้ แต่ที่ไหนได้ครับ พอลงจากเครื่อง เดินไปได้ไม่ทันไร ก็มีป้ายบอกทางครับว่าให้เลี้ยวไปทางไหน เดินไปยังไง ใครที่หลงนะก็แย่แล้วครับ ป้ายเยอะมากๆๆๆ.... ไม่หลงแน่นอน คอนเฟิร์ม....!!! เดินมาตามป้ายครับ เดี๋ยวเลี้ยวซ้าย เดี๋ยวเลี้ยวขวา เดี๋ยวขึ้นบันไดเลื่อน เดี๋ยวลงบันไดเลื่อน สุดท้ายป้ายก็นำเรามาถึงสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินที่คอยรับส่งผู้โดยสารภายในอาคารของสนามบิน แอร์เย็นฉ่ำสบายดีครับ ไม่เหนื่อยไม่ต้องเดินไกล ๆ คนก็ไม่เบียดกันมาก ในใจก็นึกไปถ้าบ้านเรามีอย่างนี้ก็ดีเหมือนกันนะ ขึ้นมาได้ไม่นานครับ รถไฟก็นำเรามาถึงตัวอาคารหลักของสนามบินครับ จัดแจงลงรถแล้วเดินไปตามลูกศรชี้ อึดใจเดียวท่านก็จะไปยืนอยู่ตรงหน้าด่านตรวจคนเข้าเมืองอ่ะครับ...

กิน เที่ยวฮ่องกงกับ Wonderfulpackage ตอน2

กิน เที่ยวฮ่องกงกับ Wonderfulpackage ตอน2

เที่ยวฮ่องกงฃ
โจ๊กฮ่องกง

วิ่งหูตูบมาถึงจนได้ แต่เอ...ทำไมคนเยอะจัง สงสัยคงจะยังไม่ขึ้นเครื่องกัน ก็เลยเดินครับ ที่ตรงนี้ก็จะเป็นด่านสุดท้ายก่อนขึ้นเครื่องอ่ะครับ คือจะมีเครื่อง X-Ray โลหะและอาวุธอ่ะครับ สำหรับท่านสุภาพบุรุษครับ ที่นี่รบกวนท่านปลดเข็มขัดใส่ลงในตระกล้าด้วยนะครับ ถ้าไม่มีหวังไม่ได้ขึ้นเครื่องแน่ และสำหรับของเหลวทุกชนิด จะถูกกำจัดที่ด่านนี้ครับ เครื่องดืม , ขวดน้ำ , หรือสิ่งของที่อยู่ในกระเป๋าเรา เพราะว่าเราสามารถนำของเหลวขึ้นเครื่องได้เฉพาะขวดที่มีขนาดไม่เกิน 100 มิลลิลิตร และ ไม่เกิน 10 ขวดเท่านั้น ถ้าเกินมาจาก 100 มิลลิลิตร หรือเกิน 10 ขาด จะถูกเจ้าหน้าที่กำจัดทันที นอกจากนี้ยังมีประเภทของมีคมครับ ไม่ว่าจะเป็นกรรไกร , มีด , ที่ตะใบเล็บ ก็ห้ามนะครับ เอาหล่ะเมื่อผ่านมาได้แล้วก็ลงไปชั้นล่างนั่นไงเห็นเครื่องบินมาจอดรอเราอยู่นานแล้วครับ พอเห็นเครื่องก็รู้สึกดีครับ ลำใหญ่เพราะเป็น Boing 747 400 กว่าที่นั้งงั้นไม่ได้การหล่ะ ผมเลยรีบวิ่งไปที่ประตู E2 อย่างที่ไม่เคยวิ่งมาก่อนครับ พอลงไปถึงปาดเหงื่อออกแล้วก็มองดูคนบริเวณนั้น โอ้วพระเจ้าเหลือแค่ไม่กี่คน ก็ใช่ซิใครจะไปช้าเหมือนเรา เค้าก็ขึ้นเครื่องไปกันจนจะหมดแล้วเหลืออยู่ไม่กี่คน แต่ยังโชคดีครับที่ผมไม่ใช่คนสุดท้าย ยังมีอีกหลายคนที่สายกว่าผมอีก อิอิอิ ไม่งั้นนะ ตอนขึ้นเครื่องไปแล้วเป็นคนสุดท้าย ผมคงจะต้องตาย เพราะว่าถูกประณามด้วยสายตาของคนที่นั่งรออยู่นับร้อยแน่ ๆ เนื่องจากเที่ยวฮ่องกงเที่ยวบินนี้ผู้โดยสารเต็มลำครับ

พอขึ้นเครื่องแล้วก็มองหาที่นั่งเลยครับ เป็นเพราะว่าโชคช่วยหรือไม่ก็คงทำบุญมาดี ผมได้ที่นั่งติดกับประตูฉุกเฉิน เพราะว่าที่นั่งตรงนี้จะเป็นที่นั่งที่กว้างมากครับ เหียดขากันได้สุดกู่เลยทีเดียว และก็ไม่ติดกับห้องน้ำครับ เพราะอะไรเหรอ คุณรู้มั้ยครับ มันจะเป็นการทรมานอย่างมากครับถ้าเราได้นั่งข้างห้องน้ำ คือนอกจากกลิ่นที่มันจะโชยตามออกมาหลังจากที่แต่ละคนทำธุระแล้ว ยังหาความสงบสุขไม่ได้ตลอดการเดินทางเลยครับ เพราะว่าจะมีผู้โดยสารท่านอื่น ๆ มาเข้าห้องน้ำตลอดเวลาจนเครื่องจะลงนั่นแหละถึงจะหยุด (ขอบ่นหน่อย)

กิน เที่ยวฮ่องกง กับ Wonderfulpacakge

กิน เที่ยวฮ่องกง กับ Wonderfulpacakge

เที่ยวฮ่องกง
ฮ่องกงสวยๆ

ตื่นเต้นมากครับการการเดินทางไปเที่ยวฮ่องกงครั้งแรกในชีวิต และที่สำคัญไปเองด้วย อย่างนี้เค้าเรียกว่า “เที่ยวไม่พึ่งทัวร์” โดยไปกับ แพ็กเก็จ ทัวร์ฮ่องกง จ่ายสบาย ๆ แต่ว่าเที่ยวคุ้ม ด้วยราคาเพียง 8,999.- ของสายการบินโอเรียนท์ไทย แอร์ไลน์ ในการไปเที่ยวครั้งนี้ผมได้ใช้ความรู้ที่มีเกี่ยวกับฮ่องกง บวกกับไปหาซื้อหนังสือมาอ่านเพิ่มเติม (ก็กลัวๆ อยู่เหมือนกันอ่ะ) เอาหล่ะมาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า"วันแรกของการเดินทาง" 12 มีนาคม 2552 เก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็มาถึงที่สนามบินก่อนเวลาจะดีกว่าเลยมาถึงประมาณ บ่าย 3 น่าจะได้ โดยไปที่อาคารผู้โดยสารชั้น 4 และมาเข้าที่ประตูที่ 5 พอเค้ามาถึงก็ให้มาดูที่ป้ายครับ ว่าสายการบินโอเรียนท์ไทย แอร์ไลน์ (OX) เค้าเช๊คอินกันที่ไหน เมื่อเห็นแล้วก็ไปที่เคาน์เตอร์เลยครับ ซึ่งของ OX เค้าเช็คอินกันที่โลว์ K ครับ โดยใช้เคาน์เตอร์ที่ K1 – K6 ผมก็เลยเข้าไปต่อแถวเลยครับ และได้เจอกับพนักงานสาวสวยของ OX เลยได้ถ่ายรูปมาให้ดูครับ

เมื่อเช็คอินเสร็จได้รับ Boarding Pass เป็นอันที่เรียบร้อยแล้ว ดูรายละเอียดก่อนครับว่าเราจะต้องไปขึ้นเครื่องที่ประตูไหน นั่งที่นั่งตรงไหน สำหรับเที่ยวบินวันนี้เราได้ประตู E2 ครับ เค้าให้เราไปถึงที่ประตูก่อนเครื่องออก 30 นาที ก็ประมาณ 16.40 น. อ่ะยังมีเวลาอีกตั้งครึ้งชั่วโมงทันน่า โอเค..จบข่าว เป็นอันรู้กัน จากนั้นก็ถึงเวลาที่จะเข้าไปช็อปปิ้งในดิวตี้ฟรีกันแล้วหล่ะครับ แต่ก่อนอื่นเราต้องผ่าน ตม. กันก่อนนะครับ สำหรับคนไทยให้เข้าคิวในช่องที่เค้าขึ้นป้ายสีเขียวๆครับ ว่า “Thai Passport” อย่าเข้าผิดช่องนะครับ ไม่งั้นเสียเวลาช๊อปปิ้งไม่รู้ด้วย เดี๋ยวหาว่าหล่อไม่เตือน หลังจากที่ผ่านจากจุดนี้ไปได้เราก็จะเข้าไปสู่ตัวอาคารของส่วนผู้โดยสารขาออกกันแล้วครับ พอเข้ามาปุ๊บ !! เราก็จะพบกับประติมากรรมที่มีชื่อว่า “พิธีกวนเกษียรสมุทร” ที่อยู่ด้านในอาคารตั้งเด่นตอนรับแขกบ้านแขกเมืองครับ ถัดไปหน่อย ถึงแล้วครับดินแดนแห่งนักช็อป สำหรับสินค้าปลอดภาษี “Duty Free” สำหรับที่นี่นักเดินทางทุกท่านสามารถซื้อสินค้าอันหลากหลายได้ตามใจชอบ และถามยังสามารถฝากของเอาไว้ได้ด้วย โดยเรามารับอีกครั้งหลังจากกลับมาถึงไทย ช๊อปกันเพลินครับ เอาโน่นเอานี่ อุ๋ย..ดูเวลาดูอีกที อีก30 นาที 17.10 น. เวลาเครื่องออก โอ้ว...คุณพระก็ไม่ช่วย รีบกันเลยครับ แล้วก็ถึงเวลาใส่เกียร์สุนัขกันเลยครับพี่น้อง วิ่งไม่อายใคร วิ่งไม่คิดชีวิตแล้วครับ ขอตัววิ่งก่อน

แพงเกินงบ เอานี่ดีกว่า..วุ่นวายมากครับเลยลืมรีบสุด ๆ จ่ายตังค์ฝากของกันได้เป็นที่เรียบร้อยนะครับพี่น้อง