ใครๆก็อยากไปเที่ยวญี่ปุ่น EP.5
เที่ยวญี่ปุ่น |
สวัสดีครับเพื่อน ๆทุกท่าน คราวที่แล้วยังอยู่กันภายในสนามบินนานาชาตินาริตะกันนะครับ (อ่านบทความย้อนหลังได้ที่นี่) คราวนี้มาดูกันต่อไปครับว่าการเดินทางมาเที่ยวญี่ปุ่นของผมจะเป็นยังไงจะพอเจออะไรกันบ้างติดตามได้เลยครับ....
หลังจากที่ลงเครื่องมา เดินไปอีกนิดหน่อยก็จะถึงด่านตรวจคนเข้าเมืองจากนั้นก็จัดการทำการกรอกเอกสารครับ ซึ่งจริง ๆแล้วควรจะกรอกเอกสารให้เรียบร้อยตั้งแต่ตอนอยู่บนเครื่องบินแล้วนะครับ เพื่อความสะดวกและรวดเร็วครับ จากนั้นก็ยื่นเอกสารให้เจ้าหน้าที่ครับ คิดในใจว่าเค้าจะถามอะไรเราหรือเปล่า แต่ไป ๆ มา ๆกลับไม่ถามอะไรเลยครับ โล่งเลยผม เค้าจะติดสติ๊กเกอร์ Temporary Visitor ซึ่งสามารถอาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่นได้นานถึง 90 วัน หลังจากที่รับกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว ให้เดินเข้าช่องสีเขียว ๆซึ่งมีป้ายชี้บอกทางไว้ชัดเจนว่าเป็นรถไฟ JR และ Keisei Line บอกทางว่าไปทางไหน แต่ให้ลงบันไดเลื่อนไปทางเดียวกันนั่นแหล่ะครับ
ก่อนอื่นต้องขออธิบายถึงขบวนรถไฟที่เชื่อมต่อจากสนามบินไปยังตัวเมืองก่อนครับ โดยรถไฟนั้นจะแบ่งได้หลัก ๆออกเป็น 5 สายได้แก่
1. JR Narita Express ใช้เวลาเดินทางถึงสถานี JR Tokyo 60 นาที
JR Narita Express |
2. JR Rapid service จะใช้เวลาในการเดินทางเพิ่มขึ้นอีกหน่อยครับ โดยจะไปถึงสถานี JR Tokyo 1 ชั่วโมง 20 นาที นอกจากนั้นยังสามารถเดินทางไปยัง Yokosuka ได้ด้วยครับ
JR Rapid service |
3. Keisei Skyliner ซึ่งวิ่งตรงจากสนามบินนาริตะ และจะจอดเพียง 5 สถานีเท่านั้น จะถึงที่ Keisei Ueno Station ใช้เวลาเดินทาง 60 นาที
Keisei Skyliner |
4. Keisei Limited Express วิ่งจากสนามบินนาริตะ แต่จะใช้เวลามากกว่า Keisei Skyliner เล็กน้อย โดยจะใช้เวลาเดินทางอยู่ที่ 75 นาที ก็จะถึงสถานี Keisei Ueno แต่ค่าโดยสารจะมีราคาถูกมาก ที่สุดในบรรดาสายรถไฟที่กล่าวมาทั้งหมด เพียง 1,000 เยนเท่านั้นครับ
Keisei Limited Express |
5. สายสุดท้ายนี้ไม่ใช่รถไฟนะครับแต่เป็นรถบัสที่รอรับบริการจากสนามบินนาริตะ จะใช้เวลาเดิน ทางเข้าเมืองโตเกียวราว ๆ 1-2 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจรบนท้องถนนด้วยครับ
Keisei Bus |
กลับมาเข้าเรื่องกันต่อ หลังจากที่ได้รู้แล้วว่ามีรถอะไรรองรับบริการอยู่บ้าง ขั้นตอนต่อไปก็เป็นการซื้อตั๋วครับ ซึ่งจะมีหลากหลายกันไป ทั้ง ตั๋วเที่ยวเดียว ไป-กลับ แบบเหมาวัน หรือเหมา 7 วัน ก็มีให้เลือกครับ โดยวิธีการซื้อตั๋วนั้นง่ายมากครับ ไม่ต้องกลัวว่าที่เครื่องขายจะไม่มีภาษาอังกฤษบอกนะครับ
ขั้นตอนในการซื้อตั๋วมีดังนี้
1.เลือกเส้นทางที่เราจะไป เค้าจะบอกว่าแต่ละเส้นทางใช้ราคาเท่าไหร่ ออกกี่โมง ถึงกี่โมง เป็นรถ ชนิดไหนที่ต้องการไป
2.เลือกตั๋วครับ ว่าต้องการกี่ใบ
3.เป็นตั๋วแบบเด็ก หรือแบบผู้ใหญ่
4.เลือกชนิดของรถที่ต้องการจะไปครับ
5.เลือกราคาที่แจ้งไว้ตามป้ายสถานี้ที่เราจะไปครับ
6.หยอดเงินตามจำนวนที่ป้ายระบุไว้ได้เลยครับ ไม่ต้องกลัวนะครับสำหรับใครที่มีธนบัตรใบใหญ่ 10,000 เยน เครื่องนั้นสามารถทอนเงินได้หมดครับ
เมื่อซื้อเสร็จเรียบร้อยก็จะได้กระดาษแข็งใบเล็ก ๆ ออกมาครับให้ใช้บัตรนี้สอดเข้าที่เครื่องรับเพื่อผ่านกำแพงกั้นเข้าไปยืนรอรถไฟข้างในครับ ควรเก็บตั๋วใบนี้ไว้กับตัวด้วยนะครับ เพราะมันเล็กมากอาจจะทำหล่นหายได้
ตั๋วรถไฟ |
ที่ชานชลาตอนรอรถไฟอยู่นั้น ก็จะมีนาฬิกาบอกเวลา รวมถึงอุณหภูมิ ณ ตอนนั้นด้วยครับ ขอเตือนอย่างนึง ถ้าคุณอยากเที่ยวญี่ปุ่นแบบชิว ๆไม่เร่งรีบก็ สามารถนั่งแบบ Local ได้ครับ เพราะสายนี้จะจอดแทบทุกสถานีเลยครับ นั่งกันเหนื่อยเลยทีเดียว แต่รถแบบ Local นั้นจะมีบริการแค่ในช่วงเข้าเพียงไม่กี่ขบวนเท่านั้นครับ ไม่ต้องห่วงเรื่องการเวลาในการเดินทางเลยครับ เพราะแต่ละสถานีจะมีป้ายบอกเวลาเดินรถไว้อย่างชัดเจน รถที่นี่จะตรงเวลาเป๊ะ
แต่คนญี่ปุ่นส่วนมากที่ลงเครื่องจะไม่แบกกระเป๋าใบใหญ่ ๆเข้ามาในรถไฟกันหรอกนะครับ เพราะที่สนามบินเค้ามีบริการจัดส่งสัมภาระให้ถึงบ้านหรือที่พักกันเลยทีเดียว แต่จะส่งไปถึงในวันรุ่งขึ้นนะ แต่ไม่ควรแบกกระเป๋าใหญ่ ๆอย่างยิ่งในช่วงเช้า เพราะเป็นเวลาเร่งด่วนในการไปทำงานครับ คนจะเบียดเสียดกันมากในรถ
ครั้งหน้าจะเริ่มท่องเที่ยวญี่ปุ่นกันแล้วครับ คอยติดตามกันให้ดีนะครับ.....
ขอขอบคุณการมาทัวร์ญี่ปุ่น
WonderfulPackage
จองตั๋วเครื่องบินออนไลน์ เช็คตั๋วเครื่องบิน
ภาพจาก Google
0 ความคิดเห็น: