โตเกียว แผนที่ญี่ปุ่น ฮอกไกโด เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง pantip เกียวโต ฟุกุโอกะ สถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่น ชิราคาวาโกะ ชินจูกุ เที่ยวฮอกไกโด ภูเขาไฟฟูจิ ปราสาทโอซาก้า เที่ยวโตเกียว pantip ที่เที่ยวโตเกียว นาโกย่า ทัวร์ญี่ปุ่น pantip ไปเที่ยวญี่ปุ่น วัฒนธรรมญี่ปุ่น เที่ยวเกียวโต เที่ยวโตเกียวด้วยตัวเอง โตเกียวดิสนีย์แลนด์ ทัวร์ญี่ปุ่น ฮอกไกโด ทาคายาม่า

Website Traffic

4 อันดับภูเขาไฟที่สวยงามและก็น่ากลัวในเวลาเดียวกัน

4 อันดับภูเขาไฟที่สวยงามและก็น่ากลัวในเวลาเดียวกัน


เพื่อนๆคงเคยเห็นตามฉากภาพยนต์หรือรูปภาพสวยๆงามๆกันใช่ไหมคะ แต่ถ้าลองคิดว่าเป็นตัวเราเองที่ไปอยู่แถวๆภูเขาไฟแล้วหล่ะก็จะสวยงามและน่ากลัวแค่ไหนนะ วันนี้ทาง WonderfulTravel จะขอพาเพื่อนๆไปรู้จักกับ 4 สถานที่ภูเขาไฟที่สวยงามและก็น่ากลัวไปในเวลาเดียวกันค่ะ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปด้วยกันเลย!


ต้องขอบอกเล่าเรื่องราวของภูเขาไฟกันสักนิดนึงค่ะว่ามันมีที่มาอย่างไร เกิดขึ้นได้เพราะอะไร เดิมทีภูเขาไฟมันก็คือหินหนืดที่มีการประทุขึ้นมาบนพื้นผิวของดาวเคราะห์ โดยส่วนใหญ่แล้วภูเขาไฟมักจะเกิดขึ้นอยู่ในบริเวณใกล้ๆกับรอยต่อของแผ่นเปลือกโลก แต่ถึงอย่างไรก็ตามก็ยังมีภูเขาไฟอยู่อีกประเภทหนึ่งที่เป็นข้อยกเว้นเรียกกันว่า "จุดร้อนภูเขาไฟ" (Volcanic Hotspot) (นอกจากการศึกษาและค้นหว้าของนักวิทยาศาสตร์แล้ว ยังมีการเปิดสอนในหลักสูตรเรียกว่า "วิทยาภูเขาไฟ หรือ Volcanology" อีกด้วย) เอาหล่ะค่ะเรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าไปดูกันเลยค่ะ...

1.ภูเขาไฟมายอน (Mayon Volcano)

มุมสูงสวยงามมากๆค่ะ

ภูเขาไฟมายอน (Mayon Volcano) เป็นภูเขาไฟที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศฟิลิปปินส์ มอยอนซึ่งตั้งอยู่ในเขตอุทยานบนเกาะลูซอน ภูเขาไฟลูกนี้เป็นภูเขาไฟที่ยังไม่ดับ แต่ก่อนเคยเกิดการระเบิดของภูเขามาแล้วถึง 40 ครั้ง ในรอบ 400 ปีที่ผ่านมา ภูเขาไฟมายอนที่รูปทรงสามเหลี่ยมที่มีความสมมาตรเท่ากๆกันดูสวยงามเป็นอย่างมากค่ะ ภูเขาไฟมายอนมีความสูงประมาณ 2,462 เมตร และเคยระเบิดไปครั้งล่าสุดเมื่อปีค.ศ. 1984

วิวสวยกว้างๆของฟิลิปปินส์


2.ภูเขาไฟโบรโม (Bromo Volcano)

Gunung Bromo

ภูเขาไฟโบรโม (Bromo Volcano) เป็นภูเขาไฟที่ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติโบรโมเทงเกอร์เซเมรู ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งบนเทือกเขาเทงเกอร์มาสซีฟ บนเกาะชวา ประเทศอินโดนีเซียนั่นเองค่ะ ที่ภูเขาไฟนี้มีความสูงอยู่ที่ 2,329 เมตร เป็นอีกยอดเขานึงที่มีนักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมากันอย่างมาก (เพราะสามารถเดินทางขึ้นเขาได้ไม่ยากมากนัก)

ชื่อโบรโมนั้นมาจากภาษาชวามีความหมายว่า "พรหม" คือชื่อขององค์เทพเจ้าในศาสนาฮินดู โดยในเดือนธันวาคมของทุกปีจะมีเทศกาล Yadnya Kasada โดยที่ชาวพื้นเมืองจะเดินเท้าขึ้นไปยังปากปล่องภูเขาไฟ และทำพิธีเซ่นไหว้เทพเจ้า โดยเป็นการโยนอาหาร ดอกไม้ และสัตว์ที่บูชายัญลงไปในภูเขาไฟค่ะ

เทศกาล Yadnya Kasada

ภูเขาไฟโบรโมเป็นภูเขาไฟที่ยังไม่ดับ โดยเกิดการประทุครั้งล่าสุดเมื่อปีพ.ศ. 2547 และช่วงปลายปีพ.ศ. 2553เป็นต้นมา

3.ภูเขาไฟเมานาโลอา (Mauna Loa)

เมื่อภูเขากำลังประทุ

ภูเขาไฟเมานาโลอา เป็นภูเขาไฟที่มีขนาดใหญที่สุดในโลก อยู่ในฮาวาย สหรัฐอเมริกา โดยภูเขาไฟลูกนี้เฉลี่ยแล้วจะมีการระเบิดในทุกๆ 3 ปีครึ่ง (ระเบิดครั้งล่าสุดเมื่อปีพ.ศ. 2527) เมานาโลอาซึ่งเป็นภาษาฮาวายมีความหมายว่า "Long Mountain" อันที่จริงแล้วเมานาโลอาไม่ใช่เป็นภูเขาไฟลูกเดียวกที่มีขนาดใหญ่แต่เดิกจากการรวมตัวกันกับภูเขาไฟอีก 4 ลูกคือ Kohala, Hualalai, Mauna Kea, และKilauea รวมเป็นเกาะฮาวาย ภูเขาไฟเมานาโลอามีเนื้อที่ประมาณ 5,180 ตารางกิโลเมตร

ภูเขาเมานาโลอามีความสูงจากน้ำทะเลถึง 4,170 เมตร เป็นอันดับ 2 ของฮาวายรองจากยอดเขาเมานาเคอา (สูงกว่าประมาณ 37 เมตร) แต่ถ้าวัดจากฐานที่อยู่ใต้ทะเลอีก 5 กิโลเมตร ก็จะเป็นภูเขาไฟที่สูงที่สุดของโลก (สูงกว่า 9 กิโลเมตร ซึ่งสูงกว่ายอดเขาเอเวอเรสต์)

4.ภูเขาไฟฟูจิ (Fuji-san)

ภูเขาไฟของญี่ปุ่นอันสวยงาม

และแน่นอนค่ะว่า ถ้าไม่พูดถึงภูเขาไฟฟูจิแหล่งท่องเที่ยวที่นิยมมากเป็นอันดับต้นๆของโลกก็คงเห็นทีจะไม่ได้ค่ะ ภูเขาไฟฟูจิเป้นภูเขาไฟที่มีความสูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ประมาณ 3,776 เมตรอยู่ระหว่างจังหวัดชิซุโอะกะและยามานาชิ อยู่ทางด้านตะวันตกของจังหวัดโตเกียว โดยในวันที่ฟ้าโปร่ง ท้องฟ้าแจ่มใสจะสามารถมองเห็นได้จากกรุงโตเกียวอย่างชัดเจน

ครั้งสุดท้ายที่ภูเขาไฟฟูจิมีการระเบิดก็เมื่อปีพ.ศ. 2250 (ในสมัยเอโดะ) ภูเขาไฟฟูจิมีชื่อเรียกในภาษญี่ปุ่นว่า "ฟูจิซัน" โดยหนังสือในสมัยก่อนเรียกกันว่า "ฟุจิยามะ" ภูเขาไฟฟูจิยังเป็นภูเขาไฟที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมอีกด้วยค่ะ

ไว้ในคราวต่อไปจะมาแชร์เรื่องท่องเที่ยวสนุกๆที่ไหนอีกนั้นคอยติดตามชมกันด้วยนะคะ...บ๊ายบายค่ะ

0 ความคิดเห็น: