หากพูดถึงเครื่องสำอางค์หรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวแล้ว นอกจากของโซนยุโรปก็จะเป็นเกาหลี และญี่ปุ่นที่เรานิยมใช้กัน ซึ่งในวันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ "ไฮยาลูรอน" ที่เป็นของฝั่งญี่ปุ่นกันค่ะว่าเป็นอย่างไร และมีความแตกต่างกับทางฝั่งยุโรปอย่างไรบ้างตามไปดูกัน
ก่อนอื่นเลย เค้ามีการสำรวจจากผู้ใช้จริงมาแล้ว โดยไฮยาลูรอนของญี่ปุ่นได้รับรางวัล อันดับ 1 จาก Cosme Award Japan ปี 2007 และ 2012 จากผู้ใช้ในประเทศญี่ปุ่น
ไฮยาลูรอน คืออะไร?
เชื่อว่าสาวๆ หลายคนคงจะรู้จักกับคำนี้กันอยู่แล้ว แต่อาจจะยังมีคนที่ไม่รู้จักอยู่บ้างเรามาทำความรู้จักกับเจ้าสิ่งนี้กัน
ไฮยาลูรอน หรือ Hyaluronic Acid (HA) เป็นกรดที่ร่างกายเราผลิตขึ้นมาเองในทุกๆวันซึ่งช่วยลดการเสียดสีของอวัยวะและเซลล์ เพิ่มความยืดหยุ่น ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ เต่งตึง แต่เมื่อเข้าสู่ช่วงวัย 30 ขึ้นไปเซลล์ไฮยาลูรอนก็จะเริ่มเสื่อมสภาพลง นั่นจึงเป็นสาเหตุให้เกิดริ้วรอยตามวัยนั่นเอง ดังนั้นเพื่อช่วยให้ชะลอริ้วรอยบนใบหน้าจึงได้เริ่มมีการสกัดสารจากไฮยาลูรอนขึ้นเพื่อนำมาใช้ร่วมกับเครื่องสำอางค์
ประโยชน์ของไฮยาลูรอน
ไฮยาลูรอนมีประโยชน์คือช่วยในการกักเก็บความชุ่มชื้นให้แก่ผิว และไม่เพิ่มความมันด้วยทำให้ผิวของเรามีน้ำดูชุ่มชื้นไม่แห้ง ที่สำคัญยังช่วยในการชะลอริ้วรอยที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติได้อย่างดี นอกจากผิวหน้าแล้ว ไฮยาลูรอนยังมีส่วนช่วยในการรักษาน้ำหล่อเลี้ยงตามข้อต่อทั่วร่างกายและทำให้บาดแผลหายไวขึ้นด้วย
สรุปสาเหตุหลักที่ทำให้สานไฮยาลูรอนลดลง
- อายุมากขึ้น (30-40 ปีขึ้นไป)
- หลับไม่สนิท/พักผ่อนน้อย
- ดื่มแอลกอฮอล์มาก
- สูบบุหรี่
- แสงแดดและความร้อนที่เจอได้ในชีวิตประจำวัน
- เลเซอร์ทำศัลยกรรม
หัวเชื้อไฮยาลูรอนนำมาผสมอะไรได้บ้าง?
โดยทั่วไปแล้วไฮยาลูรอนสามารถเพิ่มเติมได้ทั้งการทา ฉีด และหลากหลายผลิตภัณฑ์ในปัจจุบันก็มีการผสมสารไฮยาลูรอนเข้าไปด้วยเช่น เครื่องสำอางค์ โลชั่นบำรุงผิว ครีมกันแดด แผ่นมาส์กหน้า ยาสระผม ครีมอาบน้ำ หรือแม้แต่ลิปสติก
การเพิ่มสารไฮยาลูรอนิคควรเพิ่มแต่พอดีเพราะกาหมากเกินไปก็อาจเป็นอัตรายกับตัวเราได้ ขอให้ระมัดระวังด้วยค่ะ
0 ความคิดเห็น: