ทำไมถึงต้อง Japan Rail Pass

สาเหตุที่ต้องมีตั๋ว Japan Rail Pass นั้นก็เป็นเพราะค่าโดยสารรถไฟในประเทศญี่ปุ่นนั้นมีราคาสูง ในการเดินทางระยะไกลๆบางครั้งก็เทียบเท่าราคาตั๋วเครื่องบินได้เลยครับ เพื่อเป็นการช่วยลดรายจ่ายในการเดินทางโดยเฉพาะกับนักท่องเที่ยวแล้ว ทางการรถไฟของญี่ปุ่นจึงได้ออกบัตรนี้มาขายให้สำหรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ

ทัวร์นาริตะ เมืองที่เป็นมากกว่าสนามบิน

ถ้าพูดถึงนาริตะแล้วหลายๆคนคงนึกถึงท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะกันอยู่ใช่ไหม แต่ว่าเราจะขอเจาะลึกเกี่ยวกับเมืองนาริตะกันค่ะเราไปทัวร์นาริตะด้วยกันเลย

นาริตะ (Narita) เป็นเมืองอยู่ในจังหวัดชิบะประเทศญี่ปุ่นเป็นที่ตั้งของสนามบินนานาชาติที่เปิดบริการในโตเกียวและเมืองโดยรอบ จากการสำรวจในปีพ.ศ.2546 นาริตะมีประชากรอยู่ 98,296 คนโดยประมาณมีความหนาแน่นของประชากรที่ 748คนต่อตารางกิโลเมตรโดยประมาณ เมืองนาริตะมีพื้นที่อยู่ราวๆ 131.2 ตารางกิโลเมตร

ทัวร์นางาซากิ รู้ข้อมูลก่อนไปเที่ยว

เรามาทำความรู้จักกับเมืองที่ใหญ่ที่สุดบนเกาะคิวชูกันค่ะ เมืองนางาซากิ (Nagasaki-shi) เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดนางาซากิ บนเกาะคิวชูประเทศญี่ปุ่น ในช่วงปลายศตวรรษที่16 ชาวโปรตุเกสได้เป็นผู้ก่อตั้งเมืองนางาซากิขึ้นมา ซึ่งในตอนนั้นนางาซากิยังเป็นแค่เพียงหมู่บ้านประมงเล็กๆเท่านั้นเอง

ในเวลาต่อมาเมืองนางาซากิจึงได้กลายมาเป็นศูนย์กลางทางอิทธิพลของชาวโปรตุเกสและยุโรปในสมัยนั้นตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่16 - 19 ที่เมืองนางาซากิมีโบสถ์ซึ่งเป็นของศาสนาคริสต์มีอยู่มากมายในเมือง และได้ถูกรับรองให้เป็นมรดกโลกเรียบร้อย

จังหวัดนางาซากิยังมีท่าเรือที่แต่ก่อนนั้นใช้เป็นสถานที่ตั้งของกองทัพเรือญี่ปุ่น ช่วงที่เกิดสงครามระหว่างจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่ 1 และสงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่น ในช่วงสงครามโลกครั้งที่2 ในปีค.ศ.1945 นางาซากิเป็นเมืองที่ถูกระเบิดซึ่งเป็นเมืองสุดท้ายของโลกที่โดนโจมตีด้วยระเบิดนิวเคลียร์

คำว่า "นางาซากิ" มีความหมายว่า "แหลมที่ทอดยาว"

Cr.ข้อมูล ทัวร์นางาซากิ และ ทัวร์ญี่ปุ่น จาก

ทัวร์ฟุกุโอกะ เมืองที่น่าอยู่ของโลก

คงจะไม่เกินจริงจนเกินไปครับ หากจะกล่าวว่าเมืองที่น่าอยู่เป็นอันดับต้นๆของโลกนั้นมีอยู่มากมาย และหนึ่งในนั้นคือเมืองฟุกุโอกะครับ ผมจะพาเพื่อนๆไปทัวร์ฟุกุโอกะกันครับตามมาด้วยกันเลย

เมืองฟุกุโอกะเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ริมชายฝั่งทางด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือ อยู่บนเกาะคิวชู ประเทศญี่ปุ่น ที่บอกไปในตอนแรกแล้วว่าเมืองฟุกุโอกะเป็นหนึ่งในเมืองที่น่าอยู่ที่สุดของโลก ในปี2013 เมืองฟุกุโอกะได้รับการจัดอันดับให้เป็นเมืองน่าอยู่ในอันดับที่ 12 ของโลกโดยนิตยสาร Monocle เกิดขึ้นจากการที่ฟุกุโอกะนั้นมีพื้นที่สีเขียวจำนวนมาก นอกจากนี้ที่ฟุกุโอกะเองก็ยังมีนักท่องเที่ยวมากันเป็นจำนวนมากนับว่ามากที่สุดในเกาะคิวชูเลยครับ

จากการเป็นเมืองขนาดใหญ่แห่งนึงในญี่ปุ่น ทำให้มีการตั้งให้ฟุกุโอกะเป็นนครฟุกุโอกะขึ้นเมื่อวันที่ 1เมษายน 1972 ด้วยจำนวนประชากรในเมืองและเขตปริมณฑลรวมกว่า 2.5 ล้านคน(ในปี2005) ฟุกุโอกะเป็นพื้นที่อุตสาหกรรมหนัก และเป็นรายได้หลักของเมือง

ในช่วงปี 2011 ที่ผ่านมาเมืองฟุกุโอกะถูกจัดให้อยู่ในอันดับที่ 6 เป็นเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่น และยังเป็นครั้งแรกของภูมิภาคคันไซที่มีประชากรมากกว่าเมืองเกียวโต อีกอย่างที่ทำให้ฟุกุโอกะมีความพิเศษคือ มีปรากฏหลักฐานทางดบราณคดีที่ว่าได้มีการเริ่มสร้างชาติญี่ปุ่นขึ้นที่นี่

Cr. ข้อมูล ทัวร์ฟุกุโอกะ

ทัวร์โตเกียว เมืองที่น่าไปเที่ยวสักครั้งหนึ่งในชีวิต

อยากจะไปเที่ยวต่างประเทศที่ไหนสักที่หนึ่งแน่นอนหนึ่งในนั้นคงหนีไม่พ้นประเทศญี่ปุ่นอย่างแน่นอน ถ้าไปทัวร์ญี่ปุ่น แล้วเราคิดไม่ออกว่าจะเริ่มเที่ยวจากเมืองไหนก่อน ขอแนะนำเลยครับว่าให้เริ่มจากเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่นกันก่อนเลยครับ

เดินทางไปทัวร์โตเกียว และรู้จักกับความเป็นมากันสักหน่อยครับ โตเกียว หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า "มหานครโตเกียว" (Tokyo Metropolis) เป็นเมืองหลวงปัจจุบันของประเทศญี่ปุ่น มีการปกครองแบบพิเศษ โดยการปกครองแบบรวมจังหวัดกับเมืองไว้ด้วยกัน และถือได้ว่าเป็นเขตเมืองที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก จากสถิติที่เคยนับได้คือ 35,237,000 คน โดยรวมเขตปริมณฑลด้วยแล้ว

ถ้านับเฉพาะเมืองโตเกียวมีทั้งหมด 23 แขวงการปกครอง มีประชากรประมาณ 12 ล้านคนซึ่งนับเป็นอีกเมืองนึงที่มีจำนวนประชากรมากที่สุดในโลก เมืองโตเกียวนั้นตั้งอยู่ที่คันโต โดยมีความหมายว่า "นครหลวงตะวันออก" ที่เมืองโตเกียวยังมีสิ่งสำคัญทางโบราณอยู่มากมายอย่างเช่น พระราชวังหลวงของสมเด็จพระจักรพรรดิ เป็นต้นฯ นอกจากนี้โตเกียวยังเคยได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ปี1964 ครั้งแรก และอีกครั้งในปี 2020


ขอขอบคุณข้อมูล ทัวร์โตเกียว ไม่น่าเบื่อจาก

ข้อมูลท่องเที่ยวต่างประเทศด้วยตนเอง คลิก

ทัวร์เกาหลี 3อาหารทานเล่นขึ้นชื่อที่ต้องไปกินให้ได้

ขึ้นชื่อว่าไปทัวร์เกาหลีแล้วหล่ะก็คงต้องนึกถึงสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศเกาหลีกันใช่ไหม แต่คราวนี้ผมจะพาเพื่อนๆไปรู้จักกันกับเมนูอาหารสุดขึ้นชื่อของประเทศเกาหลีใต้กันครับ (นี่ก็เป็นช่วงเวลาบ่ายแก่ๆพอดี หุหุ) อาหารเกาหลี (อันซึก) ก็จะมีทั้งต้ม ย่าง ปิ้ง นึ่ง ทอด และเมนูผักอีกหลากหลาย แต่จะมีเมนูอะไรบ้างนั้นเราไปดูกัน

1.ต๊อกบกกี
เรามาเริ่มกันที่อาหารว่างกันก่อนครับกับเมนูที่ชื่อว่าต๊อกบกกี มันก็คือแป้งต๊อกนั่นเองครับวิธีทำง่ายๆก็โดยการนำแป้งต๊อกนั้นมาผัดกับซอสโคชูจัง ผัดจนซอสนั้นซึมเข้าไปในเนื้อแป้งครับ รสชาติของอาหารจานนี้จะมีรสหวานจากเนื้อแป้งและมีความเผ็ดนิดๆจากซอสโคชูจัง เนื้อแป้งจะเหนียวหนึบเล็กน้อย เหมาะเป็นอาหารทานเล่นด้วยครับ แต่ถ้าใครที่ชอบกินเผ็ดแล้วแนะนำให้หาซื้อซอสโคชูจังชนิดเผ็ดมากมาทำดูนะครับ รับรองเผ็ดถึงใจเลย

2.โอเด้ง
เมนูต่อมาก็ยังอยู่กันที่ของทานเล่นซึ่งมีขายตามร้านข้างทางทั่วไปในเกาหลีครับนั่นก็คือโอเด้งนั่นเอง โดยที่โอเด้งของเกาหลีนั้นทำมาจากแป้งครับ โดยการนำเอาแป้งมาเสียบกับไม้ และนำไปนึ่งครับ (เขาว่ากันว่ามีรสชาติคล้ายกับลูกชิ้นปลา) โอเด้งนับว่าเป็นเมนูนึงที่ขึ้นชื่อในเมืองปูซาน เวลารับประทานนั้นก็จะทานกับน้ำซุปร้อนๆ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเมนูที่คลายความหนาวเย็นได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว

3.คิมบับ
มาถึงเมนูสุดท้ายที่ขึ้นชื่อในเกาหลีกันแล้วครับนั่นก็คือ คิมบับนี่เอง คิมบับจริงๆแล้วมันก็คือข้าวห่อสาหร่ายนี่ล่ะ เป็นข้าวปั้นคล้ายๆกับญี่ปุ่นเลย โดยใส้ข้างในก็แล้วแต่ว่าจะใส่อะไรลงไป อย่างเช่นกุ้งทอด ผัก หรือปลาดิบ คิมบับมักจะเป็นที่นิยมในหมู่เด็กๆ เพราะเป็นอาหารทานง่ายซึ่งเหมาะกับช่วงเวลาเร่งด่วนในตอนเช้าครับ

จริงๆที่หยิบมาเล่าเป็นเพียงแค่ส่วนน้อยของเมนูอาหารทานเล่นที่ขึ้นชื่อนะครับยังมีอีกหลากหลายเมนูเลย หากเพื่อนๆอยากลองทานอาหารเหล่านนี้ เพื่อนๆก็ไม่จำเป็นที่จะต้องลงทุนบินไปทัวร์เกาหลีกันก็ได้ครับ แต่ถ้าอยากได้บรรยากาศและรสชาติต้นตำหรับแล้ว ไปซักครั้งหนึ่งในชีวิตเห็นจะดีไม่ใช่น้อย

คราวหน้าจะพาไปดูเรื่องอะไรอีกนั้นลองติดตามกันดูนะครับ สำหรับวันนี้ต้องขอตัวไปหาอะไรลองท้องกันซะแล้ววว > <

ทัวร์เนเธอร์แลนด์ดินแดนแห่งดอกทิวลิป

เนเธอร์แลนด์ (Netherlands) หรือที่เราคุ้นเคยกันว่าฮอลเลนด์ (Holland) เป็นราชอาณาจักรที่ประกอบด้วย 12 จังหวัดที่อยู่ในยุโรปตะวันออก ประเทศเนอเธอร์แลนด์นี้มีส่วนที่อยู่ในทวีปยุโรปมีอาณาเขตอยู่ทางทิศเหนือและตะวันตก ทางทิศใต้ติดกับเบลเยียม ตะวันออกติดกับเยอรมนี และทางทะเลติดร่วมกับเบลเยียม

สิ่งที่เปลี่ยนแปลงระบบประเทศนั่นก็คือ ที่เนอเธอร์นั้นเป็นชาติแรกๆของโลกที่มีรัฐสภามาจากการเลือกตั้ง แล้วมีการปกครองในระบบประชาธิปไตยระบบรัฐสภา เมืองหลวงของเนเธอร์แลนด์คือ "กรุงอัมสเตอร์ดัม" แต่ที่ว่าการรัฐนั้นกลับไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่ไปตั้งอยู่ที่ "กรุงเฮก" ในการที่จะเรียกประเทศเนเธอร์แลนด์ว่าฮอลแลนด์นั้น ตามความหมายจริงๆแล้วคือ จะใช้เรียกจังหวัดนอร์ทฮอลแลนด์และเซาท์ฮอลแลนด์เท่านั้น (ฮอลแลนด์นั้นไม่ใช่คำเรียกประเทศอย่างเป็นทางการ) แต่ถึงจะอย่างนั้น คำว่าฮอลแลนด์ก็ได้ถูกเรียกและยอมรับในวงการฟุตบอลทีมชาติเหมือนกัน

ทัวร์เนเธอร์แลนด์จะพาไปรู้จักประเทศนี้อย่างลึกซึ้งกันค่ะ ลักษณะของภูมิประเทศจะมีพื้นที่ต่ำ โดยแบ่งเป็น 20% ของพื้นที่อยู่ 21% เป็นของผู้อยู่อาศัยที่อยู่ในระดับต่ำกว่าน้ำทะเล และอีกกว่า 50% จะอยู่ในพื้นที่ที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลซึ่งไม่เกิน 1 เมตร ชื่อของประเทศเนเธอร์แลนด์มีความหมายว่า "แผ่นดินต่ำ" ซึ่งตั้งตามลักษณะของบริเวณพื้นที่นั่นเอง

พื้นที่ที่อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลโดยส่วนใหญ่แล้วเกิดจากการสกัดพีต (Peat) เป็นจำนวนมากแต่ไม่มีการจัดการควบคุมที่ดีมานับทศวรรษ เพราะเหตุนี้เองจึงทำให้พื้นดินเกิดการกัดกร่อน จนกระทั่งในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 16 จึงเริ่มการฟื้นฟูสภาพดินจนมาถึงในปัจจุบันได้มีการสงวนพื้นที่ขนาดใหญ่เอาไว้ ด้วยระบบการระบายน้ำ โดยมีทั้งคลองและสถานีสูบน้ำวางอยู่

พื้นที่กว่า 17% ของประเทศเนเธอร์แลนด์เป็นพื้นที่ที่เกิดจากการถมทะเล พื้นที่ในบริเวณกว้างมีแม่น้ำสำคัญในทวีปยุโรป และลำน้ำที่แตกออกเป็นรูปสามเหลี่ยมได้แก่แม่น้ำไรน์ เมิซ และสเชลด์ เดลต้า (Rhine, Meuse, Scheldt-delta) พื้นที่ส่วนใหญ่ของเนเธอร์แลนด์เป็นพื้นราบ เว้นเสียแต่เนินเขาในตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงยอดเขาเตี้ยๆในตอนกลาง

ประเทศเนเธอร์แลนด์นั้นเป็นหนึ่งในสมาชิกก่อตั้งของสหภาพยุโรปหรือ G-10 องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) องค์การการค้าโลก และยังเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพไตรภาคีเบเนลักษณ์อีกด้วย เนเธอร์แลนด์เป็นศูนย์กลางขององค์การห้ามอาวุธเคมี และศาลระหว่างประเทศประกอบไปด้วย

1. ศาลอนุญาโตตุลาการถาวร
2. ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ
3. ศาลอาญาระหว่างประเทศ
4. คณะตุลาการอาญาระหว่างประเทศสำหรับอดีตของยูโกสลาเวีย
5. คณะตุลาการพิเศษสำหรับเลบานอน

โดยสี่ศาบแรกนั้นตั้งอยู่ในกรุงเฮก เช่นเดียวกับยูโรโปล นี่เองจึงทำให้กรุงเฮกได้รับฉายาว่า "เมืองหลวงกฏหมายโลก"

เนเธอร์แลนด์มีการจัดการระบบเศรษฐกิจแบบผสม โดยถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 17 จากทั้งหมด 177 ประเทศทั่วโลกในด้านเสรีภาพทางเศรษฐกิจ ในปีพ.ศ. 2554 เนเธอแลนด์จัดเป็นประเทศที่มีรายได้ต่อหัวสูงเป็นอันดับที่ 10 ของโลก และในปีเดียวกันทาง OECD ได้จัดให้ประเทศเนเธอร์แลนด์เป็นประเทศที่มีความสุขมากที่สุดในโลก ซึ่งมาจากมาตรฐานในการครองชีพที่สูงขึ้นตาม


ประเทศเนอเธอร์แลนด์นั้นเป็นประเทศหนึ่งที่มี ทัวร์มาลงเยอะและนักท่องเที่ยวมากมายต่างกันมายังที่ประเทศนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆทุกปี จริงๆยังมีรายละเอียดที่เยอะกว่านี้อีกค่ะ ไว้วันหน้าจะมาเล่าให้ฟังกันต่อค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูล ทัวร์เนเธอร์แลนด์ เที่ยวเนเธอร์แลนด์
และ ทัวร์ยุโรปตะวันออก เที่ยวยุโรปตะวันออก

ทัวร์โตเกียว-โอซาก้า เดินทางง่ายๆใครว่ายาก

ระหว่างโตเกียวกับโอซาก้านั้นมีระยะทางราวๆ 550 กิโลเมตร (ตามเส้นทางรถไฟสายโทไคโดะ) หากเพื่อนๆจะเดินทางจากโตเกียวไปยังโอซาก้าสามารถไปได้หลายวิธีดังนี้

1.นั่งรถไฟชินคันเซ็นสายโทไคโดะ

ขึ้นที่สถานีโตเกียวไปยังสถานีชินโอซาก้า (Shin-Osaka) โดยจะมีรถให้เลือกใช้บริการอยู่ 3 ขบวนได้แก่

1. โนโซมิ (Nozomi)
2. ฮิคาริ (Hikari)
3. โคดะมะ (Kodama)

โดยทั้ง 3 ขบวนนี้จะวิ่งสลับกันออกจากสถานีต้นทางทุกๆ 15-30 นาที บริการตั้งแต่เวลา 06.00 - 21.18 น. ซึ่งในแต่ละขบวนนั้นก็จะใช้เวลาในการเดินทางแตกต่างกันดังต่อไปนี้

ขบวนโนโซมิ (Nozomi) โดยรถไฟขบวนนี้จะใช้เวลาในการเดินทาง 2ชม. 30นาที ซึ่งเป็นขบวนที่เร็วที่สุดจากทั้งหมด 3 ขบวน

ขบวนฮิคาริ (Hikari) ใช้เวลาเดินทางจากโตเกียวไปยังโอซาก้า 3ชม. เพราะจะต้องจอดสถานีที่สำคัญ(ไม่กี่สถานีหรอก)

ขบวนโคดะมะ (Kodama) ขบวนสุดท้ายนี้จะใช้เวลาเดินทางนานที่สุดถึง 4 ชม. เพราะจะจอดทุกสถานีที่วิ่งผ่าน กว่า16สถานี ดังนั้นขบวนโคดะมะจึงเหมาะกับผู้ที่ท่องเที่ยวในสถานที่ใกล้ๆมากกว่าราคาถูกกว่า 2 ขบวนข้างบนเยอะ

แล้วสำหรับใครที่มีบัตรโดยสาร JR Pass จะใช้ได้แต่กับเฉพาะขบวน ฮิคาริ (Hikari) เท่านั้น แต่ถ้าเราเดินทางไปโอซาก้าในวันธรรมดาคือจันทร์-ศุกร์ ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องทำการจองตั๋วรถไฟกันล่วงหน้าก็ได้ สามารถขึ้นตู้ Non-Reserved Seat เลยก็ได้ (ที่นั่งจะว่างเยอะ) แต่ถ้าอยากจะจองที่นั่งเอาเองก็จะต้องทำการจองตั๋วเสียก่อน แต่ถ้าเพื่อนๆอยากจะเดินทางในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ แนะนำให้ทำการจองตั๋วล่วงหน้าก่อนดีกว่า เพราะช่วงวันหยุดนี้คนญี่ปุ่นส่วนมากก็จะนิยมเดินทางท่องเที่ยวกันด้วย

สำหรับอัตราค่าโดยสารระหว่างโตเกียวไปโอซาก้านั้น เฉพาะแบบเที่ยวเดียว (ขาไป) อยู่ที่13,000-14,000 เยน (ขึ้นอยู่กับขบวนรถและตู้โดยสาร) ถ้าเป็นแบบ Non-Reserved Seat นั้นจะมีราคาถูกกว่ากันเล็กน้อย หรือถ้าใครอยากนั่งแบบชั้นFirst Class ก็มีให้เลือก แต่ราคาก็จะสูงตามด้วย

2.นั่ง Night Bus

วิธีที่2นี้จะเป็นแบบนั่งรถบัสลักษณะของรถก็จะคล้ายๆกับรถทัวร์ในบ้านเรานั่นแหล่ะ วิธีเดินทางแบบนี้ให้เราขึ้นที่สถานีโตเกียว หรือชินจุกุก็ได้ ไปลงที่สถานีโอซาก้า ใช้เวลาในการเดินทาง 8 ชม. ค่าโดยสารประมาณ 6,000-8,000 เยน ต้องจองตั๋วไว่ล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วันด้วยนะ ส่วนใครที่มีบัตร JR Pass ก็สามารถที่จะใช้บริการรถโดยสารนี้ได้เหมือนกันนะ (แต่ไปนั่งชินคังเซ็นดีกว่า)

3.นั่งเครื่องบินจากฮาเนดะ (Haneda Airport)

นั่งเครื่องจากโตเกียวมายังสนามบินอิตามิ (Osaka Airport) ใช้เวลาเดินทางอยู่ที่ 1ชม. 30 นาที ค่าโดยสารประมาณ 18,000-20,000 เยน แต่ถ้าจะไปวิธีนี้ อาจจะต้องเสียเวลาในการเดินทางไปยังสนามบิน การผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง และการเช็คอินอื่นๆอีกหลายชั่วโมงด้วยกัน

สรุปง่ายๆ นั่งรถไฟในแบบวิธีที่ 1 ดีที่สุดแล้ว เพราะได้เก็บภาพบรรยากาศระหว่างทางไปในตัวอีกด้วย แถมยังใช้เวลาเดินทางที่ไม่นานจนเกินไป หรือถ้าใครสะดวกแบบไหนก็ตามสบาย เพราะยังไงจุดหมายปลายทางก็คือเมืองโอซาก้าเหมือนกัน

ขอขอบคุณข้อมูลการเดินทางจาก
หนังสือใครๆก็ไปเที่ยวญี่ปุ่น และ
ข้อมูลทัวร์ญี่ปุ่น ทัวร์โอซาก้า