โตเกียว แผนที่ญี่ปุ่น ฮอกไกโด เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง pantip เกียวโต ฟุกุโอกะ สถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่น ชิราคาวาโกะ ชินจูกุ เที่ยวฮอกไกโด ภูเขาไฟฟูจิ ปราสาทโอซาก้า เที่ยวโตเกียว pantip ที่เที่ยวโตเกียว นาโกย่า ทัวร์ญี่ปุ่น pantip ไปเที่ยวญี่ปุ่น วัฒนธรรมญี่ปุ่น เที่ยวเกียวโต เที่ยวโตเกียวด้วยตัวเอง โตเกียวดิสนีย์แลนด์ ทัวร์ญี่ปุ่น ฮอกไกโด ทาคายาม่า

Website Traffic

ทัวร์บูดาเปสต์ เมืองหลวงของฮังการี

ทัวร์บูดาเปสต์ เมืองหลวงของฮังการี



  ยังจำหนังไทยเรื่องที่ครองใจวัยรุ่นในสมัยก่อนได้มั้ย ดาราวัยรุ่นที่มาแรงมากในตอนนั้น และหนึ่งในตัวเอกก็ได้พูดถึงเกี่ยวกับการไปเรียนต่อที่เมือง "บูดาเปสต์" หลายคน(รวมถึงตัวผม)ในตอนนั้นก็ ฮะ! เค้าพูดว่าอะไรนะ! อะไรเปสต์ๆนะ จึงได้ลองไปหาข้อมูล แล้ะก็ถึงบางอ้อเลยครับว่ามันคือชื่อเมืองหลวงของ "ฮังการี" นั่นเอง แล้ว ฮังการีเค้ามีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอะไรบ้างหล่ะ ว่าแล้วก็เลยหาข้อมูลกันสักหน่อย ลองมาเที่ยวไปพร้อมๆกันเลยครับโผมมมมม...

ทัวร์ญี่ปุ่น ชมพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูกัง

ทัวร์ญี่ปุ่น ชมพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูกัง




พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูกัง หรือเรียกอีกอย่างว่า พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโอซาก้า ไคยูกัง (Aquarium Kaiyukan, Osaka) ชาวญี่ปุ่นเรียกสั้นๆว่า ไคยูกัง สถานที่ที่รวบรวมสัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นและในทวีปเอเชีย ตั้งอยู่ที่เท็มโปซังอาเบอวิลเลจ (Tempozan Harbor Village) อยู่ที่เมืองโอซาก้า ซึ่งเป็นอาคารสุง 8 ชั้น


พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูกัง เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 20 กรกฏาคม 1990 ด้านหน้าทางเข้ามีโครงเหล็กดัดเป็รตัวปลาฉลามวาฬตัวใหญ่ มีปลาโลมาล้อมรอบอยู่ ในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูกังแห่งนี้มีจุดที่น่าสนใจอยู่มากมายอย่างเช่น


ถ้ำทะเล
เป็นอุโมงค์ใต้น้ำซึ่งมีระยะทางกว่า 11 เมตรภายในนั้นก็จะมีฝูงปลานานาชนิดจำพวกอาศัยอยู่ในเขตร้อนและใกล้เคียงเช่น ปลากระเบน, ปลาฉลาม และ ปลานกแก้ว ว่ายไปมา สามารถถ่ายรูปได้อย่างสวยงาม


วงแหวนไฟ และ วงแหวนชีวิต
อยู่ชั้นบนสุดของพิพิธภัณฑ์ ขึ้นไปสุดปลายอุโมงค์ของถ้ำทะเล ซึ่งวงแหวนไฟ (Ring of Fire) เหตุเป็นเช่นนี้เพราะว่าบริเวณโดยรอบของมหาสมุทรแปซิฟิกมีการเกิดแผ่นดินไหวรวมถึงภูเขาไฟระเบิดบ่อยๆ และบริเวณที่เกิดระเบิดจากภูเขาไฟนั้นมีสิ่งมีชีวิตอยู่มาก จึงเปรียบเสมือนกับวงแหวนแห่งชีวิต (Ring of Life) มีความคิดที่ว่าแผ่นดินไหวและภูเขาไฟที่พร้อมจะระเบิดได้ทุกเมื่อที่ส่งผลกระทบกับทกสิ่งมีชีวิตที่ต่างก็เอื้อซึ่งกันและกัน


มหาสมุทรแปซิฟิก
โซนตรงนี้จะมีบ่อน้ำกว่า 5,400 ตันที่ระดับความลึก 9 เมตร ซึ่งทำเป็นชั้นๆลดลงมาเรื่อยๆจากชั้นบนสุด ภายในมีปลาน้อยใหญ่อยู่มากมาย เช่นปลาฉลาม ปลาวาฬ อีกฝั่งหนึ่งของเส้นทางจะเป็นบ่อจำลองของสภาพสิ่งแวดล้อม 10 บริเวณที่ตั้งอยู่วงแหวนแห่งไฟที่ล้อมรอบมหาสมุทรแปซิฟิก นอกจากนั้นส่วนหนึ่งของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ยังมีสัจว์หาดูได้ยากให้ชมกันอย่างเช่น นาก สิงโตทะเลแคลิฟอร์เนีย แมวน้ำ โลมาขาว นกเพนกวิน หมึกยักษ์ และปูแมงมุมเป็นต้นฯ รวมๆแล้วมีให้ชมกว่า 600 ชนิด กว่า 30,000 ตัว


Cr. ข้อมูลเที่ยวต่างประเทศ ทัวร์ญี่ปุ่น โอซาก้า
http://www.wonderfulpackage.com/p/Osaka/ทัวร์โอซาก้า-เที่ยวโอซาก้า

บรันเดนบูรก์ประตูเมืองเยอรมัน ทัวร์เยอรมัน

บรันเดนบูรก์ประตูเมืองเยอรมัน ทัวร์เยอรมัน


บรันเดนบูรก์ (Brandenburger Tor) เป็นประตูเมืองที่ถูกสร้างขึ้นในคริสต์วรรษที่ 18 ตอนปลาย ประตูแห่งนี้สร้างขึ้นตามแบบสถาปัตยกรรมฟื้นฟูคลาสสิก (Neoclassical) โดยปัจจุบันถือว่าเป็นสถานที่สำคัญอย่างกรุงเบอร์ลิน ประตูชัยตั้งอยู่ในใจกลางของเบอรืลิน ถนนหลวงอุนเทอร์ เดน ลินเดน (Unter den Linden) และถนนอีบัทสทราสเซ่ (Ebertstraße) ห่างออกไปจากประตูชัยหนึ่งบล๊อกเป็นอาคารรัฐสภาไรซ์สตาค



ประตูชัยแห่งนี้เมื่อตรงขึ้นไปจะเข้าสู่พระราชวังเมืองของพระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรปรัสเซีย (Prussia) พระเจ้าฟรีดิช วิลเฮล์มที่ 2 แห่งปรัสเซีย ทรงมีคำสั่งให้สร้างประตูแห่งนี้ขึ้นเพื่อให้เป็นสัญลักษณ์ของสันติภาพ โดยใช้เวลาสร้างตั้งแต่ปีพ.ศ. 2331 - 2334 โดยนายพลคารืล ก็อทท์ฮาร์ด แลงฮานส์ แต่ก็ได้รับความเสียหายในช่วงของสงครามโลกครั้งที่ 2 และในเวลาต่อมาในปีพ.ศ.2543 - 2545 ประตูบรันเดนบูรก์ก็ได้รับการบูรณะเสร็จ โดยมูลนิธิอนุรักษ์อนุสาวรีย์เบอร์ลิน (Stiftung Denkmalschutz Berlin)


ในปีพ.ศ. 2231 สมัยของพระเจ้าฟรีดริช วิลเฮล์มที่ 1 หลังสงคราม 30 ปีก่อนที่จะเริ่มสร้างประตูบรันเดนบูรก์ไม่นานนัก กรุงเบอร์ลินนั้นเต็มไปด้วยเส้นทางเล็กๆ ซึ่งอยู่ภายในป้อมดาว (Star Fort) แต่ประตูบรันเดนบูรก์ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของป้อมปราการแห่งนี้ แต่ก็เป็น 1 ใน 18 ประตูของกำแพงเบอร์ลิน (Berlin Customs Wall) ซึ่งถูกสร้างขึ้นในปีค.ศ.1730 โดยได้สร้างป้อมทับซ้อนกับป้อมปราการเก่ายาวไปจนถึงชานเมือง


ประตูบรันเดนบูรก์ได้สร้างขึ้นในยุคของพระเจ้าฟรีดริช วิลเฮล์มที่ 2 เพื่อเป็นเสมือนตัวแทนแห่งสันติภาพ ประตูนี้ประกอบด้วยเสาแบบดอริก 12 ต้น มีด้านละ 6 ต้นมี 5 ช่องทางเดิน โดยประชาชนสามารถเดินผ่านได้เฉพาะข้างกำแพงทั้งสองด้านเท่านั้น ด้านบนสุดเป็นปฏิมากรรมรูปควอดริก้า คือรถม้าลาก 4 ตัว ซึ่งเป็นของวิคตอเรียเทพแห่งชัยชนะนั่นเอง - ทัวร์เยอรมัน ทัวร์เยอรมนี


Cr. Wonderfulpackage ข้อมูลเที่ยวต่างประเทศ

ฮิโกเนะปราสาทสมัยเอโดะที่ญี่ปุ่น ข้อมูลท่องเที่ยวญี่ปุ่น

ฮิโกเนะปราสาทสมัยเอโดะที่ญี่ปุ่น ข้อมูลท่องเที่ยวญี่ปุ่น


ปราสาทฮิโกเนะ (Hikone Castle) เป็นปราสาทที่สร้างขึ้นมาในสมัยเอโดะ(โตเกียวปัจจุบัน) โดยสร้างขึ้นที่เมืองอิโกเนะ ในจังหวัดชิบะ ญี่ปุ่น ปราสาทฮิโกเนะเป็นปราสาทที่มีความสำคัญในทางประวัติศาสตร์ของเมืองชิบะ และในปัจจุบันยังเป็น 1 ใน 12 ปราสาทที่ยังคงอนุรักษ์สภาพเดิมเอาไว้ของประเทศญี่ปุ่น ที่สำคัญปราสาทฮิโกเนะยังเป็น 1 ใน 4 ของปราสาทมรดกแห่งชาติอีกด้วย


ปราสาทฮิโกเนะถูกสร้างขึ้นจริงๆในปีค.ศ. 1575 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของปราสาทโอสึ ในปีค.ศ. 1603 อี นะโอคะสึ ซึ่งเป็นหลานชายของอดีตไดเมียวนามว่า "อี นาโอะมาสะ" ได้สั่งให้ทำการย้ายปราสาทไปไปสร้างยังฮิโกเนะ และก็ยังคงมีส่วนอื่นๆของปราสาทฮิโกเนะที่ได้ย้ายมาจากปราสาทนางะฮามะ


ปีค.ศ.1622 เป็นปีที่สร้างตัวปราสาทเสร็จ และมีตระกูลนาโอะคะสึเป็นผู้ครอบครองปราสาทแห่งนี้ (ตระกูลนาโอะคะสึนั้นขึ้นตรงต่อรัฐบาลโทกุกาวะ) ในเวลาต่อมาเมื่อนาโอะทาเกะได้เข้ามาปกครองมณฑลโอมิ จริงได้ทำการสร้างตัวปราสาทจนเสร็จสมบูรณ์ในที่สุด (สร้างโดยนำหินมาจากปราสาทซาวายามะ)


ในยุคสมัยของการปฏิรูปเมจิในปีค.ศ. 1868 สมเด็จพระจักรพรรดิเมจิได้สั่งให้มีการรื้อถอนปราสาทมากมายหลายแห่ง ยกเว้นปราสาทฮิโกเนะที่ไม่ต้องรื้อถอน นั่นจึงทำให้ปราสาทนั้นมีอยู่จนถึงทุกวันนี้


ปราสาทฮิโกเนะเป็นหนึ่งในปราสาทที่มีอายุเก่าแก่มากที่สุดแห่งหนึ่งที่ยังคงสภาพดั้งเดิมเอาไว้ได้อย่างครบถ้วน และในเวลาต่อมา รัฐบาลญี่ปุ่นได้มีการจัดการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกแห่งชาติในปีค.ศ. 1952


*ปราสาทฮิโกเนะเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมได้ทุกวันในเวลา 8.30 - 17.00น. ยกเว้นวันหยุดราชการ


Cr.ข้อมูลท่องเที่ยวญี่ปุ่น
http://www.wonderfulpackage.com/tour/ญี่ปุ่น

รู้จักฮอกไกโดให้มากขึ้น

หลวงพระบาง เมืองเอกของประเทศลาว

หลวงพระบาง เมืองเอกของประเทศลาว


หลวงพระบาง เป็นเมืองหลวงในประเทศลาว ซึ่งอยู่ทางภาคเหนือ หลวงพระบางนั้นตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขงและแม่น้ำคานที่ไหลมาบรรจบกัน อีกทั้งเมืองหลวงพระบางแห่งนี้ยังเป็นที่องค์การยูเนสโกยกให้เป็นมรดกโลกอีกด้วย


หลวงพระบางเป็นเมืองเก่าแก่ในอาณาจักรล้านช้าง โดยแต่เดิมนั้นมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า "เมืองซวา" (อ่านออกเสียง ซัว ) ในปีพ.ศ. 1300 ปฐมกษัตริย์ลาวตอนนั้นคือขุนลอได้ทรงตั้งให้เมืองซวาเป็นอาณาจักรล้านช้าง และเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น "เชียงทอง"


ในช่วงปีพ.ศ. 1896 - 1916 สมัยพระเจ้าฟ้างุ้มได้เสด็จกลับมาจากกัมพูชา เพราะว่าพระบิดาและพระองค์นั้นต้องเสด็จลี้ภัยจากการโดนขับไล่จากกษัตริย์องค์ก่อน แท้จริงก็คือพระอัยกาของเจ้าฟ้างุ้มนั่นเอง ในขณะนั้นได้มีการรวบรวมกองกำลังอยู่ที่เสียมเรียบ เพื่อหวังที่จะกอบกู้ราชบัลลังก์คืนมา ในเวลาต่อมาสมัยพระโพธิสารราชเจ้าได้มีการอาราธนาพระบางซึ่งแต่เดิมนั้นได้มีการประดิษฐานไว้อยู่ที่เมืองเวียงคำขึ้นมาประดิษฐานอยู่ที่เมืองเชียงทองที่ในขณะนั้นเป็นเมืองหลวง และต่อมาก็ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น "หลวงพระบาง" ตั้งแต่นั้นมา


หลวงพระบางได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก เนื่องจากเหตุผลว่าที่แห่งนี้มีวัดวาอารามที่เก่าแก่อยู่มากมาย มีบ้านเรือนที่เป็นเอกลักษณ์ ตัวเมืองอยู่ติดรมแม่น้ำโขงและแม่น้ำคาน ที่ไหลมาบรรจบกันมีความงามตามธรรมชาติมากมายรวมถึงประเพณีที่งดงามเป็นเอกลักษณ์ โดยอ้างอิงตามหลักเกณฑ์ประกอบการพิจารณาดังต่อไปนี้

(ii) - เป็นสิ่งที่มีอิทธิพลยิ่ง ผลักดันให้เกิดการพัฒนาสืบต่อมาในด้านการออกแบบทางสถาปัตยกรรม อนุสรณ์สถาน ประติมากรรม สวน และภูมิทัศน์ ตลอดจนการพัฒนาศิลปกรรมที่เกี่ยวข้อง หรือการพัฒนาการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ ซึ่งได้เกิดขึ้นในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง หรือบนพื้นที่ใดๆ ของโลกซึ่งทรงไว้ซึ่งวัฒนธรรม
(iv) - เป็นตัวอย่างอันโดดเด่นของประเภทของสิ่งก่อสร้างอันเป็นตัวแทนของการพัฒนา ทางด้านวัฒนธรรม สังคม ศิลปกรรม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี อุตสาหกรรม ในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ
(v) - เป็นตัวอย่างอันโดดเด่นของวัฒนธรรมมนุษย์ ขนบธรรมเนียมประเพณีแห่งสถาปัตยกรรม วิธีการก่อสร้าง หรือการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ ซึ่งเสื่อมสลายได้ง่ายจากผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรมตาม กาลเวลา


สิ่งที่ทำให้หลวงพระบางได้รับการขึ้นทะเบีนทั้งเมืองนั้นเป็นเพราะว่าได้ถูกยกย่องและประเมินให้เป็นเมืองที่ได้รับการรักษาที่ดีที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในปีพ.ศ.2538




Cr. ข้อมูลเที่ยวต่างประเทศ ทัวร์ลาว
http://www.wonderfulpackage.com/tour/ลาว

เที่ยวฮอกไกโด อัศจรรย์แห่งประเทศญี่ปุ่น

เที่ยวฮอกไกโด อัศจรรย์แห่งประเทศญี่ปุ่น


แต่เดิมนั้นจังหวัดฮอกไกโดมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า "เอโซะ" และฮอกไกโดเป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับที่สองรองจากเกาะฮอนชู ซึ่งมีอุโมงค์ใต้ทะเลเชื่อมถึงกันระหว่างเกาะ ฮอกไกโด เป็นศูนย์กลางของเกาะต่าง และมีเมืองซัปโปโร ซึ่งเป็นเมืองหลวงที่ใหญ่ที่สุดของฮอกไกโด


ที่ฮอกไกโดมีประชากรอาศัยอยู่บนเกาะประมาณ 5 ล้านคน โดยส่วนใหญ่จะย้ายมาจากเกาฮอนชูกว่า 100 ปีก่อน เป็นที่ที่ชาวซามูไรได้อพยพมาอยู่ที่นี้หลังจากที่ได้แพ้ในสงคราม แต่ในความเป็นจริงที่มีในบันทึกประวัติศาสตร์แล้ว เกาะแห่งนี้มีผู้ที่อาศัยอยู่ก่อนเรียกกันว่า "ชาวไอนุ" ซึ่งปัจุบันเหลืออยู่น้อยมาก


สภาพภูมิอากาศของเกาะฮอกไกโดนั้นมีอากาศที่หนาวเย็น เฉลี่ยแล้วจะหนาวเย็นประมาณ 4-6 เดือนอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ -20 ถึง 5 องศาเซลเซียสในช่วงฤดูหนาว แล้วในหน้าร้อนจะมีอุณหภูมิอยู่ที่ 15 ถึง 30 องศาเซลเซียส

ลักษณะภูมิประเทศฮอกไกโดจะเป็นภูเขาซะส่วนใหญ่ เมืองซัปโปโรจะมีผู้คนอาศัยอยู่มากที่สุด และมีอากาศที่อุ่นกว่าที่อื่นๆในเกาะ แต่ยังไงก็ยังหนาวกว่าเกาะฮอนชู


ฮอกไกโด เป็นเกาะที่มีธรรมชาติที่สวยงามและอุดมสมบูรณ์ จึงเป็นที่สนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งในญี่ปุ่น และต่างชาติเอง ฮอกไกโด เหมาะเป็นที่พักตากอากาศ และยังมีผู้คนมาทำงานกันเพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน
เมืองฮอกไกโดมีเขตเกษตรกรรมที่มีความสำคัญที่สุดของประเทศญี่ปุ่น มีแหล่งผลิตข้าวญี่ปุ่นที่สำคัญ มีอาหารทะเลชั้นดี และผักผลไม้ที่หลากหลาย ฮอกไกโดยังเป็นแหล่งอุตสาหกรรมบางประเภทอย่างเช่นเยื่อกระดาษ แหล่งผลิตเบียร์ซัปโปโร


ที่สำคัญอีกอย่างนั้นคืออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวถือเป็นองค์ประกอบของรายได้หลักเลยทีเดียว สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดปีไม่ว่าจะเป็น ฤดูร้อนแต่อากาศกลับเย็นสบาย ชมธรรมชาติอันสวยงาม ฤดูหนาวจะมีเทศกาลที่สำคัญคือ "เทศกาลหิมะซัปโปโร" ซึ่งเป็นเทศกาลขึ้นชื่อของชาวญี่ปุ่นอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีแหล่งพักผ่อนคือบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติ สถานที่เล่นสกีก็มีอยู่มากมายเช่นกันในฮอกไกโด



Cr. ข้อมูลเที่ยวต่างประเทศ ทัวร์ญี่ปุ่น ทัวร์ฮอกไกโด
http://www.wonderfulpackage.com/tour/ญี่ปุ่น
http://www.wonderfulpackage.com/p/ทัวร์ฮอกไกโด/ทัวร์ฮอกไกโด

ทัวร์ยุโรป พระราชวังวินด์เซอร์แห่งสหราชอาณาจักร

ทัวร์ยุโรป พระราชวังวินด์เซอร์แห่งสหราชอาณาจักร


พระราชวังวินด์เซอร์ (Windsor Castle) พระราชวังแห่งนี้ตั้งอยู่ที่วินด์เซอร์ ในมณฑลบาร์คเชอร์แห่งสหราชอาณาจักร พระราชวังวินด์เซอร์สร้างขึ้นในปีค.ศ.1070 โดยสมเด็จพระเจ้าวิลเลี่ยมที่ 1 แห่งสหราชอาณาจักร การสร้างพระราชวังนั้นจะเป็นสถาปัตกรรมแบบโรมาเนสก์ พระราชวังวินด์เซอร์เป็นพระราชวังที่เก่าแก่ที่สุดในโลก และมีผู้คนอาศัยอยู่มากที่สุดในโลกด้วย


เนื้อที่ของพระราชวังนั้นมีประมาณ 45,000 ตารางเมตร พระราชวังบัคคิงแฮม พระราชวังวินด์เซอร์ และพระราชวังโฮลี รู๊ด เป็น 3 พระราชฐานแห่งราชวงศ์อังกฤษ มีการระบุว่า สมเด็จพระราชินีอลิซาเบธที่ 2 ทรงใช้เวลาในวันสุดสัปดาห์ที่พระราชวังวินด์เซอร์ เพื่อเป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงส่วนพระองค์ และเป็นทางการ


ในสมัยก่อนจนถึงปัจจุบัน พระมหากษัตริย์แห่งอังกฤษทุกพระองค์ จะมีส่วนเกี่ยวข้องในการสร้าง รวมถึงการวิวัฒนาการของพระราชวังวินด์เซอร์มาตลอด ทรงปรับเปลี่ยนอย่างหลายรูปแบบอาทิ ในสมัยก่อนเคยใช้เป็นป้อมปราการ เคยเป็นที่อยู่อาศัย และยังเคยใช้เป็นเรือนจำที่คุมขังนักโทษมาแล้ว


เมื่อจบการศึกสงครามก็จะมีการต่อเติมขยายส่วนของพระราชวังทั้งเป็นห้องที่อยู่อาศัย แต่เมื่อมีสงครามก็สามารถเปลี่ยนมาเป็นป้อมปราการอย่างแข็งแรงได้เช่นเดียวกัน


การเปลี่ยนแปลงของพระราชวังวินด์เซอร์มากที่สุดคือ ภายหลังจากสิ้นสุดสงครามดอกกุหลาบ คือการก่อสร้างชาเปลขึ้น ในช่วงที่บ้านเมืองกำลังสงบก็เริ่มมีการก่อสร้างพระราชวังเพื่อให้อยู่ได้สบายมากยิ่งขึ้น โดยไม่คำนึงถึงความแข็งแรงในการที่จะต้องเข้าสู่สงครามดังแต่ก่อน


ที่เห็นได้หลักๆเลยก็คือการสร้างระเบียงรูปเกือกม้าในปีค.ศ. 1480 เพื่อใช้เป็นที่พักของนักบวช ระเบียงรูปเกือกม้านั้นก็เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 4 แล้วในปีค.ศ. 1871 ก็ได้มีการบูรณพระราชวังขึ้นมาใหม่ จนสิ่งก่อสร้างเก่าแก่นั้นแทบจะไม่เหลือเลย




*เกร็ดเล็กน้อย ชาเปลนั้นไม่ได้หมายถึงวัดที่มีขนาดเล็กๆนะคะ ซึ่งในความหมายเดิมแล้วนั้นคือ มหาวิหารขนาดเล็ก ที่ซึ่งมีการเก็บพระศพเอาไว้ และชาเปลนั้นก็มีความสำคัญอย่างมากต่อราชวงศ์อังกฤษ



Cr. ทัวร์ยุโรป ทัวร์อังกฤษ เมืองเก่าแก่ของยุโรป
http://www.wonderfulpackage.com/tour/ยุโรป

3 สุดยอดสถานที่เที่ยวจีน ตอนที่2

3 สุดยอดสถานที่เที่ยวจีน ตอนที่2


สวัสดีค่ะเพื่อนๆชาว wonderfukpackagetravel ทุกท่าน จากในตอนที่แล้วที่ได้พาทุกคนไปยังประเทศจีน และรู้จักกับ 3 สุดยอดสถานที่ท่องเที่ยวกันไปบ้างแล้ว อ่านที่นี่ ครั้งนี้จะขอนำทุกท่านไปรู้จักยังสถานที่อื่นๆในเมืองจีนกันต่อดีกว่าค่ะ

1. พระราชวังโปตาลา (Po ta la) พระราชวังแห่งนี้ตั้งอยู่ที่กรุงลาซา เขตปกครองตนเองธิเบต พระราชวังแห่งนี้ตุ้งอยู่เหนือกว่าระดับน้ำทะเล 3,600 เมตร ตัวพระราชวังเองเป็นทั้งพื้นที่อันศักดิ์สิทธิ์และยังเป็นป้อมปราการ ซึ่งสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 17 สมัยพระเจ้าซรอนซันกัมโป ที่ทรงเป็นกษัตริย์แห่งจักรวรรดิทิเบต ตัวของพระราชวังนั้นได้ถูกทำลานเสียหายอยู่หลายครั้ง และก็ได้มีการสร้างขึ้นหลายครั้งด้วยกัน


จนมาถึงในรัชสมัยของทะไลลามะองค์ที่ 5 ได้มีพระบัญชาให้สร้างในลักษณะของวังซ้อนวัง โดยวังชั้นนอกเป็นสีขาว เรียกว่า "วังขาว" และวังชั้นในเป็นสีแดงเรียกว่า "วังแดง" ซึ่งสร้างห่างจากวังขาวนานถึง 50 ปีเลยทีเดียว


พระราชวังโปตาลามีทั้งบันไดไม้และบันไดหิน มีห้องต่างๆมากมาย มีห้องสวดมนต์ขนาดใหญ่ที่มีพุทธรูปเคารพเกือบสองแสนองค์ ในปัจจุบันพระราชวังแห่งนี้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ไปแล้ว

2. พระราชวังฤดูร้อน (Summer Palace) วังแห่งนี้ตั้งอยู่ที่กรุงปักกิ่ง อยู่ใกล้ๆกับบริเวณของพระราชวังหยวนหมิงหยวน ที่ห่างจาก พระราชวังต้องห้ามไปราว 8 กิโลเมตร


พระราชวังฤดูร้อนมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า "อี๋เหอ-ยุเหวียน" วังแห่งนี้มีพื้นที่ประมาณ 3 ตารางกิโลเมตร มีเนินเขาสูงถึง 60 เมตร ซึ่งมีตำหนักตั้งอยู่บนเนินเขา และทะเลสาบคุนหมิงมีพื้นที่ประมาณ 2.2 ตารางกิโลเมตร หรือ 3ใน4 ของพื้นที่ทั้งหมด ซึ่งทะเลสาบนี้เกิดขึ้นจากการขุดดินไปถมให้เป็นเนินเขาเพื่อใช้สร้างพระตำหนัก


พระราชวังต้องห้าม เริ่มก่อสร้างในปีค.ศ. 1115 แล้วเสร็จในปีค.ศ. 1234 ในสมัยราชวงศ์จิน เมื่อย้ายเมืองหลวงมาอยู่ที่ กรุงปักกิ่ง และได้ใช้เป็นที่ประทับของราชวงศ์หยวน จนมาถึงราชวงศ์ชิง ของจักรพรรดิเฉียนหลงได้ทรงบูรณะและสร้างตำหนักแห่งหใม่บนเนินเขาในปีค.ศ. 1749

3. เขาหวงซาน เป็นเทือกเขาที่อยู่ทางตอนใต้ของมณฑลอันฮุยของ ประเทศจีน เขาหวงซานมีชื่อเสียงในด้านทิวทัศน์อันสวยงามของยอดเขาหินแกรนิตและต้นสนหวงซานที่มีรูปร่างแปลกตา มีหมอกหนาที่ลอยอยู่ใกล้กับยอดเขา


บริเวณเทือกเขามีบ่อน้ำพุร้อนและบ่อน้ำธรรมชาติอยู่มากมาย จึงไม่แปลกนักที่จะมีของฝากเป็นภาพวาดของเขาหวงซาน รวมถึงปรากฏชื่อในทางวรรณกรรมอยู่บ่อย ปัจจุบันนี้องค์การยูเนสโกได้ให้เขาหวงซานรับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก และถือได้ว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากอีกแห่งหนึ่งในประเทศจีน


เทือกเขาหวงซานมีเขาอื่นๆอยู่เป็นจำนวนมาก แบ่งเป็นภูเขาที่มีชื่อเรียก 72 ยอดเขา และภูเขาที่มีความสูงกว่า 1,000 เมตรมีอยู่ 77 ยอด และมียอดเขาที่สูงที่สุด 3 อันดับแรกคือ
1.ยอดเขาเหลียนหัว มีความสูง 1,864 เมตร
2.ยอดเขากวงหมิง มีความสูง 1,840 เมตร
3.ยอดเขาเทียนตู่ มีความสูง 1,829 เมตร


Cr. ทัวร์จีน ทัวร์ปักกิ่ง ทัวร์สนุกประทับใจทุกบริการ
http://www.wonderfulpackage.com/p/beijing/ทัวร์ปักกิ่ง-เที่ยวปักกิ่ง
http://www.wonderfulpackage.com/tour/จีน

ภาพสวยๆจาก google.com