โตเกียว แผนที่ญี่ปุ่น ฮอกไกโด เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง pantip เกียวโต ฟุกุโอกะ สถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่น ชิราคาวาโกะ ชินจูกุ เที่ยวฮอกไกโด ภูเขาไฟฟูจิ ปราสาทโอซาก้า เที่ยวโตเกียว pantip ที่เที่ยวโตเกียว นาโกย่า ทัวร์ญี่ปุ่น pantip ไปเที่ยวญี่ปุ่น วัฒนธรรมญี่ปุ่น เที่ยวเกียวโต เที่ยวโตเกียวด้วยตัวเอง โตเกียวดิสนีย์แลนด์ ทัวร์ญี่ปุ่น ฮอกไกโด ทาคายาม่า

Website Traffic

แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ญี่ปุ่น แสดงบทความทั้งหมด

เที่ยวฮอกไกโด ชมอุทยานแห่งชาติชิเรโตะโกะ

เที่ยวฮอกไกโด ชมอุทยานแห่งชาติชิเรโตะโกะ

อุทยานแห่งชาติที่มีหมีหลากสายพันธ์ุ

สวัสดีครับเพื่อนๆ ตอนนี้อากาศก็เริ่มอุ่นขึ้นกันแล้วนะครับ แต่ถ้าใครยังอยากอยู่ที่หนาวๆอยู่นั้น ต้องมาที่ฮอกไกโดกันครับ

สภาพทะเลสาปในบริเวณอุทยานแห่งชาติ
ในวันนี้จะพาเพื่อนๆไปรู้จักกับอุทยานแห่งชาติที่จังหวัดฮอกไกโดครับ นั่นก็คือ "อุทยานแห่งชาติชิเรโดะโกะ (Shiretoko Kokuritsu Koen) " อุทยานแห่งนี้มีพื้นที่ส่วนใหญ่ครอบคลุมถึงคาบสมุทรชิเรโตโกะ อยู่ทางปลายสุดทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือบนเกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น โดยคำว่าชิเรโตะโกะ มีความหมายว่า "จุดสุดขอบโลก" แต่เดิมนั้นเป็นภาษไอนุมาก่อน

สะพานทางเดินชมอุทยานแห่งชาติ
   ที่คาบสมุทรแห่งนี้มีพื้นที่ที่อยู่ไกลที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น มีพื้นที่หลายส่วนที่จะเข้าถึงได้แค่การเดินเท้าและทางเรือเพียงเท่านั้น ภายในอุทยานนี้ชาวญี่ปุ่นจะรู้จักกันเป็นอย่างดีในเรื่องของจำนวนหมีซึ่งมีมากที่สุดในอุทยานแห่งนี้ และในปีพ.ศ. 2548 องค์การยูเนสโก้ได้ประกาศให้อุทยานแห่งชาติชิเรโตะโกะให้เป็นมรดกโลกบนพื้นที่คาบสมุทร และมีการเสนอให้ทางประเทศญี่ปุ่นพัฒนาพื้นที่นี้ร่วมกันกับเกาะคูริลในรัสเซียให้เป็นอุทยานสันติภาพมรดกโลกเป็นต้นมา







ขอบคุณเรื่องราวของทัวร์ฮอกไกโด

ฮิโกเนะปราสาทสมัยเอโดะที่ญี่ปุ่น ข้อมูลท่องเที่ยวญี่ปุ่น

ฮิโกเนะปราสาทสมัยเอโดะที่ญี่ปุ่น ข้อมูลท่องเที่ยวญี่ปุ่น


ปราสาทฮิโกเนะ (Hikone Castle) เป็นปราสาทที่สร้างขึ้นมาในสมัยเอโดะ(โตเกียวปัจจุบัน) โดยสร้างขึ้นที่เมืองอิโกเนะ ในจังหวัดชิบะ ญี่ปุ่น ปราสาทฮิโกเนะเป็นปราสาทที่มีความสำคัญในทางประวัติศาสตร์ของเมืองชิบะ และในปัจจุบันยังเป็น 1 ใน 12 ปราสาทที่ยังคงอนุรักษ์สภาพเดิมเอาไว้ของประเทศญี่ปุ่น ที่สำคัญปราสาทฮิโกเนะยังเป็น 1 ใน 4 ของปราสาทมรดกแห่งชาติอีกด้วย


ปราสาทฮิโกเนะถูกสร้างขึ้นจริงๆในปีค.ศ. 1575 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของปราสาทโอสึ ในปีค.ศ. 1603 อี นะโอคะสึ ซึ่งเป็นหลานชายของอดีตไดเมียวนามว่า "อี นาโอะมาสะ" ได้สั่งให้ทำการย้ายปราสาทไปไปสร้างยังฮิโกเนะ และก็ยังคงมีส่วนอื่นๆของปราสาทฮิโกเนะที่ได้ย้ายมาจากปราสาทนางะฮามะ


ปีค.ศ.1622 เป็นปีที่สร้างตัวปราสาทเสร็จ และมีตระกูลนาโอะคะสึเป็นผู้ครอบครองปราสาทแห่งนี้ (ตระกูลนาโอะคะสึนั้นขึ้นตรงต่อรัฐบาลโทกุกาวะ) ในเวลาต่อมาเมื่อนาโอะทาเกะได้เข้ามาปกครองมณฑลโอมิ จริงได้ทำการสร้างตัวปราสาทจนเสร็จสมบูรณ์ในที่สุด (สร้างโดยนำหินมาจากปราสาทซาวายามะ)


ในยุคสมัยของการปฏิรูปเมจิในปีค.ศ. 1868 สมเด็จพระจักรพรรดิเมจิได้สั่งให้มีการรื้อถอนปราสาทมากมายหลายแห่ง ยกเว้นปราสาทฮิโกเนะที่ไม่ต้องรื้อถอน นั่นจึงทำให้ปราสาทนั้นมีอยู่จนถึงทุกวันนี้


ปราสาทฮิโกเนะเป็นหนึ่งในปราสาทที่มีอายุเก่าแก่มากที่สุดแห่งหนึ่งที่ยังคงสภาพดั้งเดิมเอาไว้ได้อย่างครบถ้วน และในเวลาต่อมา รัฐบาลญี่ปุ่นได้มีการจัดการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกแห่งชาติในปีค.ศ. 1952


*ปราสาทฮิโกเนะเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมได้ทุกวันในเวลา 8.30 - 17.00น. ยกเว้นวันหยุดราชการ


Cr.ข้อมูลท่องเที่ยวญี่ปุ่น
http://www.wonderfulpackage.com/tour/ญี่ปุ่น

รู้จักฮอกไกโดให้มากขึ้น

ศาลเจ้ายาซากะ ศาลเจ้าที่เป็นมากกว่าศาลเจ้า - ทัวร์เกียวโต

ศาลเจ้ายาซากะ ศาลเจ้าที่เป็นมากกว่าศาลเจ้า - ทัวร์เกียวโต


จากในคราวที่แล้วผมได้พาไปเที่ยวยังศาลเจ้าเฮอัง ที่เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น หลังจากที่ได้ชมความสวยงามจากศาลเจ้าเสร็จแล้ว ผมจะพาไปต่อยังอีกศาลเจ้าหนึ่งครับ จะเป็นอย่างไรนั้นตามมากันเลย

ศาลเจ้าต่างๆในเมืองเกียวโต - ทัวร์เกียวโต

ศาลเจ้าต่างๆในเมืองเกียวโต - ทัวร์เกียวโต


ศาลเจ้าที่เมืองเกียวโตนั้นมีมากมายกว่า 400 แห่ง แต่ในวันนี้ผมขอหยิบมาเล่าแค่ 2 แห่งก่อนนะครับ ถ้าเล่าหมด 400 กว่าแห่งนี่ คงเขียนเป็นปีๆเลยหล่ะ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียนาฬิกา (กล้าเล่นเนอะ!) จะพาไปยังศาลเจ้าที่มีคนนิยมไปเป็นอันดับต้นๆของเกียวโตกันครับ

วัดนันเซ็นจิ ที่ประทับของจักรพรรดิญี่ปุ่น

วัดนันเซ็นจิ ที่ประทับของจักรพรรดิญี่ปุ่น


วัดนันเซ็นจิ (Nanzenji Temple) การเดินทางมายังวัดนี้นั้นให้นั่งรถบัสสาย 5 เพราะเป็นรถสายเดียวที่ผ่านวัดนี้ครับ (สายอื่นไกลครับกว่าจะเดินทาถึงทางเข้าวัด) จากป้าย Nanzenji Eikando-michi เดินไปไกลอยู่ครับกว่าจะถึงทางเข้าวัด มีเนินที่ต้องเดินผ่านด้วยครับ ถึงมันจะไม่ชันมากก็เถอะ (ขาลากต่อ) เป็นที่สังเกตุได้ครับว่า วัดส่วนใหญ่ที่อยู่ในเมืองเกียวโตนั้น มักจะตั้งอยู่บนเชิงเขาครับ แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าทำไมถึงต้องไปสร้างอยู่บนเนินเขา?

ในที่สุดก็เดินมาถึงหน้าประตูทางเข้าวัดจนได้ ที่วัดเซ็นนันจิมีประตูทางเข้าวัดขนาดใหญ่ มีชื่อเรียกว่า " ประตูซันมง (Sanmon) " ซึ่งสร้างขึ้นจากต้นไม้ใหญ่ทั้งต้น และถ้าอยากจะขึ้นชมประตูนี้ก็จะต้องเสียค่าเข้าชม 500 เยนด้วยครับ ประตูซันมงแห่งนี้ได้สร้างเสร็จในปีพ.ศ.2171


เมื่อเข้ามายังภายในบริเวณวัดก็จะมองเห็นสะพานอิฐแดงขนาดใหญ่อยู่ ซึ่งสะพานอิฐแดงนี้ใช้เป็นที่วางท่อน้ำจากทะเลสาปบิวา (Lake Biwa) เพื่อนำน้ำเข้ามาใช้ภายในวัดแห่งนี้ในสมัยก่อนครับ (ปัจจุบันได้เลิกใช้ไปแล้ว)


แต่เดิมนั้นวัดนันเซ็นจิเป็นวัดที่เคยเป็นวังมาก่อนครับ เป็นวังที่ใช้ประทับของพระจักรพรรดิคาเมยามะหลังจากที่ได้ทรงสละราชสมบัติไปในปีพ.ศ. 1817 โดยตัวของพระองค์นั้นทรงเลื่อมใสในการนั่งกรรมฐาน จึงได้ยกวังแห่งนี้ให้สร้างเป็นวัดนันเซ็นจิในปีพ.ศ.1834 จนถึงปัจจุบันนั่นเอง


นอกจากนั้นยังใช้เป็นที่ทำการใหญ่ของนิกายรินไซ (นิกายย่อยของพุทธศาสนานิกายเซน) ในอีกไม่กี่ปีต่อมาบริเวณศาลา Seiryo-den ที่เป็นอาคารหลักของวัด ก็มีชื่อเสียงในเรื่องของการตกแต่งสวนหินอย่างสวยงาม อีกทั้งประตูบนศาลาเป็นแบบประตูบานเลื่อน (Fusuma) อีกด้วย ซึ่งบนประตูก็มีการตกแต่งลวดลายที่สวยงามเช่นกัน ( ต้องเสียค่าเข้าชม 500 เยน เวลาเปิด 08.40 - 17.00น. ครับ )




ขอขอบคุณข้อมูลจาก
wikipedia.com
ทัวร์เกียวโต เที่ยวเกียวโต

ภาพจาก google

เกียวโต เมืองหลวงเก่าเสน่ห์แบบญี่ปุ่นขนานแท้

เกียวโต เมืองหลวงเก่าเสน่ห์แบบญี่ปุ่นขนานแท้

ทัวร์เกียวโต

เมืองเกียวโต (Kyoto) เป็นจังหวัดหนึ่งที่ตุ้งอยู่ในเขตคันไซ และแน่นอนว่าสมัยก่อนนั้นเมืองเกียวโตเคยเป็นเมืองหลวงมาก่อน (ในช่วงปี พ.ศ. 1337 - 2412) โดยแต่เดิมนั้นเกียวโตเคยมีชื่อว่า "เฮอันเกียว" มาก่อน ซึ่งมีความหายว่า "เมืองแห่งความสวยงาม" เฮอันเคียวหรือเกียวโตนี้ในสมัยก่อนเป็นที่ประทับขององค์พระจักรพรรดิญี่ปุ่นมาก่อน จนมาถึงสมัยยุคการปฏิรูปเมจิ (ปี พ.ศ. 2411) จึงได้ทำการย้ายเมืองหลวงจากเกียวโตไปยังเอโดะ (โตเกียวปัจจุบัน)

เที่ยวเกียวโต

เนื่องด้วยที่แต่เดิมนั้นเมืองเกียวโตเคยเป็นเมืองหลวงมาก่อน จึงไม่แปลกที่เมืองแห่งนี้จะมีความเจริญครบแทบทุกด้านไม่ว่าจะเป็น วัฒนธรรม ประเพณี ศิลปะ มีโบราณสถาน โบราณวัตถุ และที่เด่นๆเลยก็เห็นจะเป็นวัดหรือศาลเจ้าที่มีมากกว่า 1,650 แห่งทั่วเมือง นอกนี้ยังมีศาลเจ้าลัทธิชินโตราวๆ 400 แห่ง รวมถึงปราสาท พระราชวังที่พระจักรพรรดิเคยประทับอยู่

เที่ยวเกียวโต

ถึงแม้ว่าประเทศญี่ปุ่นจะทำสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็ตาม เมืองต่างๆหลายเมืองก็ถูกทำลาย เสียหายจากการทิ้งระเบิดหลายเมืองไม่ว่าจะเป็น โตเกียว ฮิโรชิมา นางาซากิต่างก็เสียหายมากมาย แต่เมืองเกียวโตและเมืองนารากลับไม่ถูกโจมตีจากฝ่ายสัมพันธมิตร นั่นจึงทำให้คนรุ่นหลังยังคงได้เห็นความเป็นอยู่ วัฒนธรรมศิลปะและสถาปัตยกรรมโบราณที่งดงามคงเหลือไว้จนถึงปัจจุบัน


การที่จะเดินทางไปเที่ยวเกียวโตนั้นควรใช้เวลาอย่างน้อยๆซัก 2 วันเพื่อชมวัดวาอาราม ศาลเจ้าทั่วเกียวโตเพราะแต่ละแห่งนั้นมีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์ประจำสถานที่นั้นๆ เกียวโตนั้นเป็นเมืองที่มีสเน่ห์แบบญี่ปุ่นดั้งเดิมแท้ๆ ซึ่งได้รับการอนุรักษ์เอาไว้เป็นอย่างดี


ในปัจจุบันนั้นเมืองเกียวโตเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 7 ของญี่ปุ่น ดดยมีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 1.5 ล้านคน เกียวโตมีพื้นที่ราวๆ 610 ตารางกิโลเมตร (ข้อมูลจาก wiki) เมืองเกียวโตเป็นเมืองที่มีความสำคัญในอันดับต้นๆในเรื่องของการท่องเที่ยวทางด้านวัฒนธรรมและโบราณสถาน นั่งจึงทำให้นักท่องเที่ยวที่ได้มีโอกาสมาเที่ยวญี่ปุ่น จึงมาเที่ยวชมเมืองนี้เป็นอันดับต้นๆก็ว่าได้....


การเดินทางจากโอซาก้าไปยังเกียวโต มีวิธีดังต่อไปนี้


  1. JR Tokyo Line จากสถานีโอซาก้าไปลงที่สถานีเกียวโต ใช้เวลาเดินทาง 25 นาทีโดยประมาณ (ค่าโดยสาร 540 เยน)
  2. JR Tokaido Shinkansen จากสถานีชินโอซาก้า (Shin-Osaka) ลงที่สถานีเกียวโต ใช้เวลาเดินทาง 16 นาที (ค่าโดยสาร 1,380 เยน)
  3. JR Haraku Airport Express ขึ้นจากสนามบินคันไซ จะมีสถานีให้เลือกหลายสายได้แก่ สถานี Tennoji, Nishikujo, Shin-Osaka ไปลงยังสถานีเกียวโต
  4. Keihan Railway จากสถานีโยโดบาชิ (Yodobashi) ไปลงที่สถานี Sanjo Station ในเกียวโต ใช้เวลาประมาณ 50 นาที (ค่าโดยสาร 400 เยน)
  5. Hankyu Railway จากสถานีอูเมดะ (Umeda) ไปลงที่สถานี Karasuma ในเกียวโต ใช้เวลาเดินทาง 50 นาที (ค่าโดยสาร 390 เยน) ทัวร์เกียวโต



ขอขอบคุณข้อมูลจาก
http://www.wonderfulpackage.com
http://th.wikipedia.org

ขอคุณรูปภาพจาก
Google.in.th
wallpoper.com
unforbiddingcity.files.wordpress.com
jmjtravels.com

การเดินทางจากสนามบินคันไซเข้าตัวเมือง

การเดินทางจากสนามบินคันไซเข้าตัวเมือง


หากเดินทางไปจากเมืองไทยและมาลงที่สนามบินนานาชาติคันไซ (Kansai International Airport) มีวิธีการเดินทางเข้าเมืองได้ง่ายๆดันต่อไปนี้


1.นั่ง JR Haruka Limited Express รถไฟสายด่วนพิเศษจากสนามบินนานาชาติคันไซ ที่นั่งกว้างขวางนั่งสบาย มีที่วางกระเป๋าใบใหญ่ๆ ผ่านสถานีเท็นโนจิ (Tennoji) ทางใต้ของโอซาก้าอ้อมเมืองขึ้นไปผ่านสถานี Shin-Osaka ที่สามารถต่อรถไฟชินคันเซ็นไปยังเมืองอื่นได้ หรือจะนั่งเลยไปยังสถานีเกียวโต ซึ่งเป็นสถานีปลายทาง รถจะออกทุก 30 นาที ตั้งแต่เวลา 06.34-22.16น.

  • ถึงสถานี Tennoji ใช้เวลาในการเดินทาง 30 นาที ค่าโดยสาร 2,100 เยน
  • ถึงสถานี Shin-Osaka ใช้เวลาในการเดินทาง 50 นาที ค่าโดยสาร 2,800 เยน
  • ถึงสถานี Kyoto ใช้เวลาในการเดินทาง 70 นาที ค่าโดยสาร 3,500 เยน

ถ้านั่งตู้ Non-Reserved Seat ค่าโดยสารจะถูกกว่านี้ แนะนำให้นั่งแบบนี้ก็พอเพราะนั่งสบายเหมือนกัน ราคาตามข้างบนนั้นเป็นราคาโดยสารในตู้ชั้นหนึ่ง (Green Car) เท่านั้น ผู้ที่มีบัตร JR Pass ใช้นั่งตู้ Non-Reserved Seat ได้เหมือนกัน


2.นั่ง JR Kansai Airport Rapid Service เป็นอีกทางเลือกที่ประหยัดเช่นกัน ใช้เวลาในการเดินทางนานกว่าแบบที่ 1 ประมาณ 20 นาที รถไฟวิ่งจากสถานีโอซาก้ามาสิ้นสุดที่สถานีโคบาชิ (Kyobashi) เชื่อมทางเข้ากับรถไฟสาย JR Osaka Loop Line ที่วิ่งวนรอบเมืองโอซาก้า

  • เดินทางมาถึงสถานีเท็นโนจิ (Tennoji) ใช้เวลาเดินทาง 50 นาที ค่าโดยสารราวๆ 1,030 เยน
  • เดินทางมาถึงสถานีโอซาก้า (Osaka) ใช้เวลาเดินทาง 70 นาที ค่าโดยสารราวๆ 1,160 เยน

โดยจะมีรถออกทุก 20 นาที แต่ถ้าหากไม่รีบร้อนเดินทางและก็ไปยังแค่สถานีโอซาก้านั้น การเลือกนั่งขบวนนี้ก็จะทำให้ประหยัดไปได้หลายตังค์เลยทีเดียว (สามารถนั่งขบวนนี้กลับไปยังสนามบินได้อีกด้วย)


3.นั่งรถไฟสาย Nankai Railways ลงที่สถานีนัมบะ (Numba) อยู่ใกล้ๆย่านชินไซบาชิ โดยรถไฟสายนี้จะมีให้เลือกอยู่ 2 ขบวนได้แก่

  1. สาย Nankai Rapid จะมีรถออกทุก 30 นาที รถไฟสายนี้จะใช้เวลาเดินทางประมาณ 35 นาที ค่าโดยสารที่ 1,400 เยน
  2. สาย Nankai Airport Express รถจะออกทุกๆ 30 นาที ซึ่งใช้เวลาเดินทาง 45 นาที ค่าโดยสารอยู่ที่ 890-900 เยน


4.นั่ง Airport Limousine Bus ซึ่งจะมีหลายเส้นทางให้เลือกใช้บริการ อย่างเช่น

  • Osaka Station ใช้เวลาในการเดินทางราว 60 นาที ค่าโดยสารอยู่ที่ 1,300 เยน
  • Kyoto Station ใช้เวลาในการเดินทางราว 100 นาที หรือประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่ง ค่าโดยสารอยู่ที่ 2,500 เยน
  • Kobe Sannomiya Station ใช้เวลาเดินทางราว 70-75 นาที ค่าโดยสารอยู่ที่ 1,800 เยน
  • JR Nara Station ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 80 นาที ค่าโดยสารอยู่ที่ 1,800 เยน (ราคาเท่ากันกับสาย Kobe Sannomiya Station แต่ใช้เวลาในการเดินทางมากกว่า) ทัวร์โอซาก้า เที่ยวโอซาก้า


Cr.google pic
บทความ ใครๆก็เที่ยวญี่ปุ่นได้

ทัวร์โอซาก้า เรียนรู้ยุคสมัยอันรุ่งเรืองและร่วงโรย

ทัวร์โอซาก้า เรียนรู้ยุคสมัยอันรุ่งเรืองและร่วงโรย



ยุคก่อนประวัติศาสตร์ยุคโคะฟุง

หลักฐานอย่างดีในการมาตั้งถิ่นฐานที่โอซาก้า คือแหล่งประวัติศาสตร์โมริโนมิยะ (Morinomiya iseki) ซึ่งมีการค้นพบสุสานของหอยนางรมรวมถึงโครงกระดูกของมนุษย์ในสมัย 600 ปีก่อน เป็นที่เชื่อกันว่าบริเวณที่ชื่ออุเอฮงมิยะที่ทุกวันนี้กลายเป็นคาบสมุทรและมีทะเลทางแผ่นดินตะวันออก ในสมัยยาโยอิได้มีการค้นพบการตั้งรกรากเป็นครั้งแรก ในบริเวณพื้นที่ราบลุ่มของโอซาก้า โดยยึดการปลูกข้าวโพดเป็นอาขีพ




ในยุคโคฟุง จังหวัดโอซาก้าได้เริ่มพัฒนาทางท่าเรือเพื่อให้เป็นที่เชื่อมต่อกับทางด้านตะวันตกของญี่ปุ่น ในบริเวณที่ราบแห่งนี้ก็มีการขุดพบสุสานโครงกระดูกเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นหลักฐานในการนำไปสู่การสร้างประเทศในเวลาต่อมา



ยุคอาซึกะและยุคนาระ

ในปี 1188 ได้มีการสร้างพระราชวังนานิวะนางาระ โทโยะซางิ ขึ้นที่โอซาก้าโดยการนำขององค์จักรพรรดิโคโตกุ และในเวลาต่อมาก็ได้กลายมาเป็นเมืองหลวงขึ้นชื่อกรุงนิวะ ที่แห่งนี้ได้กลายมาเป็นเมืองแบบใหม่และเรียกกันว่านานิวะและใช้มาจนถึงในปัจจุบัน ชื่อนี้ใช้เรียกกันเฉพาะส่วนกลางของจังหวัดโอซาก้า และก็เพี้ยนมาเป็นนับบะ ปัจจุบันนี้ถึงแม้ว่าจะมีการย้ายเมืองหลวงไปที่อาซึกะในจังหวัดนาระแล้ว ในปี 1198 นานิวะก็ยังเคยเป็นศูนย์กลางทั้งทางบกและทางน้ำระหว่างยามาโตะไปเกาหลีและจีน



ต่อมาในปี 1287 นานิวะก็กลับมาเป็นเมืองหลวงอีกครั้งด้วยคำสั่งของจักรพรรดิโชมุ แต่ก็เมืองหลวงได้แค่ปีเดียวก็ได้ย้ายเมืองหลวงกลับไปที่เฮโจ(นาระ) อีกครั้งโดยทางราชสำนัก ปลายยุคนาระท่าเรือต่างๆค่อยๆกลายมาเป็นที่พักอาศัยของชาวเรือ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีความคึกคักกันเลยซะทีเดียว ยังคงบรรยากาศที่คึกคักทั้งริมสองฝั่งแม่น้ำลำคลอง และการคมนาคมทางบกไปยังกรุงฮัน ซึ่งปัจจุบันคือเมืองเคียวโต และเมืองอื่นๆ



ยุคเฮอันและยุคเอโดะ

ในปี 2039 ได้มีการก่อตั้งศาสนาพุทธ เป็นนิกายโจโดะชินชู มีศูนย์กลางอยู่ที่อิชิยะมาฮงกันจิในพื้นที่ของพระราชวังนิวะ โดยไดเมียวโอดะ โนบุนางะ เป็นหนึ่งในสามผู้รวบรวมประเทศญี่ปุ่นในปี 2113 จานั้นสิบปีให้หลัง พระในวัดที่โดนล้อมก็ยอมจำนน และตัววัดก็ถูกทำลายลงไม่เหลือแม้แต่ซาก หลังจากนั้นไดเมียวทั้งสองคน (ไดเมียวโทโยโตมิ ฮิเดโยชิ และไดเมียวโอดะ โนบุนางะ) จึงได้สร้างปราสาทโอซาก้าขึ้นมาแทนที่วัดแห่งนี้ ทัวร์โอซาก้า เที่ยวโอซาก้า






Cr.ภาพ leesdynasty และ djsandkp

อุทยานแห่งชาติชิเรโตโกะ - ทัวร์ฮอกไกโด

อุทยานแห่งชาติชิเรโตโกะ - ทัวร์ฮอกไกโด


อุทยานแห่งชาติชิเรโตโกะ (Shiretoko Kokuritsu Koen) ตั้งอยู่ที่เกาะฮอกไกโด พื้นที่โดยส่วนใหญ่ของอุทยานแห่งชาติชิเรโตโกะอยู่ทางปลายสุดของคาบสมุทรชิเรโตโกะทางตะวันออกเฉียงเหนือของฮอกไกโดประเทศญี่ปุ่น "ชิเรโตโกะ" มีความหมายว่า "สุดขอบโลก"


โดยที่คาบสมุทรแห่งนี้อยู่ไกลจากเขตเมืองของฮอกไกโดมากและยังมากที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่นอีกด้วย ทำให้มีพื้นที่หลายๆส่วนเข้าถึงได้โดยการเดินทางจากทางเรือเท่านั้น



อุทยานแห่งชาติชิเรโตโกะเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นแหล่งที่สามารถพบหมีอาศัยอยู่เป็นประชากรมากที่สุดของญี่ปุ่น



ปีพ.ศ. 2548 ที่อุทยานแห่งชาติชิเรโตโกะได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้ และมีการเสนอให้ประเทศญี่ปุ่นพัฒนาพื้นที่ร่วมกับเกาะคูริลของประเทศรัสเซียให้เป็น อุทยานสันติภาพมรดกโลก



ที่ชิเรโตโกะนั้นก็ยังได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกจากการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกในครั้งที่ 29 ในปี พ.ศ. 2548 ที่เมืองเดอบันประเทศแอฟริกาใต้ ซึ่งมีข้อกำหนดและหลักในการพิจารณาดังต่อไปนี้
1. เป็นแหล่งที่เกิดจากทางธรรมชาติอันมีเอกลักษณ์หายากหรือมีความสวยงามเป็นพิเศษ อาทิ แม่น้ำ น้ำตก ภูเขา
2. เป็นที่อยู่อาศัยของชนิดสัตว์พันธุ์พืชที่หาได้ยาก แต่ยังคงสามารถที่จะดำรงชีวิตอยู่ได้ ซึ่งรวมไปถึงระบบนิเวศที่เป็นแหล่งรวมความอุดมสมบูรณ์ของสิ่งมีชีวิตที่ทั่วโลกให้ความสนใจ ทัวร์ฮอกไกโด เที่ยวฮอกไกโด

ไปเที่ยวฮอกไกโดกันเถอะ

ไปเที่ยวฮอกไกโดกันเถอะ

ฮอกไกโด

ฮอกไกโด (Hokkaido) หรือเอโซะ ชื่อแต่เดิม ฮอกไกโดเป็นชื่อจังหวัดและเป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับที่สองของประเทศญี่ปุ่นรองจากเกาะฮอนชู เกาะฮอกไกโดนั้นมีอุโมงค์ที่เขื่อมถึงกันได้ชื่อว่า "อุโมงค์ใต้ทะเลเซคัง" จังหวัดฮอกไกโดเป็นเขตการปกครองเป็นหมู่เกาะน้อยใหญ่รวมอยู่ โดยมีฮอกไกโดเป็นศูนย์กลาง และยังเป็นเมืองหลวงของซับโปโรอีกด้วย

Hakone เมืองท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น

Hakone เมืองท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น

ทัวร์ญี่ปุ่น

Hakone Kora Park

เที่ยวญี่ปุ่น

เมื่อลองเดินตามถนนเลียบทางขึ้นรถไฟไปราวๆ 10 นาทีก่อนที่จะถึงสถานีโกร่า จะสังเกตุเห็นป้ายบอกทางไปยังสวนโกร่าปาร์ค (Gora Park) ที่ชี้ขึ้นไปบนเนินเขาสูงชัน ทำเอาเกือบจะถอดใจไปเหมือนกัน แต่ไหนๆก็อุส่าเดินทางมาถึงที่นี่แล้ว จะถอยกลับก็คงไม่ได้ เอาเว๊ย ต้องลองสักครั้ง!! กว่าจะเดินถึงและกว่าจะหาทางเข้าเจอ ทำเอาท้อเหมือนกัน ภายในสวนโกร่าแห่งนี้เป็นสวนหินขนาดใหญ่ มีทั้งต้นไม้ ดอกไม้นานาพันธ์ุ แล้วยังมีสระน้ำพุยักษ์ (Gigantic Fountain Pond)

Sounzan Cable Car

  หลังกจากที่เดินชมสวนโกร่าเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาลงเขาเพื่อไปขึ้นรถรางเคเบิ้ลคาร์ (Sounzan Cable Car) ซึ่งอยู่ที่สถานีโกร่า (Gora) เพื่อขึ้นไปยังสถานี Sounzan บนยอดเขาที่มีระดับความสูง 761 เมตรโดยประมาณ ตัวรถเคเลิ้ลนั้นจะมีเพียงแค่ 2 ตู้ ออกทุกๆ 15-30 นาที แล้วจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 9 นาที และจะแวะจอดตามสถานีเล็กๆตามรายทางที่ค่อยๆสูงขึ้นไปด้วย (ประมาณ 3-4 สถานีได้) ส่วนค่าโดยสารนั้นอยู่ที่คนละ 410 เยน ด้วยรถที่มีบริการจำกัดและนานๆก็จะออกที จัดทำให้บนรถอัดแน่นด้วยผู้โดยสารเหมือนปลากระป๋อง - -"




กระเช้าไฟฟ้า Hakone Ropeway


  จากสถานี Sounzan นั่งกระเช้าไฟฟ้า (Rope way) ต่อไปอีก 7 นาทีก็จะมาถึงสถานีโอวาคุดานิ (Owakudani) ในระหว่างทางมองลงไปข้างล่างจะเห็นควันออกจากบ่อกำมะถันที่พวยพุ่งขึ้นมาจากภูเขา ที่โอวาคุดานิมีอาหารที่ขึ้นชื่อและเป็นสัญลักษณ์อีกอย่างหนึ่งนั่นก็คือ "ไขดำโอวาคุดานิ" แวะชิมไปด้วยในขณะที่นั่งกระเช้า กระเช้าสามารถรับผู้โดยสารได้ครั้งละ 8 คน


  หลังจากแวะชิมไข่ดำแล้วเปลี่ยนกระเช้า ในครั้งนี้จะเป็นกระเช้าที่จุได้ 4 คนเท่านั้น ผ่านสถานีอูบาโกะ (Ubako) ซึ่งไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจ ใช้เวลาเดินทางอีกประมาณ 18 นาทีก็จะมาถึงสถานีโทเดนได (Todendai) เพื่อเตรียมจะลงเรือล่องในทะเลสาปอาชิต่อไป ประเทศญี่ปุ่น ทัวร์ญี่ปุ่น เที่ยวญี่ปุ่น









ระหว่างทางบนกระเช้าและที่สถานีโอวาคุดานิ ท่องเที่ยวญี่ปุ่น จะอยู่ที่ระดับความสูงถึง 1,044 เมตร แล้วในวันที่อากาศแจ่มใสปรอดโปร่งก็สามารถที่จะมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้อย่างชัดเจนอีกด้วย สำหรับค่าโดยสารกระเช้าไฟฟ้าทั้งสองช่วงแบ่งเป็น เที่ยวเดียวราคาอยู่ที่ 1,330 เยน และแบบไป-กลับ อยู่ที่ 2,340 เยน

ขอบคุณข้อมูลจาก Wonderfulpackage.com
Cr.รูปภาพจาก Google

ภูเขาไฟฟูจิ - เที่ยวญี่ปุุ่น

ภูเขาไฟฟูจิ

ท่องเที่ยวญี่ปุ่น

  บริเวณของภูเขาฟูจิตั้งอยู่ในเขตชูบุ (Chubu) รายล้อมไปด้วยทะเลสาปยามานากะ คาวากูชิ ไซ โชจิและโมโตสึ ภูเขาไฟฟูจิเปรียบเหมือนเป็นสัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่นที่คนทั่วโลกรู้จักกันดี เป็นภูเขาที่มีความงดงามด้วยรูปทรงกรวยที่สมส่วน บนยอดเขามีหิมะปกคลุมตลอดปี ผู้ที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นต่างมุ่งตรงไปยังที่นี่หรือไม่ก็ชมอยู่ห่างๆก็พอใจแล้ว เพราะทางญี่ปุ่นให้สามารถปีนขึ้นไปได้ในช่วงเดือนกรกฏาคม - สิงหาคมเท่านั้น

เจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่วัดฮาเสะเดระ - ญี่ปุ่น

เจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่วัดฮาเสะเดระ - ญี่ปุ่น

ทัวร์ญี่ปุ่น

จากวัดพระใหญ่เดินลงมาไม่ไกล มีเจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่ประดิษฐานอยู่ที่วัดฮาเสะ (Hasedera Temple) เห็นโคมไฟสีแดงใบใหญ่แขวนอยู่ตรงประตูทางเข้าวัด

เข้าไปด้านในวัดดูสวยงามด้วยการจัดสวนแบบญี่ปุ่น สระน้ำที่มีปลาคาร์ฟสวยๆว่ายอยู่ในบ่อ ต้นซากุระที่นี่กำลังออกดอกห้อยระย้าไม่เหมือนที่อื่น ก่อนที่จะขึ้นไปนมัสการองค์เจ้าแม่กวนอิมจะต้องแวะชมรูปปั้นหินเทวรูปหิน "จิโสะ" กันก่อนมีจำนวนกว่าพันองค์เลทีเดียว เทวรูหินเหล่านี้สร้างขึ้นเพื่ออุทศให้แด่เด็กทารกที่เสียชีวิตจากการทำแท้ง เราจึงเห็นผ้าเอี๊ยมกับหมวกไหมพรมสีแดงสดใส่บนองค์เทวรูป

เดินขึ้นบันไดไปจึงจะถึงวิหารที่ประดิษฐานของเจ้าแม่กวนอิมแกะสลักจากไม้หุ้มด้วยทององค์ใหญ่ปาง 11 พักตร์ สูงถึง 9.18 เมตร ใหญ่สุดในญี่ปุ่นรวมทั้งพระพุทธรูปปางต่างๆประทับอยู่กลางแจ้งอีกหลายองค์


ที่มุมด้านหน้าของวิหารใหญ่เป็นจุดชมวิวสามารถมองเห็นชายฝั่งทะเลอ่าวซากะมิของเมืองคามาคุระจากตรงนี้ได้อย่างชัดเจน

ก่อนออกมาอย่าลืมไปมุดเข้าถ้ำ ภายในมีพุทธรูปเล็กๆองค์สีเหลืองตั้งเรียงรายอยู่หลายร้ององค์ บรรยากาศภายในดูร่มรื่นมาก ก่อนออกมามีแม่ชีคอยยืนส่งทางให้ด้วยเช่นกัน บริเวณด้านหน้าทางเข้าวัดมีร้านขายสินค้าที่ระลึกอยู่หลายร้านเลือกซื้อกันได้ตามสะดวก จากนั้นเดินไปขึ้นรถไฟสาย Enoden ที่สถานีฮาเสะที่อยู่ใกล้ๆกลับไปยังสถานีคามาคุระ

เที่ยวญี่ปุ่น

ค่าเข้าชมวัดฮาเสะ ผูใหญ่ 300 เยน เด็กอายุ 6-11 ปี 100 เยน
เวลาเปิดปิดให้เข้าชม ทุกวันเวลา 08.00-17.30น. (ในเดือนจุลาคม-กุมภาพันธ์ เปิดถึง 16.30น.)

ตั๋วโปรโมชั่นสำหรับเที่ยวชมเมืองคามาคุระ
1.Kamakura Enoshima Free Kippu สามารถใช้ขึ้นรถไฟของ JR,Enoden Line และ Shonan Monorail สามารถใช้เดินทางได้ไม่จำกัดในเมืองคามาคุระ รวมทั้งใช้เดินทางไป-กลับจากสถานีรถไฟ JR Yamanote สถานีไหนก็ได้ในโตเกียว ตั๋วมีอายุใช้งานได้ 2 วัน สามารถหาซื้อได้ตามตู้ขายตั๋วอัตโนมัติในสถานีรถไฟ JR ทุกแห่ง

*สำหรับผู้ที่มีบัตรโดยสาร JR Rail Pass สามารถเดินทางมาท่องเที่ยวที่คามาคุระได้ เพียงแต่ต้องจ่ายค่าโดยสารรถไฟสาย Enoden หรือรถเมล์เพิ่มอีกหน่อย - เที่ยวญี่ปุ่น ทัวร์ญี่ปุ่น

ชมพระใหญ่ไดบุตสึ เมืองคามะคุระที่ประเทศญี่ปุ่น

ชมพระใหญ่ไดบุตสึ เมืองคามะคุระประเทศญี่ปุ่น



  • ผมนั่งรถเมล์จากป้ายหมายเลข 6
หน้าสถานีรถไฟ Kamakura ใช้เวลาประมาณ 15 นาทีก็ถึงทางเข้าวัดพระใหญ่แห่งเมืองคามาคุระ - ญี่ปุ่น ซื้อบัตรเข้าชมแล้วเดินผ่านกลุ่มต้นสนที่ขึ้นเขียวชะอุ่ม สักพักก็ถึงลานกว้าง จึงมองเห็นพระใหญ่ตั้งสูงอยู่กลางแจ้ง

Yokohama Landmark Tower ตึกที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น

Yokohama Landmark Tower ตึกที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น


   ถ้าเราลองเดินออกมาจากสถานี JR Sakuragi-cho ก็จะสามารถมองเห็นตึกตั้งสูงเด่นเป็นตกที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นมี 70 ชั้น มีความสูงที่ 296 เมตร โดยสามารถขึ้นลิฟท์ที่เร็วที่สุดในโลก (Sky Rockets) โดยขึ้นจากชั้นล่างสุดไปยังชั้นที่ 69 ใช้เวลาแค่เพียง 40 วินาทีเท่านั้นเองก็จะสามารถขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์ของเมืองโยโกฮาม่าได้ และในวันไหนที่สภาพอากาศแจ่มใส มีฟ้าโปร่งก็จะสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้อย่างชัดเจน

จากทางออกสถานีซากุระกิโจ จะมีทางเดินเชื่อมต่อตึก โดยทางผ่านจะเป็นศูนย์การค้า อาคาร Queen Tower ไปสิ้นสุดที่ Queen's Square เป็นช้อปปิ้งมอลล์ขนาดใหญ่ติดกับอ่าวโยโกฮาม่า และถ้าเดินต่อไปอีกนิดก็จะมี Pacifico Yokohama เป็นศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ พร้อมด้วยโรงแรมหรู Grand Intercontinental Hotel ระดับห้าดาว เป็นรูปทรงเรือใบตั้งอยู่



*Sky Garden เป็นจุดชมวิวที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น อยู่บนชั้นที่ 69 ตึก Yokohama Landmark Tower 
ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 1,000 เยน เยาวชน 800 เยน และเด็ก 500 เยน
เวลาเปิด-ปิด เปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00 - 21.00 น. (วันเสาร์เปิดถึง 22.00 น.) ทัวร์ญี่ปุ่น


สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญในสวนอุเอโนะ

สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญในสวนอุเอโนะ


1.พิพิธภัณฑ์

  • Tokyo National Museum พิพิธภัณฑ์แห่งชาติโตเกียว ที่ใหญที่สุดในญี่ปุ่น
  • Nationlal Science Museum พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ
  • National Museum of Western Art พิพิธภัณฑ์ศิลปะตะวันตก
  • Tokyo Metropolitan Art Museum พิพิธภัณฑ์ศิลปะโตเกียว
  • Ueno Royal Museum พิพิธภัณฑ์อุเอโนะ
  • Shitamachi Museum พิพิธภัณฑ์ชิตามาชิ จัดแสดงวิถีของสมัยเอโดะ
  • Orient Museum พิพิธภัณฑ์ตะวันออก จัดแสดงศิลปะประเพณีของชาวตะวันออกก

2.สวนสัตว์อุเอโนะ (Ueno Zoo)

3.ศาลเจ้าโทโชกุ (Toshogu Shrine)

4.วัดเบนเทนโด (Bentendou)

5.วัดเคนเนจิ (Kaneji Temple)

6.อนุสาวรีย์ท่านไซโก้ ทากาโมริ (Saigo Takamori) รูปปั้นจูงสุนัข ตั้งโดดเด่นอยู่ตรงทางเข้าใกล้สถานี JR Ueno ท่านไซโก ได้รับฉายาว่า "The Last Samurai" ผู้นำในการต่อสู้ของชาวซามูไรญี่ปุ่นผู้ยิ่งใหญ่ จะเห็นว่ามีนักศึกษาสาวๆมาทัศนศึกษาประวัติของท่านอยู่เป็นกลุ่มๆ และถ้าหากมาที่แห่งนี้ในช่วงเช้าๆ ม้านั่งอนุสาวรีย์จะกลายเป็นบ้านพอให้ได้หลับนอนของคนพเนจรอยู่ให้เห็นกันบ่อยๆไม่ต่างจากเมืองอื่นๆเท่าไหร่ บุคคลเหล่านี้หาเลี้ยงชีพตนด้วยการเร่ขายของภายในสวนสาธารณะนั่นเอง